สส.ณัฐชา พรรคประชาชน ตั้งคำถามต่อระบบสวัสดิการผู้พิการ ชี้เบี้ยยังชีพเดือนละ 800-1,000 บาท ไม่สะท้อนต้นทุนชีวิตที่ต่างกันของผู้พิการแต่ละประเภท เสนอรัฐควรพิจารณาปรับเกณฑ์ให้สอดคล้องกับความจำเป็นจริง เพื่อสร้างความเป็นธรรมและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน “ไม่ใช่แค่ให้เท่ากัน แต่ต้องให้ตามความเป็นจริงของชีวิต”
8 พฤศจิกายน 2568 - นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. กรุงเทพฯ พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กว่า ถึงเวลาทบทวนเบี้ยยังชีพผู้พิการ ?
“เบี้ยยังชีพผู้พิการ” คือหลักประกันรายได้ขั้นต่ำที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้พิการในประเทศไทย แต่ในความเป็นจริงแล้ว จำนวนเงินที่รัฐจัดสรรให้ในแต่ละเดือนยังไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงต้นทุนและภาระที่แตกต่างกันของผู้พิการในแต่ละประเภท
ทุกวันนี้ ผู้พิการทุกคนได้รับเบี้ยยังชีพในอัตราเท่ากัน คือเดือนละ 800 บาท หรือ 1,000 บาท (สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ทั้งที่ผู้พิการแต่ละประเภทมีความต้องการเฉพาะตัวต่างกันอย่างมาก ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวต้องใช้กายอุปกรณ์ เครื่องช่วยเดิน หรือรถเข็นที่มีค่าใช้จ่ายสูง ผู้พิการทางการมองเห็นและได้ยินต้องอาศัยเทคโนโลยีช่วยเหลือเฉพาะทาง ขณะที่ผู้พิการทางจิตใจหรือสติปัญญาอาจต้องได้รับการดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา ซึ่งหมายถึงภาระค่าใช้จ่ายที่ต่อเนื่องและยาวนาน
เมื่อสภาพความพิการต่างกัน ต้นทุนชีวิตก็ต่างกัน แต่เบี้ยยังชีพกลับเท่ากันหมด คำถามคือ การจัดสรรงบประมาณแบบนี้ยุติธรรมแล้วหรือยัง?
ถึงเวลาแล้วที่เราควรเปิดพื้นที่ให้สังคมได้ร่วมกันพูดคุยถึงแนวทางการปรับเบี้ยยังชีพผู้พิการให้สะท้อนความจริงของแต่ละประเภทความพิการ เพื่อให้การช่วยเหลือของรัฐตอบโจทย์ชีวิตผู้พิการได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การให้เท่ากัน แต่คือการให้ “อย่างเป็นธรรม” ตามความจำเป็นของแต่ละคน
ผมอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า หากจะมีการปรับเบี้ยยังชีพตามประเภทความพิการ ควรเป็นอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด เพื่อให้เสียงของประชาชนทุกคนกลายเป็นพลังในการผลักดันนโยบายสวัสดิการที่ครอบคลุม ยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
เพราะความเท่าเทียมที่แท้จริง คือการยอมรับในความแตกต่าง และจัดสรรสิ่งที่เป็นธรรมให้กับทุกคนอย่างเท่าทันชีวิตจริงของเขา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้
โทรโข่งเพื่อไทย โจมตี 'อนุทิน' โยกย้าย ขรก.มหาดไทย ในจำนวนที่น่าตกใจมาก
"ศึกษิษฏ์" ซัด "อนุทิน" โยกย้าย ขรก.มหาดไทยไม่หยุด ตั้งข้อสังเกตโยงเครือข่ายบ้านใหญ่รับศึกเลือกตั้ง ตอก "ธนาธร" หลังออกโรงป้อง "เสี่ยหนู" เหน็บ ภท.-ปชน.ติดค้างสินน้ำใจกันอยู่หรือไม่
'สุพิศาล' อดีตแกนนำพรรคส้ม ลาออกแล้ว แฉเลือกผู้สมัคร สส. มีลับลมคมใน
พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกรณีที่ได้ลาออกจากพรรคประชาชน ว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา
'จุลพันธ์' ซัดแรง 'ธนาธร' อย่าชี้นิ้วโทษคนอื่นปมแก้ รธน. แค่นี้มองไม่ออกก็โง่ซ้ำซ้อน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไปไม่ถึงวาระ3 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ สส. พรรคเพื่อไทยม
'ชลณัฏฐ์' รับกังวลต้องชนะเลือกตั้ง สส.กทม. ให้ได้ พร้อมท้าชน 'วัน อยู่บำรุง'
"ปาล์ม ชลณัฏฐ์" ไม่หวั่นโดนเปรียบเทียบ "ไอซ์ รักชนก" ชี้ทุกคนมีคาแรคเตอร์ต่างกัน เน้นเดินเคาะประตูมากกว่าปั่นจักรยาน ไร้กังวล ท้าชนพื้นที่ "วัน อยู่บำรุง" ฝากบอกผู้สมัครทุกคน ให้เต็มที่ในสนาม เดี๋ยวเจอกันวันจับเบอร์ ชี้ 'ปชน.' ก็มีกระสุน คืออาสาสมัคร
พรรคส้มเปิดชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'วิโรจน์' กลืนน้ำลายอยู่ในบัญชี
เปิดชื่อผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ 'ปชน.' พบ ไอซ์-กาย-ลูกเกด' ปรับจากเขตมาบัญชีรายชื่อ 'วิโรจน์' ลงต่อด้วย หลัง 'ป้าเจี๊ยบ' เฉลยให้อยู่อันดับ 100 เตรียมแต่งตัวเป็นฝ่ายบริหารพรรค

