
นายสุชาติ ชมกลิ่น เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ตนและคณะผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมร่วมกับหอการค้าซีลอนของศรีลังกา ในโอกาสเดินทางเยือนกรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมศรีลังกา ตามคำเชิญของหอการค้าซีลอน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยกับศรีลังกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผลักดันให้ความตกลงการค้าเสรี (FTA)ไทย - ศรีลังกา ที่สองฝ่ายได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เนื่องจาก FTA ไทย ศรีลังกา จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
“ผมได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับภาคเอกชนศรีลังกาว่า รัฐบาลไทย โดยการนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ให้นโยบายในการเจรจาจัดทำ FTA เชิงรุกกับประเทศต่าง ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงของการพึ่งพาตลาดส่งออกประเทศใดประเทศหนึ่ง และดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก” นายสุชาติกล่าว
นายสุชาติ กล่าวเสริมว่า ไทยยังมองว่า การมี FTA ระหว่างกัน จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่เฉพาะแต่เพียงการค้า การลงทุน แต่รวมถึงการท่องเที่ยวที่จะทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้ใกล้ชิดและรู้จักกันมากขึ้น เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับภาคธุรกิจ นอกเหนือจากความใกล้ชิดที่แน่นแฟ้นของพุทธศาสนาที่มีร่วมกันมาอย่างยาวนาน ขณะเดียวกัน สมาชิกหอการค้าซีลอนเห็นว่า FTA จะเป็นประโยชน์ในการช่วยลดต้นทุนทางภาษี โดยเฉพาะสินค้าส่งออกศักยภาพของศรีลังกา อาทิ ชา มะพร้าวฝอย เครื่องเทศ และสินแร่ จะได้รับการยกเว้นภาษีภายใต้ FTA ตลอดจนความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ศรีลังกาประสงค์จะได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการจากไทย อาทิ เกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ด้านการเงิน และ SMEs ในการนี้ตนจึงขอให้ภาคเอกชนศรีลังกาช่วยผลักดันกับภาครัฐให้เร่งกระบวนการเพื่อให้ความตกลงการค้าเสรี ไทย- ศรีลังกา มีผลบังคับใช้โดยเร็ว

นอกจากนี้ ภาคชนศรีลังกายังได้สอบถามถึงการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนด้านการเงินและการธนาคารในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งตนได้ให้ข้อมูลว่า
“ในส่วนของไทย ท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้อนุมัติงบประมาณให้กับธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทย และ SME D Bank ในการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการ SME เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจและขยายกิจการไปยังตลาดต่างประเทศ”
ศรีลังกาเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยในปี 2567 การค้ารวมมีมูลค่า 438.70
ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทย 313.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ ยางพารา อัญมณีและเครื่องประดับ ผ้าผืน เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และการนำเข้าจากศรีลังกามีมูลค่า 124.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญจากศรีลังกา อาทิ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องประดับอัญมณี เคมีภัณฑ์ โดยไทยได้เปรียบดุลการค้ามูลค่า 188.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ก้องศักด'ยันทุกสนามซีเกมส์ มาตรฐานพร้อมใช้แข่ง จับมือก.พาณิชย์จัด'ชิม-ช็อป -เชียร์'
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ยืนยันทุกสนามซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มาตรฐาน พร้อมใช้แข่งขัน และต้อนรับแฟนกีฬา ขณะเดียวกัน กกท. ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ “ชิม ช็อป เชียร์” ในทุกสนาม นำอาหาร-ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้บริการประชาชนที่มาชมกีฬา พร้อมกับโชว์ให้ชาวอาเซียนได้เห็นของดีของไทย
‘สุชาติ’ กำชับ การช่วยเหลือประชาชนน้ำท่วมใต้ ต้องเป็นเอกภาพ .. สั่งศูนย์ฯ ทส. บูรณาการใกล้ชิดร่วมกองบัญชาการสั่งการ ค่ายเสนาณรงค์
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา และพื้นที่ภาคใต้
กรมป่าไม้ ส่งสิ่งของที่รับบริจาคถึง อ.หาดใหญ่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่แจกจ่ายให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และได้สั่งการให้ กรมป่าไม้จึงเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือและยานพาหนะที่จำเป็นเร่งลงพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งในด้านการอพยพประชาชน การสนับสนุนด้านเสบียง และกำลังช่วยอย่างเต็มที่
ศูนย์ปฏิบัติการ ทส.ผนึกกำลัง! ลุยภารกิจ ‘Big Cleaning คืนความสุข’ คนสงขลา ระดมกำลังพล 780 นาย พร้อมรถบรรทุก-รถฉีดน้ำ อุปกรณ์ทำความสะอาดคืนพื้นที่ปลอดภัยให้ปชช.ตามสั่งการ ‘รองนายกฯ สุชาติ’
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ระดมสรรพกำลังครั้งใหญ่ ร่วมปฏิบัติภารกิจ "Big Cleaning คืนความสุข" เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยในจังหวัดสงขลา หลังน้ำลด ตามการสั่งการของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนภารกิจ ทส.1 เดียวผ่านศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ศป.ทส.)
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลสั่งเร่งผลิตน้ำ ส่งรถน้ำ-รถผลิตน้ำดื่ม RO ลงสงขลา ช่วยประชาชนประสบอุทกภัยภาคใต้
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เดินหน้าระดมกำลังครั้งใหญ่ ส่งทั้งรถผลิตน้ำดื่มสะอาดและรถบรรทุกน้ำรวม 13 คัน มุ่งหน้าสู่จังหวัดสงขลา เพื่อเสริมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ หลังได้รับข้อสั่งการจากนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


