
26 มี.ค.2567 - นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม.ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงวัฒนธรรมในการเสนอรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทย 2 รายการ คือ ชุดไทย และ มวยไทย โดยให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) นำเสนอเอกสารข้อมูลประกอบการพิจารณาส่งให้ทางสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ของประเทศไทย (Thai National Commission for UNESCO) กระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งเอกสารให้ยูเนสโก ให้ทันภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567 นี้ เพื่อเข้าสู่ลำดับการพิจารณาต่อจากรายการ “ต้มยำกุ้ง” และ “เคบาย่า” (มรดกร่วม 5 ประเทศ ไทย มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย) ที่ยูเนสโก บรรจุเข้าวาระที่ประชุมของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลฯ ครั้งที่ 19 ระหว่าง 2 – 7 ธันวาคม 67 ณ สาธารณรัฐปารากวัย และต่อด้วยรายการ “ผ้าขาวม้า” ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโกไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมาแล้ว
นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า รายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรม ชุดไทย : ความรู้ งานช่างฝีมือ และแนวปฏิบัติการแต่งกายชุดไทยประจำชาติ (Chud Thai : The Knowledge, Craftsmanship and Practices of The thai National Costume) ชุดไทย เป็นเครื่องแต่งกายที่แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย ได้รับการพัฒนามาเป็นเวลานาน พบหลักฐานมีการนุ่งและการห่มมากว่า 1400 ปี ตั้งแต่สมัยทวารวดี อยุธยาจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ ภาพการแต่งกายจึงเป็นหลักฐานสำคัญที่บอกเล่าให้คนรุ่นหลัง ได้รับรู้และสืบทอด ในปีพุทธศักราช 2503 ชุดไทยได้รับการพัฒนารูปแบบครั้งสำคัญ เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ศึกษาวิวัฒนาการรูปแบบการแต่งกายของสตรีไทย และสร้างสรรค์ชุดไทยขึ้น 8 แบบ ส่วนของสุภาพบุรุษ มี 3 แบบ คนไทยทุกภูมิภาคมักสวมใส่ชุดไทยในวาระโอกาสต่าง ๆ และเมื่อมีโอกาสสำคัญในชีวิต ทั้งงานรัฐพิธี งานพิธีการทางศาสนา ถือเป็นแนวปฏิบัติทางสังคมและยังเป็นกระบวนการผลิตของช่างฝีมือไทยทั้งในเรื่องของการทอผ้าที่ใช้เป็นวัตถุดิบ และงานช่างตัดเย็บ ตลอดจนการปักประดับลวดลายบนผืนผ้าอีกด้วย

นายเสริมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วน “มวยไทย” (Muay Thai : Thai Traditional Boxing) เป็นศิลปะการต่อสู้ของไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการสืบทอดมาไม่ต่ำกว่า 300 ปี ปรากฏหลักฐานใน “จดหมายเหตุว่าด้วยราชอาณาจักรสยาม” ซึ่งบันทึก โดยซีมง เดอ ลา ลูแบร์ (Simon de la Loubère) มวยไทยเป็นวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยมือเปล่าในระยะประชิดตัว เป็นศาสตร์และศิลป์ที่ก่อกำเนิดจากภูมิปัญญาของคนไทยที่ต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติ สัตว์ป่า มนุษย์ และภัยจากสงคราม การฝึกฝนวิชามวยไทย มีตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน จนถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อไว้ใช้ในการป้องกันตนเองและปกป้องประเทศ เอกลักษณ์โดดเด่นของมวยไทย คือ การใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในการป้องกันตัว ซึ่งครูบาอาจารย์ได้คิดค้นกลวิธีการฝึกจากการเลียนแบบท่าทางของสัตว์ การสังเกตธรรมชาติ และวรรคดี รวมถึงวิถีชีวิตตามบริบทท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาคประยุกต์เป็นท่าทางมวยต่าง ๆ และยังมีพิธีกรรมของการมอบตัวเป็นศิษย์ การขึ้นครู และการครอบครู การแสดงความกตัญญูต่อครูอาจารย์และผู้มีพระคุณ เห็นได้จากการรำไหว้ครูมวยไทยก่อนการชกทุกครั้ง ปัจจุบัน มวยไทย เป็นกีฬาประจำชาติ เป็นกีฬาอาชีพ มีการจัดการเรียนการสอนมวยไทยในสถาบันการศึกษาหลายแห่ง มวยไทยจึงถือเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ที่มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน

ด้าน นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมทั้งรายการชุดไทยและมวยไทยนี้เป็นการนำเสนอยูเนสโก เพื่อขอขึ้นทะเบียนในประเภท บัญชีรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (The Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของยูเนสโก 5 เกณฑ์ ประกอบด้วย 1)รายการที่นำเสนอนี้สอดคล้องกับลักษณะของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ตามที่นิยามไว้ในมาตรา 2 ของอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 2)การขึ้นทะเบียนรายการที่นำเสนอนี้จะส่งเสริมความประจักษ์และตระหนักรู้ถึงความสำคัญของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ อีกทั้งกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมในระดับโลก และแสดงถึงความสร้างสรรค์ของมนุษยชาต 3)มาตรการสงวนรักษาที่เสนอมานั้น ผ่านการพิจารณามาอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้มีการป้องกันและส่งเสริม และมีการกำหนดมาตรการสงวนรักษาวัฒนธรรม 4)รายการที่นำเสนอนี้เกิดจากชุมชน กลุ่มบุคคล หรือปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และ 5)เป็นรายการที่ปรากฏและดำรงอยู่ในดินแดนของรัฐภาคีสมาชิกที่นำเสนอ โดยบรรจุอยู่แล้วในบัญชีมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของรัฐภาคีสมาชิกตามที่นิยามไว้ในอนุสัญญา มาตรา 11 และ 12

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดองค์รู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ทั้งระดับจังหวัด ระดับชาติ และมนุษยชาติ ได้ในเว็บไซต์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม www.culture.go.th หัวข้อ องค์ความรู้ด้านวัฒนธรรม มรดกภูมิปัญญาฯ ICH และติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ทางเฟซบุ๊กกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ Line @วัฒนธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'กกท.'ชูมวยไทย-อีสปอร์ต สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ วางแผนผลักดัน-ต่อยอดทั้ง2กีฬา
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เผย มวยไทย และ อีสปอร์ต สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ไทยเป็นอย่างมากในเวลานี้ ระบุ กกท. มีแผนผลักดันและต่อยอดทั้ง 2 กีฬาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยมวยไทย เตรียมตั้งสถาบันกีฬามวยไทยแห่งชาติ สร้างมาตรฐานทุกมิติ ส่วนอีสปอร์ต เล็งจัดตั้งศูนย์ฝึกทั่วประเทศ เพื่อพัฒนา สร้างนักกีฬาและบุคลากร รองรับอุตสาหกรรมอีสปอร์ต
ลูกศิษย์อาลัย 'เสริมศักดิ์ นาคบัว' ศิลปินแห่งชาติ บรมครูเครื่องปั้นดินเผา เสียชีวิต
กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ "ศาสตราจารย์เกียรติคุณเสริมศักดิ์ นาคบัว" ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (การออกแบบอุตสาหกรรม) พุทธศักราช 2558
'ช่อง7HD'เปิดโปรแกรมมวย2เวที 'ONEลุมพินี134-มวยไทย7สี'
เปิดรับความตื่นเต้นเร้าใจ “ช่อง 7HD” เปิดศึกความมันบนสังเวียนมวยดัง วันศุกร์นี้ พบกับ “ONE ลุมพินี 134” นำโดยคู่เอก “ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ” เปิดหน้าสู้กับ “อานาร์ มัมมาดอฟ” ขณะที่วันอาทิตย์ “มวยไทย 7 สี” ชิงแชมป์ว่างรุ่น 118 ป. ระหว่าง “เพชรสังวาล ส.สมานการ์เม้นท์” ดวลหมัดกับ “เพชรหนึ่ง เพชรมวยไทยยิม”
'ช่อง7HD'ชวนแฟนกำปั้นเชียร์ มวยมันส์2สังเวียน 'ONEลุมพินี133–มวยไทย7สี'
เดินหน้าบู๊สุดมัน “ช่อง 7HD” ส่งโปรแกรมมวยดังส่งตรงหน้าจอ วันศุกร์นี้ พบกับ “ONE ลุมพินี 133” นำโดยคู่เอก “ป้อมเพชร พีเค.แสนชัย” เดินหน้าท้าชนกับ “เกรเกอร์ ทอม” วันอาทิตย์นี้ “มวยไทย 7 สี” ถึงคิวชิงแชมป์ “ศึกมวยปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้” ครั้งที่ 24 ส่งคู่เอก “อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซค์” ปะทะเดือดกับ “ยอดเหล็กแหลม พ.พิมพ์อร”
ศึก'Thai Fight สุราษฎร์ธานี' ช่อง8ถ่ายสดๆ เอาใจแฟนมวยไทย
สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป พร้อมเอาใจแฟนมวยไทย รับชมถ่ายทอดสดอีเวนต์มวยสุดมันส์รับเดือนพฤศจิกายน กับรายการ “Thai Fight สุราษฎร์ธานี” ในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18.00 น. ถ่ายทอดสดจาก สโมสรรวมใจ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมสร้างความภูมิใจของมวยไทยที่ดังก้องไกลไประดับโลกกับเหล่านักชกฝีมือยอดคนไปพร้อมกัน


