
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ได้ประชุมมอบนโยบายโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG(U2T for BCG and Regional Development)” หรือโครงการ "มหาวิทยาลัยสู่ตำบล U2T for BCG" หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2562 โดยจะดำเนินการในช่วงเดือน ก.ค. - ก.ย.นี้ ในพื้นที่ 7,435 ตำบล ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. กล่าวว่า โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล U2T for BCG เป็นโครงการที่ทุกคนรอคอยและเป็นที่ต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง นี่คือโครงการที่ใหญ่ที่สุดของ อว. ที่จะดำเนินการครอบคลุมทั่วประเทศ ทุกตำบล รวมทั้งทุกแขวงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะใช้เวลาดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่ ก.ค.- ก.ย. 65 และจะโฟกัสเรื่องเดียวคือ BCG เท่านั้น เพราะเป็นวาระสำคัญของประเทศไทยที่จะเชื่อมโยงไปถึงการประชุมเอเปค ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในรอบ 20 ปีมีครั้ง และ BCG คือหนึ่งในวาระสำคัญของการประชุมเอเปคที่ประเทศไทยจะนำเสนอ ดังนั้น อว.จะนำผลงาน U2T for BCG ไปโชว์ให้กับผู้นำแต่ละประเทศได้เห็นถึงโมเดลทางเศรษฐกิจใหม่ของไทยที่ขับเคลื่อนด้วย BCG
รมว.อว.กล่าวต่อว่า U2T for BCG จะเป็นการรวมพลังของมหาวิทยาลัยรัฐกว่า 70 แห่ง และมหาวิทยาลัยเอกชนกว่า 20 แห่ง ทำร่วมกับบัณฑิตจบใหม่และประชาชนในพื้นที่กว่า 68,350 คน ซึ่งโครงการนี้จะต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า อว.เป็นคนทำ และให้เห็นภาพของรัฐบาลในการสนับสนุน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งใจที่จะผลักดันงบประมาณที่เป็นงบกลางมาให้ อว. ดำเนินโครงการนี้ ในช่วงเวลา 3 เดือน ดังนั้น 3 เดือนจากนี้เป็นต้นไป โครงการ U2T for BCG ต้องทำให้มาก ให้ดี ให้เร็วและประหยัด และจะไม่ทำซ้ำกับโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ (U2T) ที่สำคัญ U2T for BCG จะทำให้ผู้ร่วมโครงการกลายเป็นคนที่สามารถ ซึ่งเกิดจากการทำงานกับผู้คนและสังคม ทำให้ได้ทั้งวิชางาน วิชาชีวิต เปลี่ยนความเก่งและดีที่มีอยู่ให้กลายเป็นความสามารถให้ได้

ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว.กล่าวชี้แจงแนวทางการดำเนินงานว่า อว.จะเปิดรับบัณฑิตจบใหม่และประชาชนในพื้นที่ กว่า 68,350 คน ที่ต้องการจะมาร่วมงาน เข้ามาร่วมเป็นทีม อว. โดยทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย ภาคประชาสังคม หน่วยงานในพื้นที่ และภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนโครงการ U2T for BCG เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากเป็นรายตำบลทั่วประเทศ โดยกรอกข้อมูลผ่านระบบกลางออนไลน์ของ อว. แล้วจะเชื่อมโยงข้อมูลให้มหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบแต่ละตำบลเป็นผู้คัดเลือก หลังจากนั้นจะแบ่งการลงพื้นที่เพื่อทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ 3 พันตำบลเดิม จำนวนตำบลละ 8 คน ขณะที่พื้นที่ 4,435 ตำบลใหม่ จำนวนตำบลละ 10 คน เพื่อทำหน้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของชุมชน โดยจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและบริการ การส่งเสริมการขยายและการตลาด การพัฒนาสินค้าและบริการให้มีมูลค่าสูง การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการ การขนส่งและกระจายสินค้า ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของโครงการฯ คาดว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของชุมชนที่ได้มาตรฐานและได้ออกสู่ตลาด มียอดขายเพิ่มขึ้นหรือการบริโภคเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์

“โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล U2T ได้รับความชื่นชมจากทุกภาคส่วน ไม่เพียงเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการ ซึ่งขณะนี้จะมุ่งเน้นด้าน BCG ในพื้นที่ แต่ยังเป็นการพัฒนากำลังคนของประเทศไทยให้มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงานในปัจจุบันและทักษะที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ BCG ด้วย” ปลัด อว.กล่าว
ขณะที่ ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัด อว. กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. อว.จะเปิดให้มีการลงทะเบียนของบัณฑิตและประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการร่วมโครงการ U2T for BCG ผ่านทางเว็บไซต์ http://u2t.ac.th ก่อนที่จะมีการกระจายกำลังลงไปทำงานในทุกตำบลต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ
สุรศักดิ์ พร้อมยกระดับศูนย์พักพิงชั่วคราว ม.อ.เป็นโรงพยาบาลสนาม เผยระบบการสื่อสารบริการโทรศัพท์ฟรีจากเครือข่าย AIS และฟรีไวไฟจาก True
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2568 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมติดตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อบัญชาการและติดตามสถานการณ์วิกฤติน้ำท่วม
GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่ายคนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล และผู้ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เชิงพาณิชย์รายแรกของไทย ประกาศความร่วมมือกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในโครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” เพื่อขยายจุดรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) สู่เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ มุ่งสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ
11.11 เปิด “ฟิวเจอเรียม” เต็มรูปแบบวันแรก “สุรศักดิ์” ตรวจเยี่ยมการให้บริการ ทดสอบระบบ พร้อมถอดสูทสวมบทบาทเป็น “นักธรณีวิทยาปิโตรเลียม” และ “นักคิดค้นยา”
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.68 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เดินทางลงพื้นที่ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM เพื่อติดตามการเปิดให้บริการฟิวเจอเรียม (FUTURIUM)
NIA - อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอีด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ร่วมบ่มเพาะและทดลองตลาด สร้างนวัตกรรมสู่โรงงานอัจฉริยะ
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า NIA ร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ (Startup), เอสเอ็มอี (SME)
อว. จัดพิธีปิดงานและมอบโล่ขอบคุณผู้ร่วมจัดงาน ‘อว.แฟร์ 2025 - มหกรรมวิทย์ฯ 2568’ ตอกย้ำความสำเร็จตลอด 9 วัน สู่การพัฒนากำลังคนและสหวิทยาการรองรับอนาคต
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568, กรุงเทพมหานคร – นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีปิดงาน พร้อมมอบโล่แสดงความขอบคุณผู้ร่วมจัดงาน “มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ วิจัย และนวัตกรรม (อววน.) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ” หรือ “อว.แฟร์ 2025 : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND”


