
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมและรับทราบผลการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการให้กับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม โดยให้ช่วยพิจารณาเพิ่มสิทธิประโยชน์ การให้ผู้ประกันตน เข้าถึงสถานพยาบาลให้มากขึ้น รวมไปถึงเรื่อง Micro Finance ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุข เพื่อพัฒนาและยกระดับให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น สร้างหลักประกันชีวิตแก่พี่น้องผู้ใช้แรงงานในระบบกองทุนประกันสังคม กว่า 24 ล้านคนทั่วประเทศ
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีนโยบายสำคัญเพื่อขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงแรงงาน เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานภายใต้แนวคิด “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ซึ่งในวันนี้ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งได้มาตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายรวมทั้งพบปะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคม ที่มีส่วนสำคัญในการดูแลให้ความคุ้มครอง เพื่อสร้างหลักประกันชีวิตแก่พี่น้องผู้ใช้แรงงานในระบบประกันสังคม กว่า 24 ล้านคนทั่วประเทศ ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะสามารถให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน จากการขาดรายได้เมื่อต้องประสบปัญหาจากสถานการณ์ต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
.
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ในวันนี้ ผมได้เน้นย้ำถึงนโยบายในการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานประกันสังคมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ที่จะใช้ในการขับเคลื่อนงานประกันสังคมให้เข้มแข็ง เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่น และไว้วางใจ จากลูกจ้าง ผู้ประกันตนและสังคมโดยรวม ดังนี้
1. Micro Finance ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุข เพื่อพัฒนาและยกระดับให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
2. กองทุนมั่นคง แรงงานมั่งคั่ง ประกันสังคมยั่งยืน โดยต้องบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส
และมีความยั่งยืน
3. Best e-Service ประกันสังคมยุคใหม่ สร้างความมั่นคง เพิ่มความมั่นใจ ยกระดับการให้บริการของสำนักงานประกันสังคม ผ่าน e-Service โดยการนำระบบ e-Claim มาใช้ในการให้บริการเบิก-จ่ายเงิน และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตน
4. สร้างรากฐานเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการคุ้มครองแรงงาน ปรับปรุงและพัฒนากฎหมายให้มีความเหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
5. การเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการทางการแพทย์ ยกระดับการให้บริการทางการแพทย์และการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค แก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตนโดยผู้ประกันตนต้องได้รับการบริการทางด้านสุขภาพอนามัย การรักษาพยาบาลที่ดีขึ้นกว่าเดิม
6. จัดทำสิทธิประโยชน์ Package Premium สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 เช่น เพิ่มสิทธิกรณีเจ็บป่วย ชดเชยรายได้ตามค่าแรงขั้นต่ำ ค่าตอบแทนกรณีนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยอาจยกระดับให้เท่ากับผู้ประกันตนมาตรา 39 รวมทั้งการจูงใจให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สส.ปชน.' จี้ ก.แรงงาน ต้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายจ้างไดกิ้น 'ปิดงาน' หาข้อยุติโดยเร็ว
นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท ไดกิ้น กับสหภาพแรงงานฯ ว่า นายจ้างไดกิ้น “ปิดงาน” กระทรวงแรงงานต้องประสานไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยเร็ว
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี
นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
“พิพัฒน์” นำทีมวางแผนฟื้นฟู–พัฒนาภาคใต้ทั้งระบบ ฟื้นเศรษฐกิจ–ดูแลคุณภาพชีวิต ชูท่องเที่ยวปลอดภัย–ฮาลาล 3 จชต. และสร้างงานระยะยาวให้คนในพื้นที่
วันที่ 4 ธันวาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ และคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมเพื่อกลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด–กลุ่มจังหวัด


