'วิโรจน์' ขู่ซักฟอกรัฐบาล! หากปราบแก๊ง สแกมเมอร์ไร้ผล

'วิโรจน์' ยันจะใช้กลไกสภา ตรวจสอบแก๊งสแกมเมอร์ ฮึ่ม ! พร้อมยื่นซักฟอก หากรัฐบาลเมินเฉย จี้ 'นายกฯ อนุทิน' ลากคอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้หากไทยไม่ร่วมมือนานาชาติ จะถูกมองเป็นเครือข่าย

22 ต.ค.2568 - ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้รับมอบหมายจากผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้ รับหนังสือจาก นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น กรณีขอให้ดำเนินการหยุด การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลอนุทิน ทั้งคณะ

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า เนื่องจากมีการสงสัยในหลายประการทั้งแต่งตั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ โยกย้ายข้าราชการระดับสูง รวมถึงแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ นานาชาติมองประเทศไทยว่าไม่ดำเนินการในเรื่องนี้ จึงไม่ไว้วางใจให้รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงมหาดไทย อยู่ต่อ และในฐานะพรรคประชาชน ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักในการมาของนายอนุทิน ควรหาวิธีการภายใต้กรอบที่รัฐธรรมนูญ​จะได้กำหนด

ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคประชาชนติดตามการทำงานของรัฐบาล และตรวจสอบอย่างเต็มที่ ล่าสุดกรณีสแกมเมอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งค์หลอกลวงออนไลน์อยู่ในเป้าที่พวกตนจับตาอย่างใกล้ชิด ส่วนข้อสังเกตตามข้อร้องเรียนเรื่องการโยกย้ายข้าราชการของรัฐบาลนี้รวมถึงคดีการเมือง ได้มีการมอบหมายให้ สส. พรรคประชาชนจับตาดู และใช้กลไกของรัฐสภาดำเนินการอย่างเต็มที่ต่อไป

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เรายืนยันที่จะใช้กลไกผ่าน สส. และคณะกรรมมาธิการในการผลักดันเรื่องที่รัฐบาลควรดำเนินการให้ดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะทั่วโลกและประชาชนให้ความสนใจการปราบปราม เครือข่าย สแกมเมอร์ การหลอกลวงออนไลน์ ที่ไม่ใช่ฉ้อโกง การฟอกเงินแต่เป็นการส่วนรวมของความชั่วร้ายของโลกพัวพันไปถึงการค้ามนุษย์ และการกักกันใช้แรงงาน หรือการค้ามนุษย์ ที่เอาเหยื่อมาหลอกเหยื่อประเทศของตนเอง มองว่าเป็นการสร้างความเสียหาย มหาศาลให้ระดับโลกไม่ใช่วาระของประเทศ แต่เป็นวาระของโลก ที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน และตนจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้ ย้ำว่าพยายามผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการอย่างจริงจัง

นายวิโรจน์ กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ยังอยู่ในเงื่อนไขการพิจารณาของฝ่ายค้าน หากรัฐบาลยังไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน โดยเฉพาะหากพบหรือมีข้อสงสัยว่าอาจมีความเกี่ยวพันหรือเกี่ยวโยงในฐานะผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย หรือการสนับสนุนการกระทำความผิด หรือการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ปล่อยให้สแกมเมอร์จากกัมพูชาอาละวาด และมาหาผลประโยชน์ในราชอาณาจักรไทยอาจจะนำมาสู่การอภิปรายไม่เข้าใจ

เมื่อถามว่า ไทยควรมีบทบาทอย่างไรในการแก้ไขปัญหาร่วมกับนานาชาติเรื่องการปราบสแกมเมอร์ นายวิโรจน์ กล่าวว่า นายอนุทิน มี 2 เรื่องที่ต้องชี้แจงต่อนานาชาติ โดยเรื่องแรก คือมาตรการภายในประเทศ บทบาทของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตำรวจไซเบอร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผล แล้วลากคอเครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์มาลงโทษได้อย่างไร และจะออกกฎระเบียบอย่างไรในการเปิดเผยตัวตนและรายงานเส้นทางทางการเงิน ตัวตนของผู้โอนและผู้รับเงิน สินทรัพย์ดิจิตอลหรือเปิดเผยข้อมูลผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง ซึ่งการเปิดเผยเส้นทางการเงินถือว่าเป็นความโปร่งใส และเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่โจรสแกมเมอร์กลัวที่สุด ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งสั่งการ

