
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความยั่งยืนที่สุดในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของโลก โดยได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่ม Top 1% ของรายงาน S&P Global Sustainability Yearbook 2025
โดยไทยยูเนี่ยนได้รับคะแนนรวมสูงสุด 85 จาก 100 คะแนน จากการประเมินความยั่งยืนของ S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) และเป็นหนึ่งใน 780 บริษัท จากทั้งหมด 7,690 บริษัท ที่ได้รับการจัดอันดับใน S&P Global Sustainability Yearbook 2025 โดยในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร มีเพียง 26 บริษัท จากทั้งหมด 213 บริษัท ที่ได้รับการคัดเลือก โดย S&P จะประเมินผลจากการดำเนินงานด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ กลยุทธ์ทางสภาพภูมิอากาศ สุขภาพและโภชนาการ สิทธิมนุษยชน และการบริหารจัดการตลอดทั้งซัพพลายเชน

นายอดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การได้รับการจัดอันดับจาก S&P Global ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange®2030 ที่มุ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นในการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าของเราตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต จนส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคตลอดทั้ง สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เราดำเนินการอยู่ ตามเป้าหมาย ‘Healthy Living, Healthy Oceans’ เพื่ออนาคตของผู้คนและโลกของเราอย่างยั่งยืน
ก่อนหน้าที่ไทยยูเนี่ยนได้รับการจัดอันดับใน S&P Global Sustainability Yearbook 2025 เราได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ประจำปี 2567 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงความทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ซึ่งไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน โดย DJSI เป็นดัชนีที่ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนหลายพันแห่งทั่วโลก
เป้าหมายของกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ประกอบด้วย 11 พันธกิจ ที่รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 42 เปอร์เซ็นต์ในขอบเขตที่ 1, 2 และ 3 ภายในปี 2573 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ไทยยูเนี่ยนได้สนับสนุนงบประมาณ 7,200 ล้านบาท (200 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งคิดเป็นงบประมาณเทียบเท่ากับกำไรสุทธิของปี 2565 โดยเป็นงบประมาณในการฟื้นฟูระบบนิเวศตลอดจนการรักษาทรัพยากร จำนวน 250 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยยูเนี่ยน ปลื้มยอดจองหุ้นกู้ยั่งยืนท่วมท้น สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุน ร้อมโชว์ศักยภาพการเงินแข็งแกร่งปิดดีลเงินกู้ยั่งยืนครบแผง รวม 2.4 หมื่นล้านบาท ดันเป้าหมาย Blue Finance ปี 68 ทะลุเป้า
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) (Blue Bond) หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ไปพร้อมกัน
ไทยยูเนี่ยนเปิดโครงการ Management Associate 2025 ปีที่ 11 เดินหน้าปั้นผู้นำรุ่นใหม่ ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล
18 ธันวาคม 2567 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ Management Associate 2025
กรุงศรี-ไทยยูเนี่ยน เปิดโรดแมปหนุนเปลี่ยนผ่านสู่การเงิน เพื่อความยั่งยืน บนเวที SX 2024
ในขณะที่องค์กรธุรกิจหันมาให้ความสำคัญในการดำเนินงานภายใต้แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG (Environment, Social, Governance)
ไทยยูเนี่ยน โชว์กำไรไตรมาสแรก 1 พันล้าน ลดลง 41%
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก ปี 2566 เผยแผนพลิกฟื้นธุรกิจให้กับเรด ล็อบสเตอร์ ธุรกิจร้านอาหารทะเลระดับโลก ให้สัญญาณบวก
ไทยยูเนียน คว้าอันดับ 1 ในกลุ่มอาหาร ของ DJSI
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คว้าอันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของโลก จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) และ เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน


