
วันที่ 5 ม.ค. 67 นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และพลเรือเอก เกรียง ชุณหชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือประธานกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ทหารกองประจำการและก่อนปลดประจำการ ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับกองทัพเรือ เพื่อส่งเสริมการมีงานทำให้กับทหารหลังปลดประจำการ ณ ห้องรับรองชาวต่างชาติ กรมข่าวทหารเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยภายหลังลงนามความร่วมมือดังกล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความสำเร็จและต่อยอดความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงกลาโหม ที่ร่วมกันส่งเสริมการมีงานทำให้กับทหารกองประจำการอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้มีอาชีพหลักและอาชีพเสริม ที่ผ่านมาได้ร่วมกับกองทัพเรือจัดฝึกอบรมให้แก่ทหารกองประจำการหลายหลักสูตร เช่น ช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ช่างสีอาคาร ช่างปูกระเบื้อง การขับรถโพล์คลิฟท์ เป็นต้น โดยระหว่างปี 2564 – 2566 มีทหารเรือเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 349 คน และผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมนำความรู้ไปประกอบอาชีพ ร้อยละ 69.53 มีรายได้เฉลี่ย 9,794 บาท/คน/เดือน สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 28 ล้านบาทต่อปี เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของทหารเรือหลังปลดประจำการให้ดีขึ้น

นางสาวบุปผา กล่าวต่อไปว่า สำหรับความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงานกับกองทัพเรือ โดยคณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ มีแผนการฝึกอบรมในหลักสูตรอื่น ๆ เพิ่มเติมที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน อาทิ ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ช่างเครื่องปรับอากาศ ช่างเชื่อม การเขียนแบบ AutoCAD โดยจะจัดฝึกอบรมนำร่องในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ระยอง จันทบุรี นครพนม เชียงราย กระบี่ พังงา และสงขลา นอกจากนี้ ยังร่วมกันจัดทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติและประเมินความรู้ความสามารถให้อีกด้วย รวมถึงพัฒนาหลักสูตรและพัฒนาทักษะให้แก่ครูฝึกของทหารกองประจำการ เพื่อเป็นวิทยากรต้นแบบในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่กลุ่มทหารกองประจำการต่อไป
“การพัฒนาทักษะฝีมือให้กับทหาร ส่งผลดีหลายด้านเพราะนอกจากการสร้างกำลังแรงงานที่มีวินัยและความรับผิดชอบสู่สถานประกอบกิจการแล้ว ทหารก่อนปลดประจำการ ยังสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของกองทัพเรือ และช่วยเหลือประชาชนได้อีกด้วย” อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวในท้ายสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง
น้ำยังสูง! นาวิกโยธิน ส่งรถสะเทินน้ำสะเทินบก AWAV ลงพื้นที่สิงหนคร ลำเลียงอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยปชช.
นาวิกโยธิน จัดชุดยานเกราะล้อยาง AWAV เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โรงเรียนบ้านบางไหน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมสูง
ทร. ส่ง 'เรือหลวงอ่างทอง' ลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือชาวใต้ ถึงหาดใหญ่ 1 ธ.ค.
กองทัพเรือ ส่งเรือยกพลขึ้นบก “เรือหลวงอ่างทอง” ลำเลียงเครื่องอุปโภคบริโภคหลายตัน เร่งช่วยเหลือชีวิตชาวใต้ประสบอุทกภัย
กองทัพเรือโต้สนั่น! ยัน 'หน่วยซีลไม่ถูกจับตัวประกัน' เรียกค่าไถ่เขต 8 เป็นเฟคนิวส์
กองทัพเรือชี้กระแสข่าวจับซีลเรียกค่าไถ่ 40,000 บาทเป็นข้อมูลเท็จ เผยกำลังพลลงเขต 8 เพื่อช่วยผู้ประสบภัย ไม่ได้พกอาวุธติดตัว พร้อมย้ำภาพทหารถือปืนที่ถูกแชร์ในโซเชียลเป็นภาพ AI
หน่วยซีลเข้าเขต 8 หาดใหญ่ ขนย้ายผู้ป่วยฟอกไต 18 ราย เปิดฐานทัพเป็นศูนย์พักพิง
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ให้ข้อมูลว่าจากการส่งชุด ปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ในวันนี้ (26 พฤศจิกายน 2568) ได้รับรายงานว่าชุดปฏิบัติการพิเศษจากหน่วยซีล กองทัพเรือ ชุดที่ 1
ซีล-รีคอน-อีโอดี กองทัพเรือ ผนึกกำลังช่วยผู้ประสบอุทกภัยตลอด 24 ชม.แล้ว
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ชปพ.) ของกองทัพเรือ รวม 15 ชุด จากหน่วยซีล หน่วยลาดตระเวน นาวิกโยธิน และหน่วย EOD ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน


