
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้ลงนามความร่วมมือการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ ระหว่าง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ ตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนในชุมชนของการเคหะแห่งชาติได้มีโอกาสทางการศึกษา พัฒนาความรู้ ความสามารถ และเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ ทำให้ลูกหลานของชาวชุมชนการเคหะแห่งชาติทั่วประเทศไม่ต้องออกจากบ้าน ห่างครอบครัวไปศึกษาไกล สามารถอยู่ในภูมิลำเนาของตนเอง สร้างสังคม สร้างเศรษฐกิจ ที่มีความเข้มแข็งมากขึ้นได้
การเคหะแห่งชาติกำลังเปิดรับสมัครเด็กและเยาวชนในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ เข้าศึกษาต่อในหลักสูตรสาขาธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) โดยผู้สมัครต้องมีอายุ 15-20 ปี สำเร็จการศึกษาชั้น ม.3 หรือเทียบเท่า เพื่อเข้าเรียนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ หรือศูนย์การเรียนรู้ปัญญาภิวัฒน์ 20 แห่ง อาทิ ศูนย์การเรียนรู้ฯ เพชรเกษม (เพชรเกษม 54), รังสิต (พหลโยธิน 72), สำโรง (ซอยสำโรงใต้ 7), พระราม 2 (พระราม 2 ซอย 42), ลำปาง, พระนครศรีอยุธยา, ชลบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, เพชรบุรี, หาดใหญ่ ฯลฯ ส่วนผู้ที่สนใจสมัครเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) อายุ 17-22 ปี จะต้องสำเร็จการศึกษาระดับ ปวช., ม.6 หรือเทียบเท่า เพื่อเข้าเรียนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนที่สมัครจะต้องได้รับการรับรองจากการเคหะแห่งชาติ และผ่านการคัดเลือกจากวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์หรือศูนย์การเรียนรู้ปัญญาภิวัฒน์ อีกทั้งผู้สมัครจะต้องไม่มีรอยสักตามร่างกาย มีความประพฤติเรียบร้อย ผ่านการตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนโดยใช้แบบฟอร์มวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ หรือศูนย์การเรียนรู้ปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งผู้ได้รับคัดเลือกจะได้รับทุนการศึกษาเรียนฟรีตลอดหลักสูตร และยังได้เบี้ยเลี้ยงระหว่างการฝึกปฏิบัติงาน รับประกันมีงานทำหลังสำเร็จการศึกษา สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานเคหะจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2567
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเรียนการสอนจะเป็นระบบการศึกษาทวิภาคี เรียนทั้งภาคทฤษฎีสลับกับภาคปฏิบัติ หรือทำงานจริงที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จนสำเร็จการศึกษา ซึ่งการฝึกภาคปฏิบัติจะได้เรียนรู้งานขั้นพื้นฐานของร้านค้าปลีก เริ่มตั้งแต่การทำความสะอาดพื้นที่ขายและตัวสินค้า การจัดเรียงสินค้า พนักงานขาย แคชเชียร์ ทำบัญชีการเงิน สั่งสินค้า ส่งเสริมการขาย และเมื่อเรียนจบแล้ว CP ALL จะรับเยาวชนที่มีคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาตรงตามที่บริษัทฯ กำหนดเข้าที่ทำงาน
“การเคหะแห่งชาติต้องขอขอบคุณ CP ALL และวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ที่ให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กและเยาวชนในชุมชนของการเคหะแห่งชาติได้มีโอกาสเรียนรู้และทักษะอาชีพจากการปฏิบัติงานจริงซึ่งจะส่งผลให้เด็กและเยาวชนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและครอบครัวมากขึ้น รวมถึงได้เห็นคุณค่าของเงินที่ได้จากการทำงานด้วยตนเองอีกด้วย” นายทีวพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การเคหะแห่งชาติ ชูแนวคิด ปี 2569 “Go Green & Growth Together” เดินหน้าพัฒนาเมือง – ที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน
การเคหะแห่งชาติสนองนโยบาย “พม. ใกล้คุณ” ของ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน ผ่านกระบวนการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชนและเมือง พร้อมบริการทางสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการด้านสิ่งแวดล้อม
กกต. ขอเชิญชวนสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 1 - 5 ธันวาคม 2568
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบการ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด 1.2 ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้ง ในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 1.4 วุฒิการศึกษา • สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา • ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา 2. ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ 2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 2.3 เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ 2.4 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 39 (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรือ (4) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 2.5 อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.6 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 2.7 เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 2.8 เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริต ต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 2.9 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.10 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 2.11 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 2.12 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 2.13 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2.14 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 2.15 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 2.16 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.17 เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2.18 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือ ต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี 2.19 เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 2.20 อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.21 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น 2.22 เคยพ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมี ส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการ ที่กระทำกับหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทน หรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.23 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.24 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.25 ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3. หลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลพร้อมทั้งหลักฐานการสมัคร ดังนี้ 3.1 ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 3.2 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือ รูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.4 สำเนาทะเบียนบ้าน 3.5 ใบรับรองแพทย์ 3.6 หลักฐานการศึกษา 3.7 หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี (2565, 2566, 2567) นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน การไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษีตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 4. ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง 4.1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2,500 บาท 4.2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444
การเคหะแห่งชาติรับมอบสิ่งของธารน้ำใจ จากชุมชนต่าง ๆ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้
พลเอก สุพจน์ มาลานิยม ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ ได้มอบเงินจำนวน 50,000 บาท ให้แก่การเคหะแห่งชาติ เพื่อใช้สำหรับจัดซื้อสิ่งของอุปโภค–บริโภคที่จำเป็นและเวชภัณฑ์ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
การเคหะแห่งชาติห่วงใยประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดสงขลา พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
ภายใต้นโยบาย “พม.ใกล้คุณ” ของนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงพื้นที่เชิงรุกและบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสวัสดิการและความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ภัยพิบัติ การเคหะแห่งชาติจึงได้เร่งดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวอย่างเข้มข้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง
NHA ส่งเสริมสุขภาพผู้ปฏิบัติงาน ด้วยกิจกรรม Work–Life Balance
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 การเคหะแห่งชาติ จัดโครงการ “ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ ด้วย Work–Life Balance” โดยมีนายทวีพงศ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ
การเคหะแห่งชาติจัดโปรโมชั่นส่วนลดบ้านทำเลดีทั่วประเทศ
งาน 'มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48' ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


