"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ภท.เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา
2 ธันวาคม 2568 - เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สมาชิกพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงการวางตัวผู้สมัครพื้นที่จ.ชลบุรี ว่า ภายใน 1-2 วันนี้ จะหารือกับนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มพลังชล เพื่อมาคุยกันทั้งจังหวัดว่าใครเหมาะสมพื้นที่ใดมากกว่า เรามาจากที่เดียวกันมาตลอดหลาย 10 ปี แต่เราอยู่คนละพรรค เราก็ต้องหารือร่วมกันในเรื่องความเป็นจริงว่าใครถนัดพื้นที่ไหน ในส่วนนี้มั่นใจได้
เมื่อถามว่า แสดงว่าจะยึดพื้นที่เดิมตามที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าถนัดในโซนไหนบ้าง จะยึดตามนั้นหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า จะพูดแบบนั้นก็คงไม่ได้ เพราะเราทำงานการเมืองกับนายสนธยา มายาวนาน เราบังเอิญอยู่คนละพรรคกัน แข่งขันกัน แต่วันนี้ถ้าเรามีเจตนารมณ์อยู่พรรคเดียวกัน ก็จะมาแบ่งโซนกันว่าใครถนัดโซนไหน ตามสภาพความถนัดเราไม่สามารถโกหกได้ เพราะเราคนชลบุรีด้วยกัน เรารู้อยู่แล้วใครชำนาญพื้นที่ พี่น้องประชาชนเขตไหนให้ความรักและเคารพมากกว่ากัน
เมื่อถามว่า แนวโน้มเขต 1 จะเป็นอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า ตนเคยเป็น สส.เขต 1 จำนวน 2 ครั้ง ปี 2554 และ 2562 ตนก็แสดงเจตจำนงไว้ว่า ตนขออนุญาตที่จะลงเขต 1 ซึ่งการเลือกตั้งปี 2566 ตนต้องไปลง สส.บัญชีรายชื่อ ตอนสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ไปตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคิดว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ตนน่าจะลงเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเอง เพราะเป็นพื้นที่ที่ตนถนัด แต่ครั้งที่แล้วเกิดฉุกละหุก ในการสังกัดพรรครทสช.ทำให้ตนต้องลง สส.บัญชีรายชื่อ เพราะต้องดูแลหลายจังหวัด แต่ครั้งนี้ตนย้ายมาสังกัดพรรคภท.แล้ว มีระบบที่ดี เป็นพรรคใหญ่ และเรามีเครือข่ายเยอะไม่จำเป็นต้องไปดูจังหวัดอื่น เพราะเรามีเพื่อน และเชื่อมั่นในศักยภาพเพื่อนแต่ละคน ครั้งนี้ลงครั้งที่ 3 ที่ 4 แล้วก็มีความชำนาญมากกว่าแรกๆ เราก็ปล่อยมือได้เพื่อนๆ เก่งอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า กระแสข่าวว่านายสนธยาจะไม่ยอมปล่อยมือจากเขต 1 นายสุชาติ กล่าวว่า “ไม่ๆ พี่แป๊ะคุยกับตนแล้ว ดูที่ความเหมาะสม ถ้าเป็นผมก็ต้องเหมาะสมสิ เพราะเป็นผู้แทนมาก่อน พี่แป๊ะ สนธยา ก็กลัวว่าคนที่จะมาทำพื้นที่ถ้าแล้วจะสู้เขาไม่ได้มากกว่า เรามองเป้าหมายผลลัพธ์มากกว่า เราต้องการให้ภูมิใจไทยในจ.ชลบุรีเป็นหนึ่งเดียว ต้องการให้ได้เยอะที่สุด” จริงๆ ภายใน 1-2 วันนี้ สำหรับ 10 เขตเลือกตั้งจ.ชลบุรี คุยกันจบ นัดนายสนธยาอยู่
เมื่อถามว่า ประมาณแบ่งกันคนละครึ่งหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า คงไม่มากขนาดนั้น แต่จะเอาตัวเลขมากางบนโต๊ะว่าใครเหมาะสมตรงไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีสัญญาณการยุบสภาหรือยัง นายสุชาติ กล่าวว่า ยังไม่มี ส่วนตัวคิดว่าสถานการณ์ต่างๆ ขณะนี้ ต้องไปถามฝ่ายค้านมากกว่า แต่ตนทำงานทุกวันอยู่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รองนายกฯ สุชาติ เดินหน้ามาตรการเข้ม คุมโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล ลดฝุ่น PM2.5 รับมือหมอกควันปี 2569
นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายสำคัญให้หน่วยงานในสังกัดเดินหน้าจัดการมลพิษเชิงรุก เพื่อรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในปี 2569
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
“สุชาติ” ประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคตะวันออก เร่งขับเคลื่อนแผนพัฒนาพื้นที่เชิงบูรณาการ ปีงบประมาณ 2570
วันนี้ (4 ธันวาคม 2568) เวลา 14.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
ปลด 'กัณวีร์ สืบแสง' พ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม แอบอ้างมติพรรคหนุน 'อนุทิน' นั่งนายกฯ
เพจเฟซบุ๊ก พรรคเป็นธรรม แจ้งว่ามีมติให้ปลด นายกัณวีร์ สืบแสง ออกจากตำแหน่ง “เลขาธิการพรรคเป็นธรรม” มีผลนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป


