
รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เพิ่มคุ้มครองสตรีในชนบทและทุกกลุ่มชาติพันธุ์เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม
13 ก.พ. 2565 – นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันเจตนารมณ์ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สั่งการให้เร่งรัดผลักดันให้เกิดความคืบหน้าจากการนำเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทย (Universal Periodic Review: UPR) ตามกลไกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council : HRC) ที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกสหประชาชาติ จัดทำรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศ (Universal Periodic Review: UPR) โดยการทบทวนแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 4 ปีครึ่ง ซึ่งประเทศไทยได้ให้คำมั่นโดยสมัครใจในการดำเนินการในหลายประเด็น อาทิ ร่วมมือในการขจัดความไร้รัฐและส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของกลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติ ปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ต่อต้านการทรมานและลงโทษที่โหดร้าย การส่งเสริมมาตรการบังคับสำหรับภาคธุรกิจในการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน เป็นต้น ขณะเดียวกัน ประเทศสมาชิก UN ประเทศอื่น ๆ สามารถร่วมพิจารณารายงาน UPR และร่วมให้ข้อเสนอแนะได้
รองโฆษกฯ กล่าวว่า การนำเสนอรายงาน UPR รอบที่ 3 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 ประเทศต่างๆ ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่ไทย รวม 278 ข้อ โดยคณะผู้แทนไทยได้ตอบรับทันที 193 ข้อ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของไทยที่จะนำเสนอรายงานดังกล่าวให้ดีที่สุด และล่าสุดคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เห็นชอบที่จะรับข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอีก 25 ข้อ รวมเป็นข้อเสนอแนะที่ไทยตอบรับแล้วทั้งหมด 218 ข้อ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะได้แจ้งท่าที ดังกล่าวแก่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติต่อไป อนึ่ง ตัวอย่างของการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมตามคำมั่นที่รัฐบาลได้ดำเนินการแล้ว คือ ครม. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย และร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปากในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการดำเนินคดีหรือฟ้องคดีปิดปากและมีกฎหมายคุ้มครองบุคคลที่แสดงความเห็นหรือเปิดโปงเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบ
ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะที่ไทยตอบรับต่างเป็นข้อเสนอแนะที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ แผนสิทธิมนุษยชน หรือเป็นข้อเสนอแนะที่หน่วยงานดำเนินการในปัจจุบันอยู่ เช่น การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การให้ความช่วยเหลือทางสวัสดิการสังคม และเป็นข้อเสนอแนะที่หน่วยงานมีความพร้อมที่จะดำเนินการ เช่น การเพิ่มมาตรการ และการสนับสนุนการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน การศึกษาและจัดอบรมเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายเพิ่มเติม รวมทั้ง เป็นข้อเสนอแนะที่เป็นค่านิยมเชิงหลักการที่ไทยยึดถือและปฏิบัติมาโดยตลอด เช่น ความเท่าเทียมทางเพศ โดยจะครอบคลุมการไม่รับรองเด็กสมรสตามกฎหมาย กับผู้กระทาผิดข่มขืน และรูปแบบอื่นของความรุนแรงและการกดขี่ทางเพศ ส่งเสริมการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของสตรี โดยเฉพาะสตรีในชนบท สตรีชนพื้นเมืองดั้งเดิม สตรีที่มาจากคนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ และศาสนา และสตรีพิการ
“รัฐบาลมุ่งมั่นให้ความร่วมมือกับนานาประเทศ แนวทางในการประกาศคำมั่นโดยสมัครใจและการพิจารณาตอบรับข้อเสนอแนะ ได้คำนึงถึงความสอดคล้องกับกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศ ค่านิยมเชิงหลักการของสังคม และความพร้อมในการดำเนินการของหน่วยงาน ซึ่งสะท้อนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ในส่วนที่ตอบรับเพิ่มเติมครั้งนี้ มีหลายประเด็นที่แสดงให้เห็นถึงการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และคุ้มครองสตรีในทุกๆกลุ่ม ให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม เป็นไปตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี” นางสาวรัชดา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โอนเงิน 9 พัน เยียวยาน้ำท่วมภาคใต้ ล็อตแรกสำเร็จ 2.5 หมื่นครัวเรือน วันนี้จ่อโอนเพิ่ม 9.7 หมื่นครัวเรือน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย หรือ ศป.กฉ. แถลงข่าวถึงการเยียวยาและฟื้น
‘สุรเดช’ ชงใช้แรงงานกลุ่มชาติพันธุ์แทนกัมพูชา
‘สุรเดช’เตรียมเสนอ ‘รมว.ตรีนุช’ ใช้แรงงาน ‘กลุ่มชาติพันธุ์’ 2 แสนกว่าคน เผยนำร่องที่เชียงรายแล้ว 700 กว่าคน ทดแทนแรงงานกัมพูชา ชี้รวมกับแรงงานจากศูนย์พักพิง 4 หมื่นคน เชื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนแรงงานได้
ครม.โยก ‘ดนุชา’ กลับเลขาสภาพัฒน์ ‘อ้อนฟ้า’ หวนคืนเลขาฯก.พ.ร. ‘รัชดา’ไหลไปภูมิใจไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติแต่งตั้งนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)
ปชน. ชี้ 2 ปัญหาใหญ่หล่นหาย หลังสภาฯผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์
ปชน. ชี้ยังมีประเด็นสำคัญกฎหมายชาติพันธุ์หล่นหายระหว่างทางอยู่ หลัง 'สภาฯ' ผ่านกฎหมาย พร้อม เดินหน้าผลักดันกฎหมายลำดับรอง-แก้ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง เพื่อคุ้มครองสิทธิให้ครอบคลุมมากขึ้นต่อไป
สภาฯ เห็นชอบร่างกฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ ปลดล็อกข้อจำกัดสิทธิที่อยู่ทำกิน
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. … ที่วุฒิสภาพิจารณาเสร็จแล้ว และมีการแก้ไขเพิ่มเติม ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
นายกฯอิ๊งค์ ดีใจสานต่อผลงานยุคเศรษฐา ลดขั้นตอนขอสัญชาติไทยให้กลุ่มชาติพันธุ์
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางฝ่าฝนที่ตกกระหนักระหว่างทาง มาพบกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ได้รับสัญชาติไทย และมอบบัตรประชาชนให้กับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ 21 คน นำโดย น.ส.ฝน โวยเจ่อ ชาวอาข่า


