'ธีรรัตน์' โวกลางสภารัฐบาลพักแค่วันละ 1 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ชายแดน

'สส.ภท.' ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน 'รมช.มหาดไทย' ต่อสายโฟนอิน 'ผู้ว่าฯ อุบล' ตอบกลางสภา ลั่น 'รัฐบาล' ไม่นิ่งนอนใจ-ไม่เคยหลับอย่างสบายใจสักวันเดียว

31 ก.ค.2568 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 8 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ที่มีนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม นายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายให้นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มาตอบกระทู้แทน

โดยนายธนา กล่าวว่า ก่อนอื่นขอเชิดชูเกียรติทหารที่เสียสละไม่ว่าจะเป็นตำรวจตระเวนชายแดนที่คอยปกป้องอธิปไตยของไทย และขอสดุดีเชิดชูเกียรติถึงบุคคลที่อยู่แนวหลัง ซึ่งคอยดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และเป็นกำลังใจให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

สำหรับบรรยากาศ และสิ่งที่ได้พบเจอ 7 วันที่ผ่านมายังไม่มีงบของส่วนกลางลงพื้นที่เลยแม้แต่บาทเดียว ที่บอกว่าอนุมัติแล้วทุกวันนี้อาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และบางที่ส่วนเบิกจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รัฐบาลนอนหลับได้อย่างไร เพราะประชาชนในพื้นที่และรอบข้าง ฟังทั้งเสียงปืนเล็กและเสียงปืนใหญ่ ผู้อพยพที่มาในศูนย์พักพิง บางคนยังไม่มีแม้กระทั่งรองเท้าจะใส่หรือเสื้อจะเปลี่ยน ถ้าไม่มีบุคคลที่เป็นจิตอาสาคิดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นกว่านี้หรือ

นายธนา ขอถามกลับไปยังรัฐบาลว่า เงินเยียวยา ที่จะมอบให้กับประชาชนในพื้นที่หากเทียบกับในภาคใต้แล้วมอบ ให้กับประชาชนที่เสียชีวิตถึง 7 ล้านบาท แต่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา มอบให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเพียง 1 ล้านบาท ส่วนครอบครัวผู้อพยพดูแลครอบครัวละ 3,000 บาท ซึ่งหนึ่งครอบครัวประกอบด้วยคนมากกว่า 10 คนจะเพียงพอหรือไม่ รัฐบาลมีมาตรการเชิงรุกอะไรหรือไม่ ในการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะครั้งนี้

นอกจากนี้ เรื่องค่าไฟตามศูนย์อพยพได้มีการเตรียมการไว้หรือไม่ รวมไปถึงค่าตอบแทนถึงทหารทั้งแนวหน้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนในแนวหลัง อีกทั้งค่าเยียวยาจิตใจหลังเหตุปะทะสงบลง ประชาชนในพื้นที่จะนอนหลับหรือไม่

ขณะที่นางสาวธีรรัตน์ ชี้แจงว่า ขณะนี้ในพื้นที่ชายแดนทั้ง 7 จังหวัด มีการปะทะกัน ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งบางพื้นที่มีสถานการณ์ที่สงบขึ้นแล้ว แต่ในบางพื้นที่ยังได้รับทราบรายงานว่า ยังมีความไม่ปลอดภัยอยู่ ซึ่งเหตุการณ์นั้น ก็สร้างความสะเทือนใจให้กับพวกเราเป็นอย่างมาก โดยได้มีการใช้พื้นที่สภาแห่งนี้ในการพูดคุยรับฟังความคิดเห็น เบื้องต้นตนเคยนำเรียนไปแล้วถึงแผนการการเฝ้าระวังพื้นที่สวนหลังที่ได้มีการตระเตรียมมาแล้ว เพราะเรารู้ดีว่าสถานการณ์ชายแดนอยู่ในความไม่สงบ ฉะนั้น การเตรียมการทุกอย่างเป็นไปตามระบบ และขั้นตอน

สำหรับกรณีที่เพื่อนสมาชิกนำความไม่สบายใจมาบอกให้พวกเรารับทราบ ตนก็คิดว่าท่านเองได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนอย่างเต็มกำลังความสามารถ แต่อาจมีบางส่วนที่บกพร่องไป เช่น ศูนย์อพยพ จากกรณีที่ท่านได้ลงไปเยี่ยมเยียน ซึ่งอาจมีความไม่ครบถ้วนของเครื่องอุปโภคบริโภค หรือการที่เจ้าหน้าที่รัฐอาจยังไม่เข้าใจในวิธีปฏิบัติเรื่องการใช้งบประมาณ จึงใช้พื้นที่สภาแห่งนี้ ทำความเข้าใจ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข้อเท็จจริงมากที่สุด จึงไม่อยากให้ท่านใช้อารมณ์จากประสบการณ์ที่ท่านได้พบมา เพราะจะทำให้การแก้ไขปัญหาของเราไม่สามารถประสบความสำเร็จไปในทิศทางที่ดีได้ ถ้าจะให้ดี อยากให้ท่านตั้งใจที่จะรับฟัง ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ

นางสาวธีรรัตน์ นำตัวอย่างภาพความเสียหายขึ้นมาให้ดู พร้อมอธิบายว่า พวกเราที่อยู่ในพื้นที่สวนหลัง ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่น นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. อพปร. อส. ก็ได้ออกปฏิบัติการในการอพยพประชาชนให้เข้ามาอยู่ในส่วนที่ทางการได้มีการกำหนดเอาไว้ ส่วนข้อห่วงใยเรื่องงบประมาณนั้น ในสถานการณ์ที่เราประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบสาธารภัยแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้งบประมาณที่มีอยู่นี้ ในการจัดเตรียมศูนย์อพยพได้ทันที ทั้งเรื่องอาหาร ที่อยู่อาศัย และ เครื่องนุ่งห่มต่างๆ ซึ่งมีการดำเนินการตั้งแต่ในช่วง 1-3 วันแรก

นางสาวธีรรัตน์ ยืนยันว่า ตนเองก็ได้ลงไปในพื้นที่ จากการมอบหมายของนายภูมิธรรม ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. ที่มีการจัดประชุมอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีการมอบหมายให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงที่สามารถลงไปช่วยเหลือได้ ลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อไปเยี่ยมเยียมผู้ที่อพยพเข้ามา ไปให้ขวัญกำลังใจหน่วยทหารที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงผู้ปฏิบัติงานในการดูแลพื้นที่สวนหลัง ย้ำว่า ไปครบทุกจุด แม้จะยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยังไม่ปลอดภัย เพราะเราคิดว่าเมื่อได้ลงไปในพื้นที่แล้ว และเห็นสภาพความเป็นจริงมากที่สุด การสั่งการต่างๆ จะทำให้เกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการเยี่ยมเยียนทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้ที่อพยพเข้ามาด้วย

"แน่นอนว่า ในสถานการณ์ที่เกิดความฉุกเฉินขึ้น ทุกๆ คน อยากเอื้อมมือเข้ามา ช่วยกันคนละไม้คนละมือ จิตอาสาก็เข้ามาในพื้นที่ การที่มีทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มอบสิ่งของต่าง ๆ เข้ามาตามศูนย์อพยพ ก็เพื่อต้องการให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ทุกคนมีความตั้งใจดีด้วยกัน และเราจะทำงานอย่างดีที่สุด เพราะทุกคนคือคนที่เราต้องดูแล จึงลงพื้นที่ไปสั่งการในเรื่องที่ยังขาดตกบกพร่องอยู่ ให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างครบถ้วน" นางสาวธีรรัตน์ กล่าว

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ภาพการลงพื้นที่ต่างๆ ท่านสามารถเข้าไปดูข้อเท็จจริงได้ที่แฟนเพจกระทรวงมหาดไทย และช่องประชาสัมพันธ์ ที่พวกเราพยายามสื่อสาร และอยากให้ท่านเข้ามาดูด้วยว่า สิ่งที่ท่านได้กล่าวมาค่อนข้างจะขัดแย้งในสิ่งที่ทางพื้นที่ได้ประสบอยู่จริง

"ดิฉันพูดได้เลยว่า ทุกคนที่อยู่ในศูนย์อพยพ อยากให้สถานการณ์ชายแดนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมากที่สุด ไม่อยากให้มีทหารไทยต้องสูญเสียจากไปจากเหตุการณ์นี้ และพวกเขาทุกคนก็ขอส่งกำลังใจให้กับแนวหน้า รั้วของชาติ ให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ แม้พวกเขาต้องจากบ้านมาอยู่ในศูนย์อพยพ แต่สิ่งที่เขามีคือความเป็นคน เป็นมนุษย์ ที่จะส่งน้ำใจนี้ ถึงผู้ที่ประสบเหตุการณ์ ทั้งผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ขอให้รับทราบภาพรวม และการทำงานของรัฐบาลอย่างใจที่เปิดกว้าง" นางสาวธีรรัตน์ กล่าว

