'เด็จพี่' ซัด 'ครม.หนู' ตอบแทนกลุ่มการเมือง-คนใกล้ชิด

20 กันยายน 2568 - นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)หนู1 ต้องบอกว่าผิดหวัง ไม่เหนือความคาดหมาย สายที่ใกล้ชิดบุรีรัมย์ได้ดี ตบเท้าเข้าสู่อำนาจคุมกระทรวงสำคัญๆ ทั้งกระทรวงมหาดไทย คมนาคม ยุติธรรม ที่ผู้คนคลางแคลงใจประเด็นการฮั้วสว.และที่ดินเขากระโดง แถมยังส่งรองนายกรัฐมนตรีบางคน มาคอยดูแลอีกชั้น 

“ขอทำนายล่วงหน้าเลย การประชุมครม.นัดแรกแบ่งงานรองนายกฯ จะให้กำกับ รัฐมนตรีที่พรรคนั้นๆ เป็นเจ้ากระทรวง ความแปลกใจการตั้งครม.ที่บอกจะมาดูแลปัญหาปากท้องให้ประชาชน ฟื้นความเชื่อมั่น กระทรวงดูแลการค้าขายในประเทศ ต่างประเทศ ธุรกิจบริการ ทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ มีรัฐมนตรีทำงานแค่คนเดียว กระทรวงอุตสาหกรรม มีรัฐมนตรี2คน จากพรรคเดียวกันทำงาน แทบจะทุกกระทรวง แบ่งรัฐมนตรีในสังกัดพรรคนั้นๆ กำกับดูแลทั้งกระทรวง แล้วอย่างนี้จะไม่ให้สังคมตั้งคำถามว่า ต่างตอบแทนได้อย่างไร”นายพร้อมพงศ์​กล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนพรรคประชาชน ในฐานะผู้ยกมือสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ควรจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ นับวันเริ่มจะผิดข้อตกลง MOA เข้าไปมากขึ้นทุกที การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)ในระยะเวลา4เดือน ดูแล้วน่าจะเกิดได้ยาก จะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทย กำลังขยายอาณาจักรดึง ดูด หลายกลุ่มการเมือง เข้ามาในสังกัดตัวเอง ระยะเวลาบริหารงาน 4 เดือนแล้วยุบสภา นับตั้งแต่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ เริ่มเห็นการออกลายบ้างแล้ว แม้พรรคประชาชน ไม่มีรัฐมนตรีเข้าไปทำงาน แต่การยกมือสนับสนุน มอบความชอบธรรมให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ พอเห็นโฉมหน้าครม.ชุดใหม่แล้วเป็นอย่างไร ที่บอกว่าจะเปิดอภิปราย รวบรวมหลักฐานยื่นเอาผิดรัฐมนตรีคนนั้นๆและนายกฯในฐานะคนลงนามแต่งตั้ง ไปตามองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ หวังว่าคงจะไม่ลืมสิ่งที่เคยพูดไป

“ดูแล้ววาระการทำงานของรัฐบาลหนู1 อาจจะสั้นกว่า 4 เดือน ปัญหาต่างๆรอแก้ไข ทั้งเศรษฐกิจ ปากท้อง สังคม ยาเสพติด ความมั่นคงภายในประเทศ การฟื้นฟูความเชื่อมั่น การดึงนักลงทุนต่างชาติ เข้าคิวเร่งด่วนรอแก้ไข รวมถึงที่ดินเขากระโดง และฮั้วสว. ขอดักทางเอาไว้เลยว่าอย่าไปแทรกแซงการทำงานเจ้าหน้าที่ หรือตั้งคณะทำงาน กรรมการสอบแล้วสอบอีก ยื้อเวลาจนครบวาระ สุดท้ายหาคนกระทำความผิดไม่ได้อย่างเด็ดขาด”นายพร้อมพงศ์ กล่าว 
 
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ใช้สรรพกำลัง ทรัพยากรต่างๆอย่างสุดกำลัง แลกมากับการเข้าสู่อำนาจ นักวิเคราะห์การเมืองบางคนตั้งคำถามค่าหัวต่างตอบแทน 50-80ล้านบาท ไม่รู้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ ถ้าเป็นจริงก็ต้องบอกว่า น่าตกใจอย่างมาก สโลแกน “ภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” จากนี้ไปจะถูกตามติดตรวจสอบทุกฝีก้าวทุกๆเรื่อง และจะอยู่แค่4เดือนหากเกิดการบิดพลิ้ว ตุกติก ขอให้ทุกพรรคการเมือง และประชาชน จดจำ จดใส่บัญชีผืนหนังเอาไว้ แล้วค่อยไปสั่งสอนเอาคืนในคูหาเลือกตั้ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม

พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า

สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง

เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี

ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ บทบาทใหม่ บนถนนการเมือง หวั่นใช้ทุนเทาซื้อเสียงเลือกตั้ง!

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง ประเทศไทย"กรุงเทพมหานคร"เป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่คนทั้งประเทศจับตามองกันว่าผลการเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 "พรรคประชาชน"

🛑LIVE ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2568

'ชูวิทย์' ฟันธงเลือกตั้ง พรรคประชาชนต่ำ 100 ชี้เดินเกมผิดพลาดครั้งใหญ่

"ชูวิทย์" วิจารณ์ "ธนาธร" เลือกเดินเกมแก้รัฐธรรมนูญผ่านพรรคภูมิใจไทยคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่ใช่การประนีประนอม พร้อมคาดผลเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนอาจได้ สส. ต่ำกว่า 100 จากกระแสที่เปลี่ยนและความเชื่อมั่นที่ลดลง