"ผมยืนยันว่า ก๊ก อาน หรือ เครือข่ายของเฉิน จื้อ ที่เข้ามาอาละวาดในประเทศไทยเขาไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยเพียงลำพัง ของคนประเทศเขา ผมยืนยันว่าจะต้องมีเครือข่ายของประเทศไทย ซึ่งอาจเป็นนายทุนของคนไทยหรืออาจเป็นกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนหรือมีส่วนรู้เห็นด้วย ก็ต้องลากคอมารับโทษทางกฎหมายและดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ให้สิ้นซากเพราะเงินเหล่านี้เป็นเงินที่หลอกพี่น้องประชาชนคนไทยและเอามาปล้นมายึดประเทศไทยเสียเอง ซึ่งผมคิดว่าเป็นพฤติกรรมที่ต่ำทรามอย่างมาก " นายวิโรจน์กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่าการดำเนินการของรัฐบาล จะยึดอายัดทรัพย์ทันหรือไม่ หรือจะมีการถ่ายเททรัพย์สินไปก่อน นายวิโรจน์ กล่าวว่า นี่คือความกังวล ไม่ใช่แค่เฉพาะกรรมาธิการ แต่เป็นความกังวลของประชาชนว่าวันนี้ตั้งแต่ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาออกมาพูด ว่ามีกลุ่มคนไทยและกลุ่มทุนไทยนักการเมืองไทย ที่เข้าไปหาผลประโยชน์ กับธุรกิจผิดกฎหมายในกัมพูชา ซึ่งสมเด็จฮุนเซน ขู่ว่าจะเปิด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่คนไทยทั่วไปและไม่ใช่นักวิเคราะห์ก็ตั้งข้อสังเกตได้อยู่แล้วว่าโจรสแกมเมอร์แบบนี้มาก่อคดีตามลำพังในไทยไม่ได้อยู่แล้ว บริษัทต่างๆยังใช้นอมินีและบัญชีม้าเลย ซึ่งนอมินีและบัญชีมาก็เป็นคนไทยทั้งสิ้น แต่ในกรณีนี้ เป็นการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายที่ครอบคลุมถึงการค้ามนุษย์ออนไลน์ จะบอกว่าไม่มีคนไทยรู้เห็นหรือสนับสนุนเลยไม่มีเกลือเป็นหนอนเลยจนคิดว่าคงไม่มีใครเชื่อ

นายวิโรจน์ กล่าวว่า แต่จนถึงวันนี้รัฐบาลไทยยังไม่สามารถลากคอ ขบวนการเหล่านั้นที่เป็นคนไทยให้ประชาชนได้เห็นหน้าเห็นตาได้เลย ตนกังวลเรื่องนี้อย่างมาก มั่นใจว่าสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรที่เป็นประเทศพันธมิตรต่าง ๆ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนเส้นทางการเงินและข้อมูลทางด้านอาชญากรทางไซเบอร์ เขาอาจจะมีเบาะแสอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้น ถ้ารัฐบาลของนายอนุทิน รู้ตัวต้องเร่งลากคอกระบวนการเหล่านั้นออกมาก่อนที่สหรัฐอเมริกาและบรรดานานาประเทศจะเปิดเผยรายชื่อเหล่านั้นเอง

