
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานการบริหารการลงทุนกองทุนประกันสังคมในปี 2567 ภายใต้นโยบายของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนให้กองทุนประกันสังคม เพิ่มการลงทุนในหลักทรัพย์เสี่ยงที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงขึ้น โดยตั้งเป้าให้มีผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ต่อปี ภายใต้กรอบการบริหารจัดการความเสี่ยงที่รัดกุม นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงศักยภาพและความสำเร็จภายใต้นโยบายเชิงรุกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่มุ่งมั่นการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงของกองทุนในระยะยาว
ดังนั้น สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดเป้าหมายและจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนกองทุนประกันสังคม ฉบับที่ 5 (ระยะที่ 1 : ปี 2567–2570) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคมซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่1 สิงหาคม 2567 ซึ่งแผนยุทธศาสตร์นี้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต

จากผลการดำเนินงานการบริหารการลงทุนในปี 2567 ตามมาตรฐานบัญชี 105 ร้อยละ 4.16 และมาตรฐานบัญชี 106 ร้อยละ 5.34 กองทุนประกันสังคมมีมูลค่าเงินลงทุนจำนวน 2,657,245 ล้านบาท แบ่งออกเป็นการลงทุนในหลักทรัพย์เสี่ยง 28.42% เป็นเงินจำนวน 755,179 ล้านบาท การลงทุนในหลักทรัพย์มั่นคงสูง 71.58% เป็นเงินจำนวน 1,902,066 ล้านบาท ทั้งนี้ การลงทุนในประเทศมีสัดส่วน ร้อยละ 67.74 เป็นเงินจำนวน 1,800,064 ล้านบาท และการลงทุนในต่างประเทศ ร้อยละ 32.26 เป็นเงินจำนวน 857,181 ล้านบาท และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 71,960 ล้านบาท ประกอบด้วย ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารทุนจำนวน 29,186 ล้านบาท และตราสารหนี้จำนวน 42,774 ล้านบาท มูลค่าเงินลงทุนกองทุนประกันสังคม แบ่งออกเป็น เงินสมทบจำนวน 1,666,556 ล้านบาท และผลตอบแทนสะสมจากการลงทุนจำนวน 990,689 ล้านบาท
นางมารศรี เลขาธิการ สปส. กล่าวต่อไปว่า เป้าหมายในอนาคต ด้วยแผนยุทธศาสตร์การลงทุนที่ถูกออกแบบมาอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งการบริหารงานที่โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล กองทุนประกันสังคมมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นคงให้แก่แรงงานไทยในทุกช่วงวัย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจได้ว่ากองทุนประกันสังคมเป็นกองทุนที่มีเสถียรภาพ มั่นคง สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอสำหรับการจ่ายสิทธิประโยชน์ในระยะยาวให้กับผู้ประกันตนทุกกรณีได้อย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ราชกิจจาฯ ประกาศปรับฐานค่าจ้างคำนวณเงินสมทบประกันสังคม ม.33 เริ่ม 1 ม.ค. 2569
กฎกระทรวงใหม่กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ-ขั้นสูง ใช้เป็นฐานคำนวณเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยปรับเพดานสูงสุดเป็นลำดับ จาก 17,500 บาท เพิ่มเป็น 23,000 บาทในระยะถัดไป มีผลตั้งแต่ต้นปี 2569
“ สปส.” แนะช่องทางนายจ้างชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตสร้างหลักประกันให้แรงงานไทย
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคม(สปส.)ได้ให้ความสำคัญอย่างมากในการยกระดับคุณภาพกลไกลการทำงานของ “กองทุนเงินทดแทน” ให้มีมาตรฐานมายิ่งขึ้น
นักวิชาการ มธ. หนุนเพิ่มสมทบประกันสังคม แนะรัฐลดภาษีช่วยผู้ประกอบการ
นักวิชาการธรรมศาสตร์ เห็นด้วยปรับเพิ่มเงินสมทบประกันสังคม ระบุต้องแยกส่วนระหว่าง “ประสิทธิภาพในการบริหาร-การเพิ่มเงินสมทบ” เพราะสองเรื่องพัฒนาไปพร้อมกัน
2 วันจ่ายเงินเยียวยา 9 พันบาทกว่า 1.2 แสนครัวเรือนแล้ว
'รัชดา' เผยคืบหน้าจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมแล้ว 1.2 แสนครัวเรือน ย้ำน้ำ-ไฟฟ้า-อินเตอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่ 100% เร่งบูรณาการทุกภาคส่วนจัดการขยะ พร้อมยืดเวลาส่งเงินสมทบประกันสังคมออกไป 6 เดือน
“ตรีนุช” รมว.แรงงาน ห่วงใยลูกจ้างบาดเจ็บ 3 ราย จากเหตุเพลิงไหม้โรงสีข้าวเปลือก อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง มอบประกันสังคมดูแลลูกจ้างบาดเจ็บใกล้ชิด
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงสีในพื้นที่อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เป็นเหตุให้ลูกจ้างได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย
ลูกจ้างเฮ! ประกันสังคมเพิ่มเงินว่างงาน ‘เลิกจ้าง’ รับสูงสุด 9,000 บาท/เดือน
สำนักงานประกันสังคมประกาศปรับเพิ่มเงินทดแทนกรณีว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง จาก 50% เป็น 60% ของค่าจ้างรายวัน จ่ายสูงสุด 9,000 บาทต่อเดือน นาน 6 เดือน รวม 54,000 บาท เริ่มมีผล 28 มิถุนายนที่ผ่านมา

