'ปิยรัฐ' เผย กมธ.ศึกษาเอ็มโอยู 2543 จบแล้วคาดต้น ธ.ค.สรุปได้ทั้ง 2 ฉบับ

'โฆษก กมธ.MOU43-44' เผย ศึกษา MOU43 เสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปยกเลิกหรือไม่ ชี้ไม่มีระบุข้อมูลแผนที่ 1:200,000 มองยกเลิกได้ยาก คาดต้นเดือน ธ.ค.ได้ข้อสรุป

29 ต.ค.2568 - ที่รัฐสภา นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยความคืบหน้าการประชุม ว่า การหารือวันนี้จะเป็นกรอบแนวทางศึกษา MOU 44 ซึ่งในส่วนของ MOU 43 ได้พิจารณาจบไปแล้วในเบื้องต้น ซึ่งจะมีการสรุปออกมาอีกครั้งหนึ่ง โดย MOU 43 มีความเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายที่อยากให้มีการแก้ไข และฝ่ายที่อยากให้ยกเลิก จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าจะแก้ไขได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นความเห็นทางกฎหมาย ส่วนการยกเลิกน่าจะเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะจะต้องนำเสนอต่อประชาชนเพราะข้อเท็จจริงบางข้อเป็นข้อมูลลับไม่สามารถเปิดเผยได้ต่อสาธารณะ

นายปิยรัฐ กล่าวต่อว่า ดังนั้นการให้ข้อมูลอย่างรอบด้านจึงไม่สามารถทำได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นความลำบากใจของกมธ.ฯ โดยบรรยากาศในห้องประชุมกมธ.ฯ ผู้ที่มาชี้แจงได้มีการขอไม่ให้มีการบันทึกหรือขอให้เป็นการประชุมลับ ส่วนการศึกษา MOU 44 นั้น ที่ประชุมวันนี้จะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่จะให้ยกเลิก และฝ่ายที่อยากให้คงไว้ คาดว่าวันนี้จะได้ข้อสรุปว่าจะไปทิศทางใด

เมื่อถามว่าจากการศึกษามีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การประชามติได้หรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า น่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้หลังจากได้ข้อสรุป MOU 44 แล้ว ซึ่งต้องพิจารณากันว่าจะจัดทำเป็นข้อเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)หรือจะนำข้อเสนอนี้พิจารณาในที่ประชุมใหญ่ของสภาต่อไป

ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุง นายปิยรัฐ กล่าวว่า ตอนนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ต้องปิดห้องคุยกันอีกครั้ง เพราะมีข้อมูลในเชิงผลประโยชน์ของประเทศไทยพอสมควร ซึ่งเรื่องนี้หากนำเสนอสู่สาธารณะอาจเสียหายได้

ต่อข้อถามว่าในเรื่อง MOU บางอย่างเป็นความลับการทำความเข้าใจกับประชาชนเป็นเรื่องยาก อาจจะทำให้ครึ่งหนึ่งไม่ยกเลิก ส่วนอีกครึ่งหนึ่งสามารถใช้ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า เป็นปัญหาใหญ่เมื่อจะทำประชามติต้องมีกลไกในการนำเสนอต่อประชาชนเพื่อให้มีข้อมูลที่รอบด้าน ซึ่งต้องเป็นข้อตกลงว่าจะทำอย่างไรในการสื่อสารกับประชาชน โดยไม่ให้ประเทศไทยเสียผลประโยชน์เป็นส่วนที่สำคัญ ทั้งนี้เห็นว่าหากกรอบนี้เป็นกรอบกว้างให้มีการตั้งโต๊ะเจรจาหารือก็ยังคงกรอบนี้ไว้ก่อน แต่หากเมื่อไหร่ที่มีกรอบชัดเจนกว่าดีกว่า ก็นำกรอบนั้นมาและขอยกเลิกตัวนี้ได้ เป็นการเปรียบเทียบให้ประชาชนเห็นว่ากรอบใหม่ดีกว่าอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ต้องทำให้ได้

“ดังนั้นตอนนี้ยังตอบคำถามชัดเจนเกี่ยวกับตัวเลือกในการทำประชามติไม่ได้ยกตัวอย่างเรื่องการทำ แผนที่ 1:200,000 ที่เถียงว่าไม่ดี แล้วจะมีข้อเสนอใหม่อะไรที่ดีกว่า ซึ่งแผนที่ 1:200,000 ในMOU43 ระบุเฉพาะสัดส่วนดังกล่าวจริงหรือไม่ เมื่อมาพิจารณากันแล้วก็ไม่ใช่ ใน MOU ฉบับดังกล่าวไม่ได้ระบุเอาไว้ ยังมีออโต้แมพอีกมากมายที่สามารถใช้ได้ นั่นคือกรอบการเจรจาที่เปิดกว้าง”โฆษกกมธ.ฯ กล่าว

เมื่อถามว่ากมธ.ฯต้องรอข้อมูลนี้จากรัฐบาลที่มีการตั้งทหารให้ศึกษาข้อมูลนำมารวมกันหรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า พร้อมนำข้อมูลจากทุกฝ่ายมาประกอบการพิจารณา เพราะในกมธ.ฯมีทั้งกรมสนธิสัญญาระหว่าง ,ทหาร ,กรมทหาร ,เจ้ากรมต่างๆ ร่วมในกมธ.ฯ ที่จะดึงข้อมูลจากทุกฝ่ายมาประกอบการตัดสินใจในเรื่องนี้ ซึ่งกมธ.ฯจะประชุมอีกไม่เกินสิ้นเดือนต.ค.นี้จะมีความชัดเจน คาดการณ์ว่าช่วงต้นเดือนธ.ค.จะมีผลแรงรายงานของกมธ.ฯออกมา

นายปิยรัฐ ยังกล่าวเกี่ยวกับความเห็นต่างของสังคมเกี่ยวกับการยกเลิกหรือไม่ยกเลิกจะนำไปสู่ความขัดแย้งของคนในสังคมหรือไม่ว่า จะต้องให้ได้ข้อสรุปว่าหากยกเลิก MOU จะเกิดความเสียหายอย่างไร หรือถ้าไม่ยกเลิกจะมีผลได้อย่างไร หลังจากนี้จะต้องคิดต่อว่าจะนำเสนอต่อประชาชนอย่างไร

“แน่นอนตอนนี้เรากังวลใจเรื่องเดียวคือการสื่อสารกับประชาชนต้องสื่อสารได้ข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้านที่สุด เราต้องกลั่นออกมาให้สามารถสื่อสารได้มากที่สุด แต่ตอนนี้ในกมธ.ฯยังมีหลายคนที่ไม่สามารถให้ข้อมูลที่เปิดเผยได้ ซึ่งเป็นข้อกังวลใจ แต่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เมื่อไปนั่งอยู่ตรงนั้นเราจะรู้เลยว่าเรื่องนี้หากพูดออกไปเราอาจจะเสียหายหรือเราอาจจะไม่ได้ประโยชน์ตามที่ต้องการจริงๆ เป็นความลำบากใจพอสมควร” นายปิยรัฐกล่าว

ต่อข้อถามว่าเรื่องการลงนามปฏิญญาสันติภาพจะทำให้การพิจารณาของกมธ.ฯถูกลดความตึงเครียดลงหรือไม่ เพราะเหมือนจะได้ข้อยุติแล้ว นายปิยรัฐ กล่าวว่าต้องยอมรับว่าเป็นทิศทางที่บวกขึ้นในเชิงของการตั้งโต๊ะเจรจาพูดคุยกัน ทำให้บรรยากาศอาจจะคลี่คลายในระดับหนึ่ง เช่นเดียวกับกรอบMOU43-MOU44 เป็นกรอบที่ทำให้ทุกคนทุกฝ่ายได้นั่งคุยกัน ก็เป็นข้อดีในส่วนที่ยังมีอยู่

