“รมว.นฤมล”นำถก อนุฯ นบข.ด้านการผลิต มีมติยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เปลี่ยนเป็นช่วยชาวนาไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องประชุม 134 - 135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2567 ให้คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ทบทวนโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง) กรอบวงเงิน 29,980.1645 ล้านบาท เนื่องจากเกิดปัญหาอุปสรรคต่างๆ และปัจจุบันล่วงเลยระยะเวลาการสนับสนุนปัจจัยการผลิต (ปุ๋ย) ไปแล้ว อีกทั้งเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2567 เกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 72.20 อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวและนำผลผลิตออกสู่ตลาด ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินงานโครงการไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน ครัวเรือนละ 20,000 บาท เป็นจำนวนมาก

รมว.นฤมล กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาอุปสรรคของโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และข้อเรียกร้องของพี่น้องชาวนา ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และเห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนเป็นสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าว อัตราช่วยเหลือไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินรวมดอกเบี้ย 3.05% จำนวน 27,550.96 ล้านบาท เสนอ นบข. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบในหลักการมาตรการเพิ่มระดับผลิตภาพ (Productivity) ของการผลิตข้าวของศูนย์ข้าวชุมชนในการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุข้าว จำนวน 2 โครงการ เป้าหมาย 543 ศูนย์ จำนวนเงิน 2,428.1830 ล้านบาท (โดยใช้จากกรอบวงเงินที่เหลือจากโครงการสนับสนุนปุ๋ยฯ วงเงิน 2,429 ล้านบาท) ได้แก่ 1. โครงการศูนย์รวบรวมผลผลิตและกระจายสินค้าข้าว และ 2. โครงการสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยจะนำเสนอ นบข. พิจารณาอนุมัติเห็นชอบภายในอาทิตย์หน้านี้ และเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยในที่ประชุมนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ประธานกรรมการศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ ตลอดจนผู้แทนชาวนา ต่างแสดงความคิดเห็นและพึงพอใจต่อมติดังกล่าว

ด้านนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่าภายหลังจากคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต  มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่งมาเป็นสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าว อัตราช่วยเหลือไร่ละ 500 บาทไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินจำนวน 27,550.96 ล้านบาท โดยให้ชาวนาได้รับเงินชดเชยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลผลผลิต โดยพิจาณาตามกรอบวงเงินที่มีอยู่ คือ 29,980 ล้านบาท ส่วนวงเงินที่เหลือจะเสนอ 2 โครงการคู่ขนาน เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพให้ศูนย์ข้าวชุมชนเกิดความเข้มแข็งต่อไป และไม่เป็นการเพิ่มภาระให้รัฐบาล อย่างไรก็ตาม การจะเดินหน้าโครงการใหม่นี้ได้ จะต้องมีการเสนอขอเปลี่ยนแปลงมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2566 ที่ระบุไว้ว่า ให้หน่วยงานหลีกเลี่ยงการดำเนินการในลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตร โดยตรงแก่เกษตรกร

พร้อมกันนี้ยังได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะทำงานบริหารจัดการข้าวตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วย 2 คณะ ได้แก่ 1) คณะทำงานบริหารจัดการเงินอุดหนุนให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ โดยมีอธิบดีกรมการข้าว เป็นประธานฯ รัฐบาล เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาการรับเงินอุดหนุนของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อีกทั้งต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขต่างๆ ในการดำเนินการตามโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร และ 2) คณะทำงานโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเห็นชอบ ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เป้าหมายรวม 8.50 ล้านตัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 60,085.01 ล้านบาท จำแนกเป็น วงเงินสินเชื่อ 50,481.00 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาด 9,604.01 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2567/68 2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2567/68 และ 3. โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2567/68 โดยจะนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. อนุมัติ ในวันที่ 29 พ.ย.67 ต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รมว.ศธ.นฤมล” เฝ้าฯ รับเสด็จ กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดเวทีวิชาการ Thailand-Japan Student Science Fair 2025 หนุนเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นโชว์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์ สร้างนักวิจัยรุ่นใหม่สู่เวทีโลก

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.68 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานประชุมวิชาการ Thailand-Japan Student Science Fair 2025 (TJ-SSF2025) โดยมี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์

“รมว.นฤมล”เคาะร่างประกาศ กช. หลักเกณฑ์ฯ กู้เงิน-ยืมเงิน พัฒนาคุณภาพผู้เรียน รร.ในระบบ-รร.สอนศาสนา

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ครั้งที่ 4/2568 โดยมีคณะกรรมการและผู้บริหารการศึกษาที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ

'นฤมล' สั่งปิดสถานศึกษาชายแดนเพิ่มเป็น 1,168 แห่ง

'รมว.นฤมล' สั่งปิดสถานศึกษาชายแดนเพิ่มเป็น 1,168 แห่ง เปิดโรงเรียน 102 แห่งเป็นศูนย์พักพิง พร้อมส่งเด็กอาชีวะช่วยเหลือ ปชช.ในพื้นที่ เตรียม Fix It Center หลังสถานการณ์คลี่คลาย

“รมว.นฤมล”เร่งสำรวจความเสียหายโรงเรียน หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติงบฟื้นฟูให้กลับมาเปิดเรียนโดยเร็ว ชี้ เด็กสามารถมาเรียนได้ โดยไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน หลังทรัพย์สินเสียหายจากน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เวลา 15.40 น.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจสภาพความเสียหายบริเวณวงเวียนสายสงขลา–หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

Fix It Center เต็มกำลัง! “รมว.นฤมล”ตระเวนทั่วหาดใหญ่ตรวจความพร้อม กำชับ เร่งงาน รวดเร็ว ปลอดภัย และทั่วถึง ช่วยชาวบ้านซ่อมของเสียจากน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายสุเทพ แก่งสันเทียะ

'นฤมล' ยันดูแล 'นร.-ครอบครัว' ประสบภัยน้ำท่วมสำคัญสุด เร่งฟื้นฟูโรงเรียนทุกแห่ง กลับสู่ภาวะปกติ

‘รมว.นฤมล’ ลุยฟื้นหาดใหญ่หลังน้ำลด สั่งเร่งกู้โรงเรียนเสียหายหนัก ตั้ง 50 ศูนย์ Fix It ช่วยซ่อมของประชาชนกว่า 1 หมื่นคัน ย้ำ จะเคียงข้าง ปชช.จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