"ถ้ามีการเปิดเผยรายชื่อจากสหรัฐอเมริกาและนานาประเทศเกิดขึ้นก่อนนั่นหมายความว่าประเทศไทยไม่ได้อยู่ในฐานะประเทศพันธมิตร เครือข่ายปราบปรามสแกมเมอร์ข้ามชาติแล้ว แต่จะถูกทั้งโลกมองว่าเราคือประเทศเครือข่ายสแกมเมอร์เสียเอง นอกจากจะเสียหายต่อเกียรติภูมิประเทศชาติแล้วยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศด้วย "นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามว่าการประชุมอาเซียนที่จะถึงนี้จะมีการลงนามระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา เรื่องการประกาศสันติภาพโดยมี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามาเป็นประธาน นายวิโรจน์ กล่าวว่า 4 ข้อที่เคยประกาศไปทั้งการถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด การจัดการปัญหารุกล้ำที่ดินชายแดน และการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติตนคิดว่าประเทศต่าง ๆในโลกอยากฟังนายกรัฐมนตรี ของไทยว่าจะจัดการเครือข่ายสแกมเมอร์นี้อย่างไร

"เราสังเกตเห็นท่าทีฮุนเซน และฮุน มาเนต หรือไม่ เวลาที่เขาพร้อมจะตอบโต้ ทุกมาตรการของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นทางการทหารหรือการรุกล้ำที่ดิน หรือการกดดันจากภาคประชาชนเขาจะตอบโต้ตลอด และตอบโต้ไปถึงเวทีต่างประเทศตลอด แต่เขาก็ถูกกดดันในเรื่องแก๊งสแกมเมอร์ ปรากฏว่าท่าทีของฮุน เซน ฮุนมา เนต เขาเงียบไม่โต้ตอบเหมือนยอมจำนนต่อโลก เพราะรู้อยู่แล้วว่า หลักฐานเส้นทางทางการเงิน ขององค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะองค์กรด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินบ่งชี้อยู่แล้ว ว่าฐานปฏิบัติการก่อการสแกมเมอร์ ที่เป็นค่ายกักกันแรงงานค้ามนุษย์ด้วยอยู่ที่กัมพูชาจำนวนไม่น้อย ดังนั้นทั่วโลกต้องการฟังความชัดเจนจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าจะจัดการแก๊งสแกมเมอร์ที่มีฐานที่ตั้งในกัมพูชาอย่างไร " นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนในประเด็นที่ 2 นายวิโรจน์ กล่าวว่าเราจะมีความร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศ และบรรดาประเทศพันธมิตรในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชาอย่างไร ซึ่งบางบริษัทเราสามารถตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน ที่มีการส่งเงินสกปรกจากกัมพูชา ถ้าเราตรวจสอบอย่างจริงจังจะสามารถผลักกัมพูชากลับเข้าไปสู่บัญชีสีเทา ซึ่งจะมีการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินอย่างมากจะส่งผลต่อเศรษฐกิจการค้าของกัมพูชาอย่างรุนแรง นี่คือการเอาคืนสมเด็จฯ ฮุน เซน อย่างสาสมที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นายกฯ' นำ 'ผบ.เหล่าทัพ' แถลงการณ์ เดินหน้าปฏิบัติการทางทหารทุกกรณี ปกป้องอธิปไตยไทย

นายกฯ แถลงการณ์เดินหน้าปฏิบัติการทางทหารทุกกรณี ปกป้องอธิปไตยไทย - ความปลอดภัยประชาชนเต็มกำลัง ยันไทยไม่ใช่ฝ่ายเริ่ม

รัฐสภาประชุมแก้ รธน. 10-11 ธ.ค. เชื่อผ่านวาระสาม สภาสูงไม่ตีตก

ในช่วงวันที่ 10-11 ธันวาคม จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการประชุมรัฐสภาในช่วงการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

'เด็จพี่' โผล่หยัน 'ปชน.' ไม่กล้าซักฟอก 'อนุทิน' กลัว 'ยุบสภา' ทำแก้รัฐธรรมนูญค้างเติ่ง

‘พร้อมพงศ์’ อัด ปชน. ตรรกกะย้อนแย้ง จี้ ‘อนุทิน’ ปลดรัฐมนตรีทุนเทา ไม่ได้ผล สอนมวย ยื่นอภิปรายใช้เสียงสภาฯ เกินครึ่งโหวตคว่ำ ปลดได้แน่ ผิดหวังห่วงเรื่องแก้รธน. มากกว่า ซักฟอกในสภาฯ ชี้ ทำแฟนคลับผิดหวัง เตรียมโดนลงโทษวันเลือกตั้ง