นายปิยรัฐ กล่าวด้วยว่า ทุกคนต่างรอผลการศึกษาของกมธ.ฯชุดนี้ ซึ่งข้อมูลที่มีอยู่และข้อถกเถียงหลายข้อมาจากทุกฝ่าย ซึ่งในกมธ.ฯมีทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล เจ้าหน้าที่ประจำ รวมถึงข้าราชการที่ดำเนินการเรื่องนี้มากกว่า 30 ปี เช่นเจ้ากรมแผนที่ทหารเป็นข้อมูลที่สำคัญมาก จึงอยากให้ทุกฝ่ายรอผลการพิจารณาจากกมธ.ฯชุดนี้ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ และเป็นบันทึกที่เป็นทางการที่สุดในเวลานี้

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน'ท้าผู้หวังดีบอกชื่อ-นามสกุลจริงอย่าเผยแค่ตัวย่อ

นายกฯ ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่า 'บิ๊กต่าย' แถมมี 'สมอลหนู' คอยดู บอกคนแฉทำเพื่อชาติ ขอชื่อ-สกุล จริง แค่ตัวย่อไม่พอ แนะส่งข้อมูลตรงมาที่ รบ. อย่ายื่นผิดซอย ชิ่งตอบปมโรมเสนอปลด 'ธรรมนัส'

นายกฯ ประกาศสงครามสแกมเมอร์ลั่นไม่ได้ทำตายตาไม่หลับ

'นายกฯ' เป็นประธานลงนาม MOU ผนึก 15 หน่วยงาน ประกาศสงครามสแกมเมอร์ ลบข้อครหาเป็นหนึ่งในขบวนการ ชี้ไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร ลั่นถ้าไม่ได้ทำคงตายตาไม่หลับ

'แก้วสรร' แพร่บทความ หนุนใช้ MOU 43 ปักปันเขตแดน 'ไทย-กัมพูชา'

แก้วสรร อติโพธิ นักกฎหมาย นักวิชาการ เผยแพร่บทความเรื่อง "งานปักปันเขตแดน..เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดน ไทย-กัมพูชา" มีเนื้อหาดังนี้

ผู้นำไทย–ลาวเป็นสักขีพยานลงนามเอ็มโอยูและความช่วยเหลือสะท้อนสายสัมพันธ์พี่น้องกว่า 75 ปี

ผู้นำไทย–ลาวร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ และพิธีส่งมอบความช่วยเหลือ แสดงถึงความร่วมมือที่แน่นแฟ้นในทุกมิติ และสะท้อนสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกว่า 75 ปี

ขำไม่ออก! มาริษบอกรัฐบาลฉีก MOU43-44 ได้ ด้วยมติ ครม.

'มาริษ' ชี้รัฐบาลฉีก MOU43 และ 44 เองได้ ด้วยมติ ครม.ไม่ต้องผลักภาระโยนให้ ปชช.ออกเสียงประชามติ - ชี้! ต้องรับผิดชอบผลเสียที่จะตามมา หลังกองทัพ-กต.ใช้ประโยชน์จาก MOU เป็นกรอบเจรจา

'ปานเทพ' ย้ำ ครม.ยกเลิก 'MOU 43' ได้ไม่ต้องทำประชามติ

'ปานเทพ' ยันต้องยกเลิก 'MOU 43' เพื่อปกป้องอธิปไตย ชี้ ครม.สามารถทำเองได้ โดยไม่ต้องประชามติ มั่นใจไม่มีข้อตกลงนี้ กัมพูชาก็ลากไทยขึ้นศาลโลกไม่ได้ แนะควรปิดด่านบีบเข้ากรอบเจรจาใหม่