น้ำมันโลกดิ่ง หลังเงินเฟ้อ ฉุดเศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลง มีความเสี่ยงที่โลกจะเผชิญภาวะถดถอย คาดกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมถึงราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปสำเร็จรูป ในตลาดโลกได้ กูรูแนะ ไม่ควรนำค่าการกลั่นรายวัน มาเปรียบเทียบกัน เพราะจะสร้างความสับสนให้กับประชาชน

สถานการณ์ราคาน้ำมันล่าสุด
ปัจจุบัน ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นปรับลดลง เนื่องจากคาดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้น โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินกับน้ำมันดิบดูไบลดลงถึง 58% ขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลกับน้ำมันดิบดูไบลดลง 41% ส่งผลให้ค่าการกลั่นของสิงคโปร์ปรับลดลงประมาณ 19 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (ลดลง 63%) จากระดับสูงสุดในช่วงปลายเดือน มิ.ย. 65
สถานการณ์ข้างต้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน (เบนซิน แก๊สโซฮอล์ E10 และ E20) หน้าปั๊มปรับลดลงมาถึง 5.1 บาทต่อลิตร สำหรับน้ำมันกลุ่มดีเซล จะเห็นว่าราคาหน้าปั๊มยังคงตรึงอยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร แต่เงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.56 บาทต่อลิตร จากเดิมที่เคยชดเชยถึง 11.84 บาทต่อลิตร
โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯ ที่รายงานล่าสุด ณ วันที่ 3 ก.ค. 65 ติดลบ 107,601 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนน้ำมันฯ ติดลบ 69,718 ล้านบาท และกองทุน LPG ติดลบ 37,883 ล้านบาท
คาดการณ์ราคาน้ำมัน
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป ในช่วงครึ่งปีหลัง (ไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2565) หลายฝ่ายคาดว่ายังมีความเสี่ยงหลายด้าน และผันผวนสูงต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ล่าสุดราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมากกว่า 10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันสำเร็จรูปปรับลดลงมากกว่า 35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากความกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะหลังจากจีนกลับมาปิดเมืองบางส่วนอีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อของหลายประเทศทั่วโลก ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชียที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลง หรือมีความเสี่ยงที่โลกจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย และกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมถึงราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปสำเร็จรูป ในตลาดโลกได้
"ซิตี้กรุ๊ป คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะทรุดตัวลงแตะระดับ 65 ดอลลาร์สหรัฐ /บาร์เรลในปลายปีนี้ และดิ่งลงสู่ 45 ดอลลาร์สหรัฐในปลายปีหน้า หากเศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน" (กรุงเทพธุรกิจ 7 ก.ค. 2565)
กูรูแนะ ไม่ควรนำค่าการกลั่นรายวัน มาเปรียบเทียบกัน เพราะจะสร้างความสับสนให้กับประชาชน
ราคาน้ำมันเป็นราคาที่มีความผันผวนสูง ที่ผ่านมาเพียง 2 สัปดาห์ ส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลเทียบกับน้ำมันดิบดูไบปรับลดลงกว่า 50% (ดังแสดงในตารางด้านล่าง) การนำราคาน้ำมันและค่าการกลั่นรายวันมาเปรียบเทียบกันนั้น ไม่สามารถบ่งบอกถึงกำไรของโรงกลั่นน้ำมันได้ และจะทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ทั้งนี้ เพราะมีปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันและค่าการกลั่น ในแต่ละวัน ยกตัวอย่างเช่น 1. อัตราแลกเปลี่ยน จากสถานการณ์ที่ค่าเงินบาทลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย 2. อุปสงค์และอุปทานของตลาดน้ำมันดิบ 3. อุปสงค์และอุปทานของตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เป็นต้น
ดังนั้น การเปรียบเทียบราคาน้ำมันและค่าการกลั่นสำหรับการวิเคราะห์กำไรของโรงกลั่นน้ำมัน ควรพิจารณาในลักษณะที่เป็นค่าเฉลี่ยในระยะยาว เช่น รายปี เนื่องจากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นมีความผันผวนสูง การนำมาค่าการกลั่นระยะสั้น เช่น รายวัน รายเดือน หรือรายไตรมาส มาเปรียบเทียบกัน จะสร้างความสับสนให้กับประชาชน
นอกจากนี้ การนำสถานการณ์ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นสูงขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ มาเปรียบเทียบกัน และมากล่าวอ้างว่าโรงกลั่นทำกำไรมากเกินควร แล้วเรียกเงินจากค่าการกลั่นส่วนเกินจากโรงกลั่นน้ำมันนั้น คงไม่ถูกต้อง เราจะต้องพิจารณาสถานการณ์ระยะยาวเนื่องจากตลาดน้ำมันมีความผันผวนสูง จากการคาดการณ์ราคาน้ำมันจะลดลงในช่วงปลายปีของซิตี้ กรุ๊ป และในตลาดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า โรงกลั่นน้ำมันต่างๆ จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการขาดทุนสต็อกน้ำมันในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ซึ่ง ณ ขณะนั้น คงจะไม่มีใครมาเรียกร้องว่ารัฐบาลจะเข้ามาช่วยโรงกลั่นน้ำมันอย่างไรบ้าง
ข้อมูลอ้างอิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยออยล์คว้ารางวัลเกียรติคุณ การเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน Sustainability Disclosure Award ประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลเกียรติคุณการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน “Sustainability Disclosure Award” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จากงานมอบรางวัลการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน ประจำปี 2568 จัดโดยสถาบันไทยพัฒน์
ไทยออยล์ร่วมบรรจุถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดสงขลา
คุณบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหาร พร้อมด้วยพนักงานจิตอาสา ร่วมบรรจุถุงยังชีพกว่า 400 ใบ เพื่อส่งต่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ จ.สงขลา โดยภายในถุงยังชีพประกอบด้วยอาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นสำหรับการดำรงชีพในช่วงวิกฤต ณ อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์
ไทยออยล์ได้รับคะแนนประเมิน CGR ระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent) หรือ 5 ตราสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
ไทยออยล์คว้ารางวัล Thailand HR Innovation Award 2025 ระดับ Silver Award
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) โดย คุณสุชาดา ดีชัยยะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความเป็นเลิศด้านทรัพยากรบุคคลและองค์กร พร้อมด้วย คุณเบญจวรรณ พุ่มพฤกษ์
ไทยออยล์ รับรางวัล OUTSTANDING CEO และ OUTSTANDING IR จากเวที IAA Awards for Listed Companies 2025
เมื่อเร็วๆ นี้ คุณธาริกา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้จัดการฝ่ายการเงิน เป็นตัวแทน คุณบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด
TOPปลื้มไตรมาส3/68กำไรกว่า 2 พันล้าน
ไทยออยล์ โชว์ไตรมาส 3 /68 กำไรสุทธิ 2,147 ล้านบาท จากกำไรสต็อกน้ำมันหนุน EBITDA เพิ่มขึ้นและมีกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ต่างประเทศ 1,372 ล้านบาท คาดไตรมาส 4 ผลประกอบการฟื้นต่อเนื่องหลังกลับมาเดินเครื่องเต็มกำลัง


