“พล.อ.ประวิตร”กดปุ่มพัฒนา2เส้นทางเพิ่มคุณภาพชีวิต ปชช. หนุนปลูกป่าชายเลนลดโลกร้อนสร้างความมั่นคงอาชีพ ประมง

“พล.อ.ประวิตร” ลุยขับเคลื่อนโปรเจ็กต์เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนให้เป็นรูปธรรม  ผ่านการอนุมัติโครงสร้างพื้นฐาน 2 โครงการ ในพื้นที่กรุงเทพ และจ.สงขลา  พร้อมยกระดับแผนปฏิบัติขยายพื้นที่ป่าชายเลน 3 แสนไร่ในระยะ 10 ปี  แก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล เพิ่มความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล สร้างแหล่งเกษตรประมง เพื่อความกินดีอยู่ดี อย่างมั่นคง และยั่งยืน

(6 สิงหาคม 2565 )พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า  พรรคพลังประชารัฐ ได้ให้ความสำคัญในมิติการขับเคลื่อนนโยบายอย่างเร่งด่วนเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว ผ่านกลไกของรัฐบาล โดยได้มีการผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม  ในฐานะคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ล่าสุดได้อนุมัติ 2 โครงการ  ประกอบด้วย โครงสร้างการเชื่อมต่อถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย        4 กับสะพานพระราม 8 ของสำนักการโยธา กทม. เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด รวมระยะทาง 3.5 ก.ม.   และโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา   - ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท ที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ  นำมาสู่การแก้ปัญหาจราจรให้กับประชาชนในพื้นที่  และยังเป็นขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้กับคนในท้องถิ่น  ซึ่งจะเป็นกลไกให้เกิดการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว ที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างรายได้ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว

สำหรับการดูแลและฟื้นฟูในด้านสิ่งแวดล้อม  โดยพปชร. ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง และกระตุ้นให้ทุกฝ่าย เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพราะสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงที่มีแนวโน้มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น  ที่สร้างผลกระทบต่อการดำรงชีวิต  และยังรวมไปถึงการประกอบอาชีพของประชาชน ที่เป็นความเชื่อมโยงกันในเรื่องของฤดูกาล ก่อให้เกิดภัยพิบัติ ทั้งภัยแล้งและอุทกภัย สร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนั้นได้ดำเนินนโยบายเพื่อการยกระดับการแก้ปัญหาป่าชายเลน  ด้วยการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมปลูกป่าชายเลน 3 แสนไร่ ในระยะเวลา  10 ปี ( ปี   2566-2574 ) เพื่อเพิ่มพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ แก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง  ตามกฎกระทรวงที่กำหนด มุ่งเป้า 6 พื้นที่  ใน 23 จังหวัดชายฝั่ง  มีเป้าหมายเพื่อลดการกัดเซาะชายฝั่งทะเล อีกทั้งยังสร้างแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำ เป็นการสร้างความมั่นคงอาชีพประมง และยกระดับให้เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของประเทศ  

ขณะเดียวกันได้วางแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อประโยชน์การดูดซับคาร์บอน สู่แนวทางการแบ่งปันผลประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ระหว่าง ผู้พัฒนาโครงการ และ ทช. ในสัดส่วน 90 : 10 โดยเรื่องดังกล่าว ได้มอบหมายให้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ศึกษาแผนการแบ่ง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครึ่งหนึ่ง เพื่อนำไปให้ชุมชนใช้ในกิจกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ โดยมีระยะเวลา 10 ปี เป็นการสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรให้เกิดขึ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีการทำลายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นการกระตุ้นให้เกิดการขยายผลให้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อการพัฒนาความเป็นอยู่ทั้งในด้านอาชีพ การสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วัน อยู่บำรุง' ประกาศไขก๊อกพลังประชารัฐ เว้นวรรคไม่ลงเลือกตั้ง

นายวัน อยู่บำรุง กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จากที่ปรากฏเป็นข่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

'สามารถ' ยัน พปชร. ไม่ระส่ำ 'บิ๊กป้อม' ยังเป็นผู้นำพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง

นายสามารถ แก้วมีชัย กรรมการบริหารพรรค พปชร.และว่าที่ผู้สมัครสส.เชียงราย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พปชร. ถูกจับตามองเกิดความสั่นคลอนและจะล่มสลาย หากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร.วางมือทางการเมืองว่า

'ธีระชัย' ยัน 'ลุงป้อม' ยังไม่ทิ้งพลังประชารัฐ รับ 'วัน อยู่บำรุง' ไม่แน่อยู่หรือไป

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงกระแสข่าวนายวัน อยู่บำรุง จะไม่ไปต่อกับพรรคว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนนายวันก็ยังมานั่งรับประทานอาหารกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค แต่ต้องเข้าใจว่า พรรคพลัง

'เฉลิม' ซบ 'ลุงป้อม' ลงเลือกตั้ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พลังประชารัฐ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางมา พบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

‘สุรเดช’ รับคำสั่ง ‘ลุงป้อม’ คุมภาคเหนือ ลั่นสู้ศึกเลือกตั้งด้วยผู้สมัครเกรด A

นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือว่า ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ดูแล