
“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิปี 67 ที่ 338.74 ลบ. พุ่งแรง 41.39% YOY กวาดรายได้รวม 897.22 ลบ. เพิ่มขึ้น 25.78% หลังเดินหน้าขยาย Dealer และ Agent รองรับความต้องการเก็บสเต็มเซลล์เพิ่มสูงขึ้น พร้อมบุกฟิลิปปินส์ จัดตั้ง Cell Banking Biotechnology จ่ายปันผล 0.08 บาทต่อหุ้น XD 6 พ.ค. 68
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 อยู่ที่ 98.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.79% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือ QoQ และเพิ่มขึ้น 78.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ YoY และมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 338.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.39% จากปีก่อน โดยกำหนดรายชื่อผู้ไม่ได้รับสิทธิปันผล หรือ XD ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และจ่ายปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568
ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมของไตรมาสที่ 4 ปี 2567 จำนวน 246.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.37% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือ QoQ และเพิ่มขึ้น 28.80% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ YoY อย่างไรก็ดี ในส่วนของรายได้จากการขายและการให้บริการของกลุ่มบริษัทลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หรือ QoQ เนื่องจากในระหว่างปี 2567 กลุ่มบริษัทฯได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการรับรู้รายได้ ซึ่งเดิมจะรับรู้รายได้ทั้งจำนวนเมื่อให้บริการเสร็จสิ้น เป็นรับรู้รายได้ตลอดช่วงเวลาที่ให้บริการแก่ลูกค้า สำหรับปี 2567 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขาย และการให้บริการ จำนวน 829.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.40 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 18.15% เมื่อเทียบกับปี 2566

โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้รวมและกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ การเติบโตนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจสเต็มเซลล์ที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มบริษัทยังคงมุ่งมั่นในด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจ และผลักดันผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้านวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทมีการเพิ่มขนาดทีมขาย รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ หรือ Dealer และตัวแทนจำหน่าย หรือ Agent ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่บริษัทได้เดินหน้าในการขยายธุรกิจไบโอเทคโนโลยีในประเทศฟิลิปปินส์ โดยเป็นการลงทุนผ่านบริษัทย่อย MEDEZE Treasury PTE LTD ในการจัดตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Cell Banking Biotechnology ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องปฏิบัติการด้านตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการในการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในฟิลิปปินส์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
MEDEZE ฉลอง 15 ปี อย่างยิ่งใหญ่ เดินหน้า 'Sandbox' รวมพลังการแพทย์ไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ 'HEALTH Economy'
“เมดีซ กรุ๊ป” ฉลองครบรอบ 15 ปี อย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ชั้นสูง พร้อมปักธงอนาคตเศรษฐกิจการแพทย์ไทย เดินหน้าโครงการ “Sandbox” รวมพลังการแพทย์สู่ “HEALTH Economy” เครื่องยนต์ใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
“MEDEZE” ต้อนรับ พลเอกเลิศรัตน์ เก็บสเต็มเซลล์ไขมัน วางแผนสุขภาพระยะยาว
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสาวดนิตา พิทักษ์เนติกุล ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด
MEDEZE ประกาศ Partial Offer เพื่อซื้อหุ้น “Cordlife” สิงคโปร์ 10% เสริมแกร่งให้บริการ “เซลล์ต้นกำเนิด” ระดับภูมิภาค
“เมดีซ กรุ๊ป” วางแผนที่จะเข้าซื้อหุ้น “Cordlife” ผู้ให้บริการเซลล์ต้นกำเนิดรายใหญ่ในสิงคโปร์ ร้อยละ 10% เพื่อเสริมศักยภาพ
“MEDEZE” พาคณะพยาบาล เข้าเยี่ยมชมกิจการ
บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE จัดกิจกรรมพาคณะพยาบาลจากโรงพยาบาลพระราม 9 เข้าเยี่ยมชมกิจการ
MEDEZE เปิดตัว “Hair Renaissance” ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมแห่งแรกในเอเชีย
“เมดีซ กรุ๊ป” เปิดตัว “MEDEZE Hair Renaissance” ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมแห่งแรกในเอเชียบริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง

