TCEB”งัด4เทรนด์นวัตกรรมโลกปลุกไมซ์เร่งโกยเงินปลายปี’65 แจกอีโวเชอร์หลักล้านธุรกิจเทคเฟิร์มจับคู่ไฮเทคปั๊มยอดงานพุ่ง

“TCEB”รุกอุตสาหกรรมไมซ์ งัดเทรนด์โลก 4 นวัตกรรม “ไมซ์ไฮบริด-ลงทะเบียนดิจิทัล-โรบ็อต-บิตคอนเน็ค” แถมเมตาเวิร์ส เร่งธุรกิจไทยโกยรายได้ครึ่งปีหลัง’65 เทงบผ่านอีโวเชอร์แจกงานละ 1แสน-1 ล้านบาท กระตุ้นบรรดาบริษัทเทคเฟิร์มจับคู่ไฮเทคโนโลยีปั๊มยอดจัดงานไมซ์ดันเศรษฐกิจคึกคักอีกครั้ง

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” วางกลยุทธ์เพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมไมซ์หลังสถานการณ์โควิด-19 สงบลง แล้วนโยบายรัฐบาลเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ดังนั้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ทีเส็บพร้อมนำนวัตกรรมและแผนพัฒนาเทรนด์ใหม่รณรงค์ภาคธุรกิจ ภาครัฐ และองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยพลิกโฉมสู่ตลาดโลกของไมซ์ยุคใหม่ ร่วมกันสร้างรายได้และฟื้นฟูเศรษฐกิจไมซ์ไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยจะใช้เครื่องมือเร่งทำทันทีนับจากนี้เป็นต้นไป 4 เรื่องหลัก ประกอบด้วย

 เรื่องที่ 1 ขณะนี้ทุกการจัดงานไมซ์ได้นำระบบไฮบริดเข้ามาใช้ทั้งหมด ไม่ว่าจะจัดงานประชุม อีเวนต์ แสดงสินค้า ผสมผสานทั้งจัดจริงควบคู่ออนไลน์  

เรื่องที่ 2 วิธีลงทะเบียนเข้าร่วมงานต่าง ๆ หันมาใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งหมด โดยให้ลงออนไลน์ หรือบางงานให้ใช้สแกนใบหน้า Face scaning หรือโชว์มือถือที่มีระบบลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วเข้างานได้ทันที

เรื่องที่ 3 นำ Digital signess เข้ามาใช้แทนโปสเตอร์แสดงแผนผังการจัดแต่ละแทน ทำได้ง่ายสะดวก ต้นทุนไม่สูง  สามารถเปลี่ยนภาพได้หลากหลาย ประการสำคัญช่วยลดการใช้กระดาษลดภาวะโลกร้อนและลดใช้คาร์บอน รวมถึงลดการสัมผัสกันได้มากด้วย

เรื่องที่ 4 จัดทำโครงการต้นแบบลดคาร์บอนเป็นศูนย์ “สร้างสมดุลการใช้คาร์บอน -CARBON NEUTRAL” กระทั่งทำให้เกิดการลดปริมาณการใช้ขยะเป็นศูนย์ (ZERO WASTE ) ด้วยใช้วิธีชดเชยการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม

โดยจะลงมือทำด้วยการใช้งาน FTI EXPO  2022 : SHAPING FUTURE INDUSTRIES ที่ทีเส็บสนับสนุนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่าง 29 มิถุนายน 2565 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 เมืองไมซ์ของทีเส็บ งานนี้จะมีสมาชิกและกลุ่มสภาอุตสาหกรรมแต่ละจังหวัดทั่วประเทศจะมารวมตัวรวมพลังกันใช้การจัดนิทรรศการแสดงสินค้าเป็นเครื่องฟื้นฟูธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือใก้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ภายในงานจะมีทั้งการแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์ สัมมนา โดยได้ร่วมพูดคุยกับทุกฝ่ายเรียบร้อยแล้ววางแผนใช้ต้นแบบจากงาน FTI EXPO  2022 : SHAPING FUTURE INDUSTRIES เดินหน้าทำโครงการ  

นางศุภทีเส็บยังได้สนับสนุนใช้จัดงานไมซ์ประเภทต่าง ๆ ด้วยการนำเทรนด์นวัตกรรมโลกเข้ามาใช้อย่างเต็มรูปแบบ การนำ “ 4 นวัตกรรม” ประกอบด้วย

1.การใช้หุ่นยนต์ Robot ทำหน้าที่ภายในแต่ละงานไมซ์ ซึ่งโรบ็อตสามารถให้ข้อมูล แผนผังงาน บอกถึงการเว้นระยะห่าง ตลอดจนถึงผู้เข้าร่วมงานสามารถสอบถามเส้นทางท่องเที่ยวพื้นที่ใกล้เคียงได้ด้วย

2.นำ Live Streaming เข้ามาใช้กระจายรูปแบบการจัดงานให้คนในเชียงใหม่ ภาคเหนือ และทั่วประเทศ เข้าถึงงานได้ด้วยในระบบออนไลน์ไลฟ์สดอีกช่องทาง

3.ผลิตนวัตกรรมแคตาล็อกสินค้า หรือ Innovation catalog ขณะนี้ธุรกิจและผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมไมซ์ อาจจะมีไม่มากเท่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ แต่ทีเส็บมีประสบการณ์ต่อเนื่องมากว่า 2 ปี ที่ได้นำนวัตกรรมเข้ามารวมศูนย์ในรูปแบบ Tech Firm มีรายชื่อถึง 90 บริษัท ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติแล้วนำมาบรรจุไว้ในแคตาล็อก เพื่อให้ผู้จัดงานเลือกใช้บริการได้ สามารถหาข้อมูลบริษัทเทคเฟิร์มได้ที่เว็บไซต์ Error! Hyperlink reference not valid.  และ www.businesseventthailand.com  

4.สร้างแพลตฟอร์ม Bitconnect ซึ่งเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการจัดงานประชุม อีเวนต์ งานวิ่ง การแสดงสินค้าของภาครัฐและเอกชนนำไปใช้โดยมีทีเส็บเป็นผู้ลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญทำแพลตฟอร์มสำเร็จรูปให้แต่ละภาคส่วนที่จัดงานไมซ์ได้ใช้ประโยชน์ฟรี เพื่อการลงทะเบียนการเข้างาน ข้อมูลวิทยากร หรือหัวข้อใด มีคนสนใจมากที่สุด เรื่อยไปจนถึงการพิมพ์ข้อมูลผู้เข้าร่วมงานได้ด้วย เป็นชาย-หญิง อายุ สนใจสินค้าประเภทใด เลือกเดินโซนสินค้าอะไรมากที่สดุ

รวมทั้งปัจจุบันทีเส็บยังได้นำ “METAVERSE” เข้ามาใช้จัดงานอีเวนต์ค่อนข้างมาก นอกเหนือจากออนไลน์แล้ว ยังจะมีการจัดงานผสมผสานเสมือนจริงหรือ Virtual meeting รวมอยู่ด้วย

ไฮไลต์สำคัญ ขณะนี้ทีเส็บได้รวบรวมรายชื่อบริษัท TEC FIRM เข้ามาไว้ในแคตาล็อกดิจิทัลแล้วรณรงค์กระตุ้นให้กลุ่มผู้ประกอบการทางเทคโนโลยีเลือกจับคู่กับเทคเฟิร์ม เมื่อคู่ไหนจับคู่ทำงานร่วมกันคิดสร้างสรรค์จัดงานไมซ์ได้ ก็ให้นำมาเสนอทีเส็บเพื่อคัดกรองอีกครั้ง

แล้วจากนั้นทางทีเส็บจะจัดอีโวเชอร์แทนเงินสนับสนุนตรงไปยังบริษัทเทคเฟิร์มผู้รับผิดบอการจัดงาน มีวงเงินให้เลือกตั้งแต่งานละ100,000 -1,000,000 บาท  ซึ่งทางผู้ที่ได้รับอีโวเชอร์แทนเงินไปจัดงาน เมื่อจัดเสร็จเรียบร้อยแล้วจะต้องทำสรุปผลลัพธ์ถึงความสำเร็จเป็นมูลค่ามากเท่าไร ซึ่งมีผู้เลือกใช้โครงการนี้เป็นจำนวนมากทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ส่วนการต่อยอดงานพัฒนาไมซ์ อีกโครงการคือการลงนาม MOU กับสถาบันการศึกษาเพื่อสร้าง MICE Business Center 11 แห่ง เพิ่มใหม่อีก 6 แห่ง จากเดิมมีเพียง 5 แห่งเท่านั้น เพื่อกระจายให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตอนนี้ทีเส็บมี MICE CITY 10 เมือง ประกอบด้วย 1.ภาคเหนือ ที่เชียงใหม่ พิษณุโลก 2.ภาคกลาง คือ กรุงเทพฯ 3.ภาคตะวันออก ที่พัทยา(ชลบุรี) 4.อีสาน ที่นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น 5.ภาคใต้ ที่สงขลา สมุย+สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต

เพราะทุกวันนี้มหาวิทยาลัยได้ขยายบทบาทพัฒนาอบรมผู้ประกอบการ มาตรฐานสถานที่จัดงาน และศูนย์ข้อมูลไมซ์ จึงทำงานร่วมกันตอนนี้ครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศ เช่น นครราขสีมามีศูนย์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรนารี พิษณุโลกมีศูนย์ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ภาคตะวันตก/เพชรบุรีมีศูนย์ราชมงคลรัตนโกสินทร์

สำหรับวิธีค้นหาข้อมูลเพื่อค้นหารายชื่อมหาวิทยาลัยที่ทีเส็บแต่งตั้งให้เป็น MICE business Center ให้บริการแบบ One Stop Service กระจายอยู่ตามสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ 11 แห่งนั้น เข้าไปหารายละเอียดและอัพเดทสถานการณ์ได้ 2 ช่องทาง ประกอบด้วย

1.www.thaimiceconnect.com  เป็นแพลตฟอร์มหลักของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของอุตสาหกรรมไมซ์หรือ Ecosystem มีข้อมูลอยู่มากกว่า 10,000 เดต้า แต่ละเดต้าก็จะแยกเป็นแคตาล็อก เช่น สถานที่จัดงาน โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ชุมชนจัดงานได้ วิทยากรไมซ์ เป็น Speaker Bureau มหาวิทยาลัยศูนย์เครือข่ายแต่ละจังหวัด  และ 2.www.micecapabilities.com ตอนนี้ทีเส็บได้ทำ E-Learning ด้วย เปิดอบรมออนไลน์ที่ใบรับรองไปแล้วเกินกว่า 4,000 คน