'บิ๊กเล็ก' มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คลี่คลายไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่จบ

พลเอกณัฐพล​ ย้ำคุมตัวเชลยศึกเป็นไปตามอนุสัญญาเจนีวา​ ชี้​ ความเห็นส่วนตัวสถานการณ์​ยังไม่จบแค่คลี่คลาย​ แจง​ ศบ.ทก.​ ไม่ได้รวบอำนาจ​ ครม.​ -​สมช.​ ขอสบายใจได้​ ปัดตอบจัดโผ​ ผบ.เหล่าทัพ​ หยอกสื่อฯ​ บอก​ ไม่ได้ยิน​

22 สิงหาคม 2568 - พลเอกณัฐพล​ นาค​พาณิชย์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึงกรณีที่ทางกัมพูชาออกมาเรียกร้องให้ไทยส่งตัวเชลยศึก​ 18 คนกลับกัมพูชา​ ว่า​ ขณะนี้เราปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา ซึ่งตามอนุสัญญาสามารถควบคุมตัวได้จนกว่าจะเกิดการหยุดยิงสมบูรณ์ สิ้นสุดสภาพความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เพราะฉะนั้นโดยกฎหมาย เราสามารถควบคุมได้ แต่อย่างไรก็ตามเราดูแลเป็นอย่างดี จากที่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ​ หรือ​​ ICRC ไปตรวจเยี่ยมก็พอใจ​ว่าประเทศไทยดูแลเชลยศึกเป็นอย่างดี

ส่วนสามารถยืนยันได้หรือไม่​ ว่าสถานการณ์ในขณะนี้ถือว่าจบแล้ว​ เนื่องประชาชนในพื้นที่ต้องการความชัดเจน​ พลเอกณัฐ​พล​ มองว่า​ หากเป็นความคิดของตนมองว่ายังไม่จบแต่ใช้คำว่าสถานการณ์​คลี่คลาย​ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่คลี่คลายไปได้เรื่อยๆ​ และปัจจุบันทั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา​ หรือ​ ศบ.ทก.​ และ​คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) GBC กำลังกำหนดฉากทัศน์ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร​ จากที่เดิมไม่มีการกำหนดฉากทัศน์เพราะไม่คิดว่า เหตุการณ์จะบานปลายขนาดนี้ ซึ่งเมื่อเหตุการณ์บานปลายถึงขั้นนี้แล้ว การพูดคุยกันโดยไม่มีกรอบคงไม่เหมาะสม จึงต้องมีการกำหนดฉากทัศน์ขึ้นมา เพื่อให้ทุกหน่วยอยู่ในฉากทัศน์ที่กำหนด​ พร้อมยืนยันว่าฉากทัศน์ดังกล่าวจะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ หรือ​ สมช.​ และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อน

พลเอกณัฐพล​ ยืนยันว่าการทำงานของ ศบ.ทก.และ GBC ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง​ เราทำงานตามขั้นตอน​ ไม่ได้รวบอำนาจจาก​ครม.และ สมช.มาใช้แต่อย่างใด​ จึงอยากให้สบายใจ

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้ยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 พลเอกณัฐพลกล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล เนื่องจากมีรายละเอียดจำนวนมาก​ ประโยชน์ก็เยอะ แต่ข้อเสียก็มีบ้าง​ และก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่ต้องพูดคุยกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องแล้วแต่รัฐสภาด้วย​ เรื่องจากเราทำงานเป็นระบบ​ ไม่ใช่จะเห็นต่างจากฝ่ายค้านไปเสียทั้งหมด หากสภาฯเห็นชอบเราก็พร้อมทำตามกรอบของสภาฯ

ขณะเดียวกัน พลเอกณัฐพล​ ยังปฏิเสธการตอบคำถามถึงกรณีการแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการระดับสูงในระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยกล่าวติดตลกสั้นๆว่า “ไม่ได้ยิน”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา

เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่

‘คนจีน’ถึงคราวซวย! เหยียบทุ่นระเบิดเขมร

กองทัพภาคที่ 1 เผยชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดเขมรที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังลักลอบเข้าเมือง ด้านสถานทูตจีนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระบุชายชาวจีนอาการทรงตัว