
วันนี้ (4 กรกฎาคม 2565) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกฯ และหัวหน้านโยบาย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับ นายชวน ชูจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. และทีมเศรษฐกิจฐานรากของพรรคฯ เพื่อวางแนวช่วยเหลือยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ทั้งในด้านการเสริมสร้างรายได้ การพัฒนาอาชีพ รวมไปถึงการส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่ ผ่านการวางแพลตฟอร์มการเปิดอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ทางทฤษฎีและสู่ภาคปฏิบัติ เชื่อมโยงการทำงานร่วมกันกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่ทำงานในพื้นที่อยู่แล้ว เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนกิจกรรมให้เป็นรูปธรรม ที่จะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากให้ยั่งยืน เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนสิงหาคมนี้

“เราได้มีการหยิบยกประเด็นต่างๆ มาหารือที่จะพัฒนาสู่กิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับชุมชน ทั้งการนำโมเดลความสำเร็จการพัฒนาชุมชนมาถ่ายทอดทางทฤษฎีและปฏิบัติ สร้างพื้นฐานความรู้ด้านการทำธุรกิจ โดยจะเป็นการเปิดอบรมเพื่อให้สามารถเจาะลึกถึงความต้องการในด้านต่างๆ โดยยังคงยึดมั่นในนโยบาย 3 เสาหลักเป็นสำคัญ ทั้งในเรื่อง สวัสดิการประชารัฐ เศรษฐกิจประชารัฐ และ สังคมประชารัฐ”ศ.ดร.นฤมลกล่าว

ทั้งนี้เป้าหมายการดำเนินงานมุ่งที่จะดูแลเศรษฐกิจฐานรากที่ปัจจุบันมีความอ่อนแอจากภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 และล่าสุดจากวิกฤติรัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้ระดับราคาน้ำมัน และสินค้าต่างๆสูงขึ้นกระทบต่อค่าครองชีพ ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนต้องเผชิญกับภาระรายจ่ายที่สูง โดย ส.ส.ชวน และทีมเศรษฐกิจฐานราก จะเป็นแกนหลักในการดำเนินงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์มที่จะนำมาใช้โดยเร็วเบื้องต้นได้มีการได้มีการระดมผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจฐานราก มากำหนดรูปแบบการช่วยเหลือ ที่ต้องสะท้อนความต้องการชุมชน ทั้งในด้านการให้องค์ความรู้ในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การทำการตลาดผ่านระบบE-Marketing ผ่านการอบรมหลักสูตร เพื่อการฝึกอาชีพ การให้บริการ การผลิตสินค้าชุมชน รวมถึงการสร้างผู้ประกอบการใหม่ (Entrepreneurs) ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เข้ามาให้ความรู้กับผู้ฝึกอบรม

ทั้งนี้แนวทางพัฒนาแพลตฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก จากจุดเริ่มต้นจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้กับชุมชนแล้ว ยังสามารถขยายผลความช่วยเหลือ หรือสนับสนุนในรูปแบบกิจกรรมอื่นๆที่สามารถดึงภาคเอกชนที่พร้อมเข้าเข้ามาร่วมสนับสนุนอยู่แล้วภายใต้เงื่อนไขการทำ Social Enterprise ผ่านกลไกการทำงานด้วยรูปแบบกองทุนต่างๆ ที่พรรคได้ผลักดันให้เกิดขึ้นในอนาคต อาทิ Social Impact Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่มีเป้าหมายในการช่วยเหลือกลุ่มคนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนพิการ เกษตรกร ให้สามารถประกอบอาชีพได้ เพื่อที่จะทำให้ลดภาระการใช้งบประมาณของภาครัฐที่จะต้องไปลงทุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานด้านอื่นๆทำให้ประเทศไทยสามารถหลุดพ้นจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจทั้งระบบได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ลุงป้อม’ ส่งขุนศึกเหนือ ‘สุรเดช’ เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่
'ลุงป้อม'ลั่นกลองรบ ส่งขุนศึกทัพเหนือ 'สุรเดช ยะสวัสดิ์' เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่ เผยเป็นอดีตสส. 9 สมัย-อดีตข้าราชการผู้ใหญ่ประสบการณ์เพียบ ทำคุณประโยชน์ให้ชาวเชียงใหม่มากมาย
“รมว.นฤมล”เร่งสำรวจความเสียหายโรงเรียน หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติงบฟื้นฟูให้กลับมาเปิดเรียนโดยเร็ว ชี้ เด็กสามารถมาเรียนได้ โดยไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน หลังทรัพย์สินเสียหายจากน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เวลา 15.40 น.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจสภาพความเสียหายบริเวณวงเวียนสายสงขลา–หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
Fix It Center เต็มกำลัง! “รมว.นฤมล”ตระเวนทั่วหาดใหญ่ตรวจความพร้อม กำชับ เร่งงาน รวดเร็ว ปลอดภัย และทั่วถึง ช่วยชาวบ้านซ่อมของเสียจากน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายสุเทพ แก่งสันเทียะ
‘เฉลิม’ ยืนยันลาออกพ้นเพื่อไทย เตรียมย้ายซบพลังประชารัฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เผยเซ็นลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว เตรียมยื่น กกต. วันที่ 3 ธ.ค. ย้ำเป็นเหตุผลทางการเมือง ไม่มีการแจ้งแพทองธาร และยังไม่ได้คุยกับวัน อยู่บำรุง ก่อนประกาศชัด
'นฤมล' ยันดูแล 'นร.-ครอบครัว' ประสบภัยน้ำท่วมสำคัญสุด เร่งฟื้นฟูโรงเรียนทุกแห่ง กลับสู่ภาวะปกติ
‘รมว.นฤมล’ ลุยฟื้นหาดใหญ่หลังน้ำลด สั่งเร่งกู้โรงเรียนเสียหายหนัก ตั้ง 50 ศูนย์ Fix It ช่วยซ่อมของประชาชนกว่า 1 หมื่นคัน ย้ำ จะเคียงข้าง ปชช.จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
“รมว.นฤมล”นำถก บอร์ด ก.ค.ศ. ไฟเขียว ย้ายครูปี 69 ไม่สะดุด ใช้เกณฑ์เดิม “ว 18/2566” ชั่วคราว ระหว่างพัฒนาระบบ TRS ระยะที่ 3 คุมเข้มการย้ายครู ต้องโปร่งใสทุกขั้นตอน
วันที่ 27 พ.ย. 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2568 ว่า จากการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคของพี่น้องข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ผ่านมา การเก็บข้อมูลเชิงวิจัย รวมทั้งการหารือร่วมกับคณะกรรมการในที่ประชุม

