สส.ภูมิใจไทย เสนอญัตติเรียกประชุมรัฐสภาด่วน ยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ 44 และไม่ยอมรับ อำนาจศาลโลก ก่อนแสดงจุดยืน ปกป้องดินแดน ทรัพยากร เกียรติภูมิประเทศ พร้อมป้องกันความเสียหายในอนาคต
31 กรกฎาคม 2568 - นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะสมาชิกรัฐสภาทำหนังสือถึงประธานรัฐสภา เรื่อง ขอเสนอให้มีการเรียกประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยด่วน เพื่อพิจารณาการไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศและการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ ระหว่างประเทศไทย-ประเทศ กัมพูชา
โดยมีรายละเอียดว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยและประเทศกัมพูชาได้มีข้อพิพาททางดินแดน โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ปราสาทพระวิหาร และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติไทย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ความมั่นคงและทรัพยากรธรรมชาติการที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice : ICJ) ได้มีคำวินิจฉัย ในปี พ.ศ. 2556 กรณีข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาเกี่ยวกับการตีความคำพิพากษาปี พ.ศ. 2505 นั้น
โดยคำตัดสินเมื่อวันที่15 มิถุนาย 2505 มีข้อสงสัยและข้อโต้แย้งในสังคมไทยอย่างกว้างขวางว่า คำวินิจฉัย ชี้ขาดเรื่องเส้นเขตแดนระหว่างประเทศทั้งสองดังกล่าวไม่ได้ยืดหลักข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง
อีกทั้งยังอาจกระทบต่ออธิปไตยของไทยเหนือดินแดนบริเวณ ดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อมีการตีความว่าไทยต้องถอนกำลังออกจากพื้นที่ที่ตนถือครองมาโดยตลอด และยกให้กัมพูชาเข้าปกครองโดยพฤตินัย ซึ่งส่งผลกระทบในทางยุทธศาสตร์และความมั่นคงของประเทศอย่างยิ่ง
นอกจากคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่ไม่อาจยอมรับได้ในเชิงผลประโยชน์แห่งชาติแล้ว ยังมีปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับ "บันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU)" ที่ฝ่ายบริหารของไทยได้ลงนามไว้กับกัมพูชา โดยเฉพาะบันทึกความเข้าใจ ฉบับที่๔๔ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการยอมรับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน และการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ โดยที่ไม่ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา อันอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 178 วรรคสอง
ซึ่งบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า การทำสนธิสัญญาที่กระทบต่ออธิปไตย หรือเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของรัฐ ต้องผ่านการให้ความเห็นชอบของรัฐสภา การดำเนินการใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศ โดยไม่ได้รับการตรวจสอบจากรัฐสภา ไม่เพียงแต่เป็นการล่วงละเมิดบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญ หากยังเป็นการลดทอนเกียรติภูมิของชาติ และเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในเขตแดนของไทย โดยที่ประชาชนไทยอาจไม่ได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรม หรือเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดนอย่างถาวร
ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ. 2552 ให้เหตุผลว่า "ประเทศไทยไม่สามารถดำเนินการตามข้อตกลงได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่ออธิปไตยของชาติและไม่ผ่านรัฐสภา " ซึ่งถือเป็นแนวทางสำคัญที่รัฐสภาควรพิจารณาเป็นแบบอย่างในครั้งนี้
ด้วยเหตุผลทั้งหมด ดังกล่าว ข้าพเจ้าเห็นว่า รัฐสภาในฐานะสถาบันสูงสุดของการใช้อำนาจอธิปไตยตามระบอบประชาธิปไตยจะต้องมีบทบาทอย่างเด็ดขาดในการแสดงเจตจำนงของชาติไทย และปกป้องผลประโยชน์ของประเทศโดยไม่มีเงื่อนไข
จึงใคร่ขอเสนอให้ท่านประธานรัฐสภา ได้ดำเนินการเรียกประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยเร่งด่วนเพื่อพิจารณาดำเนินการใน 2ประเด็นหลัก ได้แก่
1. การไม่ให้การรับรอง หรือไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ในกรณีข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา หากคำวินิจฉัยดังกล่าวมีผลกระทบต่ออธิปไตยและเขตแดนของไทย
2. การพิจารณายกเลิกบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding - MOU)ฉบับที่43 (ว่าด้วยแนวแขตทางบก) และฉบับที่ 44 (ว่าด้วยเขตทางทะเล) ที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาและอาจมีผลกระทบต่อเขตแดนและผลประโยชน์แห่งชาติ
การประชุมร่วมกันของรัฐสภาในครั้งนี้ จะเป็นหลักฐานสำคัญว่า ประเทศไทยมีความมั่นคงในหลักการ มีจุดยืนชัดเจนต่อเวทีระหว่างประเทศ และสามารถดำรงไว้ซึ่งอธิปไตยของตนเองอย่างมั่นคงหากไม่มีการดำเนินการในทันที อาจก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้ในอนาคต ทั้งในเชิงกฎหมายทรัพยากร และเกียรติภูมิของชาติ
ในการนี้ กระผมจึงเห็นว่าหากได้มีการเรียกประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยด่วน เพื่อพิจารณา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โกหกหน้าไม่อาย เสียชื่อคนอีสาน ! ‘พลพีร์’ ซัดเดือด ‘มนพร’ ปมดิจิทัลวอลเล็ต
จากกรณี นางมนพร เจริญศรี อดีต สส.เขต 2 จังหวัดนครพนม พรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวหาโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ที่ไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากถูกรัฐบาลเ
‘สีหศักดิ์’ เผย ‘อนุทิน’ ไม่เคยทาบทามเป็นแคนดิเดตนายกฯ ภูมิใจไทย ระบุมีตัวเลือกอยู่แล้ว 2 คน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าวการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ภูมิใจไทย ดีเดย์ 24 ธ.ค.นี้ เปิดนโยบายเลือกตั้ง ดรีมทีม มาครบ 'อนุทิน-สีหศักดิ์-เอกนิติ-ศุภจี-ไชยชนก-ซาบีดา'
นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 24 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น.จะมีการประชุมและแถล
ทบ.สอบโดรนไทยขาดสัญญาณปอยเปต พบหลักฐานทุ่นระเบิดดัดแปลง!
ทบ. รอสอบ “โดรนไทย” สัญญาณหายทางปอยเปต ถูกโจมตีหรือไม่ พบบันทึกพิกัด-ทุ่นระเบิดดักรถถังดัดแปลงสังหารบุคคล เช่นเดียวกับที่บ้านสาม
เลือก ‘ภูมิใจไทย’ ได้ ‘สีหศักดิ์’ สานงานต่างประเทศ! ‘ยุทธพร’ วิเคราะห์เกมเลือกตั้ง ชี้พรรคน้ำเงินเปิดทางคนเก่งไปต่อ โอกาสคัมแบ็กสูง
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นกรณีการปรากฏตัวของ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่พรรคภูมิใจไทยว่า มีความเป็นไปได้หลายแนวทางทางการเมือง ทั้งการเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย
'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร

