โครงการ Care the Bear ลดโลกร้อนเป็นรูปธรรมวัดผลได้ใน “ศูนย์ข่าวสีเขียว” ขานรับเป้าหมายการประชุมเอเปค 2565 สู่เศรษฐกิจ BCG อย่างสมดุลและยั่งยืน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ กระทรวงการต่างประเทศ กลุ่มบริษัทบางจาก เอสซีจี และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ร่วมขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำในการประชุมเอเปค 2565 ผ่านโครงการ Care the Bear “ลดโลกร้อน” นำหลักปฏิบัติ 6 Cares มาใช้ใน “ศูนย์ข่าวสีเขียว” ตลอด 6 วัน 14-19 พฤศจิกายน 2565 ลดก๊าซเรือนกระจกได้ 30,295.40 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่าการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 3,366 ต้น ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของทั้งพันธมิตรหลักและทุกองค์กรที่จัดแสดงนิทรรศการ รวมถึงสื่อมวลชนที่ร่วมใช้พื้นที่ศูนย์ข่าว ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มุ่งเป็นแบบอย่างในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่า และบริหารจัดการขยะครบวงจร ขานรับเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ได้อย่างสมดุลและยั่งยืน

นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า หนึ่งในประเด็นสำคัญในการประชุมเอเปค 2565 คือการผลักดันเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรในการดำเนินโครงการ Care the Bear ครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จทำให้ “ศูนย์ข่าวสีเขียว” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตลอด 6 วัน ลดก๊าซเรือนกระจกได้ 30,295.40 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่าการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 3,366 ต้น โดยมีพันธมิตรอย่าง กลุ่มบริษัทบางจาก ได้ประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมประมาณ 2,366 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (ก่อนการยืนยันจากผู้ทวนสอบ) ซึ่งจะชดเชยทั้งหมดด้วยคาร์บอนเครดิต (TVERs) จากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยผ่าน Carbon Markets Club ด้าน เอสซีจี ที่ได้สนับสนุนนวัตกรรมกระดาษรีไซเคิลสำหรับตกแต่งงานประชุม จะนำขยะกระดาษไปรีไซเคิลเป็นชั้นวางหนังสือ รวมทั้ง โออาร์ นำขยะพลาสติกไปสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซคลิ่งให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์นำกลับมาใช้งานใหม่ ความร่วมมือจากทุกองค์กรล้วนมีส่วนสำคัญที่ทำให้การประชุมเอเปคสามารถลดโลกร้อนได้จริงและวัดผลได้ พร้อมเป็นต้นแบบให้งานระดับโลก สะท้อนเป้าหมายกรุงเทพฯ ได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งหวังว่าโครงการ Care the Bear จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรและประชาชนเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อน พร้อมขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้ในอนาคต โดยหลักปฏิบัติ 6 Cares ในโครงการ Care the Bear “ลดโลกร้อน” ประกอบด้วย การเดินทางโดยรถสาธารณะหรือเดินทางมาร่วมกัน การลดใช้กระดาษและพลาสติก การงดการใช้โฟม การลดใช้พลังงาน การใช้วัสดุตกแต่งที่สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ และการลดขยะจากอาหารเหลือทิ้ง จากการดำเนินการใน “ศูนย์ข่าวสีเขียว” พบว่า

  • ผู้จัดงานและผู้ร่วมงานส่วนใหญ่เดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าและใช้บริการ Shuttle Bus ส่งผลให้ลดก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางได้ 5,343.59 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 594 ต้น
  • ผู้ร่วมงานให้ความร่วมมือและเข้าใจหลักการคัดแยกขยะ ทำให้สามารถนำขยะไปรีไซเคิลได้เกือบ 100%
  • ผู้ร่วมงานให้ความร่วมมือตักอาหารแต่พอดี ทำให้การคัดแยกขยะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 11,383.82 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 1,265 ต้น
  • องค์กรที่ร่วมจัดบูธนิทรรศการในการประชุมเอเปคต่างให้ความร่วมมือนำวัสดุตกแต่งกลับไปใช้ซ้ำ คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 5,043.37 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 560 ต้น
  • นอกจากนี้ หลังสิ้นสุดการประชุมเอเปค ด้าน SCG จะนำขยะกระดาษไปรีไซเคิลผลิตเป็นชั้นวางหนังสือ คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 36.33 kgCO2e เทียบเท่ากับกับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 4 ต้น

องค์กรที่สนใจลดโลกร้อนด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดงานอีเวนต์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.carethebear.com

 “SET…Make it Work for Everyone”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปานปรีย์' คุยทูตญี่ปุ่นแล้ว ยังไม่ยกเลิกฟรีวีซ่าให้คนไทย กลางปี 68 ค่อยดูใหม่

นายปานปรีย์ พหิทานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าญี่ปุ่นอาจยกเลิกฟรีวีซ่าให้คนไทย หากจำนวน 'ผีน้อย' หรือ คนไทยที่อยู่เกินวีซ่ายังคงเพิ่มขึ้นว่า หลังมีเรื่องดังกล่าว ตนจึงได้เชิญเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยมาพูดคุย

โฆษกกต. แจงอนุมัติคำขอเมียนมา นำเครื่องบินลงแม่สอด ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม

นายธนวัต ศิริกุล รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงรายงานข่าวกรณีเครื่องบินของเมียนมามาลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด จ.ตาก เพื่อรับทหารเมียนมาที่มอบตัวกับฝ่ายกองกำลังเคเอ็นยู

รมช.กต.แจง ‘เมียนมา’ นำเครื่องบินลงแม่สอด ย้ายสิ่งของพลเรือน ไม่มีทหาร-อาวุธ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่าน X ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลเมียนมาประสานไทยขอเครื่องบินทหารลงจอด ท่าอากาศยานแม่สอด ลี้ภัยข้าราชการ -ตร.-ตม.ในเมียวดี หลังถูกฝ่ายต่อต้านตีแตก