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวถึงระเบียบการเยียวยา ซึ่งมีการอนุมัติงบประมาณไปแล้ว 100 ล้านบาท เป็นการอนุมัติเงินลงไปทันที และทุกหน่วยงานรับทราบดีว่า เงินจำนวนนี้คือกรอบวงเงินที่เขาสามารถใช้ได้ และการจัดซื้อหรือการอนุมัติเรื่องต่างๆ ก็เป็นอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดที่สามารถดำเนินการได้ทันที เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการใช้เงิน สิ่งที่เรามั่นใจอย่างหนึ่ง คือทั้งผู้ปฏิบัติงานและประชาชนต้องไม่มีปัญหาในเรื่องงบประมาณ นี่คือการทำงานอย่างรวดเร็วของรัฐบาล รวมถึงเราได้มีการซักซ้อมทำความเข้าใจกับกรมบัญชีกลาง เพื่อเข้ามาให้ข้อมูลกับหน่วยงานว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ หากยังมีอะไรที่ติดระเบียบไม่สามารถทำได้ เราก็มีการขอให้เพิ่มเติมเรื่องการงดใช้หลักการนั้นๆ เพื่อให้สามารถใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ในส่วนของเงินทดลองราชการทางจังหวัดสามารถใช้ได้เลยทันที รวมถึงสามารถนำไปมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิต และคู่ได้รับผลกระทบได้ แม้จะยังไม่ได้เป็นตัวเงิน แต่การพูดคุยก็สามารถให้ทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบรับทราบข้อมูลในส่วนนี้หมดแล้ว ทั้งนี้ ในเรื่องของค่าน้ำ-ค่าไฟ ตามศูนย์อพยพจะไม่มีการเก็บ

นายธนา ยังถามถึงความล่าช้าในการสื่อสารกับประชาชน เพราะทุกวันนี้ประชาชนในพื้นที่ต้องเสพข่าวจากทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่มีการคัดกรองข้อมูลแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังได้รับการร้องเรียนมาจาก สส.ในจังหวัดอุบลราชธานี ว่า ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.อุบลราชธานี อ้างระเบียบ ในการเบิกจ่ายงบประมาณ เบิกไม่ได้เพราะกลัวติดคุก

ทำให้ นางสาวธีรรัตน์ ต่อสายถึงผู้ว่าราชการจังหวัด อุบลราชธานี ในห้องประชุมสภาฯ ทันที เพื่อให้ตอบคำถามถึงการอ้างระเบียบในการเบิกจ่ายงบประมาณ ด้านว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ ได้ยืนยันผ่านทางโทรศัพท์ว่า สามารถเบิกจ่ายงบประมาณทันทีได้ในพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ ชรบ. อพปร. สามารถใช้การจ่ายงบประมาณในกรณีที่เกิดเหตุความไม่สงบในบริเวณชายแดนได้ โดยเป็นการจ่ายจาก อปท. ส่วนเรื่องบ้านเรือนที่ยังเสียหาย ต้องได้รับการอนุญาตจากฝ่ายความมั่นคงในการลงตรวจสอบพื้นที่ที่มีความเสี่ยง แต่สิ่งที่สามารถดำเนินการได้เลย ทางสำนักงบประมาณ ซึ่งเป็นผู้ดูแลกองทุนผู้ประสบภัยพิบัติ เรื่องเอกสาร ก็ไม่ต้องมีการส่งตัวจริงเข้ามา

"ขอยืนยันต่อประชาชนทุกท่านว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และไม่เคยหลับอย่างสบายใจสักวันเดียว พวกเราทำงานดึก พักอย่างมากก็ 1 ชั่วโมง แล้วก็ลุกขึ้นมาทำงานใหม่ เพื่อสรุปสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ ว่าตรงไหนขาดเหลืออะไรที่เราจะต้องเสริมเติมเข้าไปได้ นี่คือภารกิจที่ทุกคนไม่ได้คิดว่า จะต้องไปไว้ให้คนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน อีกสิ่งหนึ่งที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้ฝากเข้ามาคือ ในขณะนี้พี่น้องที่อยู่ตามชายแดนอยากได้รับขวัญกำลังใจจากพวกเรา เรื่องทะเลาะเบาะแวงที่คนไทยสร้างอย่างขึ้นมากันเอง ขอให้หยุดและยุติได้หรือไม่ วันนี้ศัตรูของเราคือประเทศที่สร้างความรุนแรง" นางสาวธีรรัตน์ กล่าว

นางสาวธีรรัตน์ ยืนยันว่า ไม่มีใครอยากจะให้เกิดสงครามขึ้น เพราะสงครามไม่ใช่คำตอบหรือบทสรุปของการที่จะบอกว่าใครคือผู้ชนะหรือผู้แพ้ เมื่อเกิดสงครามขึ้นแล้ว ทุกคนคือผู้ที่พ่ายแพ้ ประชาชนทั้งสองประเทศต้องสูญเสียต้องจบชีวิตไป ซึ่งรัฐบาลไทยได้พยายามมาโดยตลอดในการบอกว่า เราขอใช้แนวสันติวิธี ในการยุติปัญหานี้ ความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ไม่อยากให้เกิดสงครามขึ้น แม้ว่าเราเองจะมีอาวุธที่เตรียมพร้อมไว้ แต่เราไม่ได้ปล่อยให้เขาหันกระบอกปืนเข้ามา และเราก็มีการโต้ตอบกลับไป ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว ท่านเห็นหรือไม่ว่าฝ่ายที่รุกเปิดเกมยิงใส่ฝั่งไทยเขาทำอะไร เขาไปฟ้องประชาคมโลก หากเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า แล้วไปยิงเขาก่อน จะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เราก็คงไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานใด ๆ เลยที่จะไปต่อสู้กับนานาประเทศ แต่วันนี้เราสามารถรวบรวมหลักฐานโดยภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งนานาประเทศรับทราบดีว่า ใครคือผู้ที่กระทำความรุนแรงกับประเทศไทยก่อน จึงอยากให้ท่านได้สื่อสารให้ตรงกัน เพื่อรักษาประโยชน์ประเทศไทยเอาไว้ในการต่อสู้ในเวทีต่าง ๆ ทั่วโลก หากท่านยังมีความคิดหรือมีการทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ท่านจะเห็นว่า เรามีการเตรียมกำลัง แต่เราจะไม่มีเป็นผู้เริ่ม ไม่ยิงปืนใส่ฝั่งเขาก่อน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ คือการขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ การผิดต่ออนุสัญญาเจนีวา และสัญญาที่นานาประเทศที่เจริญแล้วทำกัน

"ท่านเองก็รับทราบผลกระทบจากการบิดเบือนข่าวสารจากฝ่ายกัมพูชาเช่นเดียวกัน เพราะวันนี้นอกจากสงครามที่เกิดขึ้นจากการใช้อาวุธ ยังมีสงครามไอโอเข้ามาอีก วันนี้เราจึงต้องช่วยกัน อย่าทำให้เหตุการณ์ร้ายแรง และความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนคนไทยด้วยกันเองอีกเลย หวังว่าจะได้ข้อสรุปในการร่วมกันทำงาน ไม่ต้องแตกแยกว่าเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เพราะวันนี้เราต้องรวมพลังกันเพื่อประเทศไทยของเรา" นางสาวธีรรัตน์ กล่าว

นายธนา กล่าวทิ้งท้ายว่า ฝากบอกพรรคร่วมรัฐบาล ว่าหากยังสนับสนุนรัฐบาล ที่บริหารประเทศบนความล้มเหลวล่าช้า จะยอมอยู่กับรัฐบาลที่นอนหลับบนความทุกข์ร้อนของประชาชน ถ้าคิดว่าทำได้ก็ขอให้อยู่กับรัฐบาลนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง ไม่ต้องห่วงว่าประชาชนจะกลัว เพราะประชาชนที่รักชาติพร้อมสู้ แม้รัฐบาลจะไม่ช่วย เราก็พร้อมดูแลตัวเอง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา

"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ

ปลด 'กัณวีร์ สืบแสง' พ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม แอบอ้างมติพรรคหนุน 'อนุทิน' นั่งนายกฯ

เพจเฟซบุ๊ก พรรคเป็นธรรม แจ้งว่ามีมติให้ปลด นายกัณวีร์ สืบแสง ออกจากตำแหน่ง “เลขาธิการพรรคเป็นธรรม” มีผลนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป

'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล

"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ

'สุชาติ' นัดเคลียร์ 'สนธยา' แบ่งโซนส่ง 10 ผู้สมัคร สส.ชลบุรี ลั่นเขต 1 ขอลงเอง

"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ ภท. เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา