“พิชัย” จับมือภาคเอกชน เปิดเวทีถอดรหัสนโยบายภาษีทรัมป์ ย้ำ ทุกวิกฤตมีโอกาสใหม่ของไทย รัฐเดินหน้าเจรจา FTA – คุมเข้มสินค้าด้อยคุณภาพ – สกัดการสวมสิทธิ์อย่างเด็ดขาด

วันที่ 25 เมษายน 2568
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเวทีสัมมนา “ถอดรหัสนโยบายภาษีทรัมป์: โอกาสของการค้ายุคใหม่” ร่วมกับผู้แทนจากภาครัฐและเอกชน อาทิ หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และทูตพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา ชี้ภายใต้นโยบายภาษีสหรัฐฯและสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจกลายเป็นโอกาสสำคัญของไทยในการขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเป้าหมายที่ไทยสามารถเข้าไปทดแทน พร้อมเร่งเดินหน้าเจรจา FTA กับหลายประเทศ ควบคู่มาตรการเข้มสกัดสินค้าด้อยคุณภาพและการสวมสิทธิ์นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

นายพิชัย เปิดเผยว่า การจัดสัมมนานี้เพื่อให้เห็นว่าในภาวะวิกฤต ย่อมมีโอกาส ประเทศไทยจึงควรวิเคราะห์เชิงลึกว่าสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บอย่างเข้มข้นได้อย่างไร โดยเฉพาะสินค้าไทยที่มีศักยภาพ เช่น ถุงมือยาง ยางรถยนต์ และอาหารสัตว์ ซึ่งปัจจุบันไทยครองส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ประมาณ 20% ขณะที่จีนซึ่งเผชิญภาษีสูง อาจสูญเสียตลาดส่วนนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยสามารถแทรกตัวเข้าไปเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้

“เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไทยมีมูลค่าส่งออกทะลุ 29,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงการส่งออกที่ยังดำเนินต่อไปได้ แม้ในภาวะความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์”นายพิชัย กล่าว

พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพและการสวมสิทธิ์ทางการค้า โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินคดีกับสินค้าด้อยคุณภาพแล้วกว่า 29,000 คดี และตรวจพบบริษัทต้องสงสัยว่าเป็นนอมินี (Nominee) แล้ว 852 บริษัท มูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกว่า 15,000 ล้านบาท อีกทั้งเตรียมตรวจสอบเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแอบอ้างสิทธิ์การค้าไทย

ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังเร่งรัดการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับหลายประเทศ โดยเฉพาะ FTA ไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการเจรจาได้ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงการเจรจากับเกาหลีใต้และแคนาดา ซึ่งยังดำเนินต่อเนื่องแม้มีอุปสรรคจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในบางประเทศ

ในส่วนของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยมีการหารือกับภาคเอกชนสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธนาคารขนาดใหญ่และบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งให้ความสนใจบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางทางการเงินและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค รวมถึงการแก้ปัญหาการสวมสิทธิ์อย่างจริงจัง

“เราต้องไม่ยอมให้สินค้าจากประเทศที่ถูกกีดกันทางภาษี ใช้ไทยเป็นทางผ่านด้วยการเปลี่ยนฉลากหรือเอกสารต้นทาง เพราะนั่นไม่เพียงกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศ แต่ยังอาจทำให้ไทยตกเป็นเป้าหมายของมาตรการตอบโต้จากประเทศคู่ค้า โดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้รับผิดชอบการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) เพียงผู้เดียวแทนเอกชน เพื่อความน่าเชื่อถือ“ นายพิชัยกล่าว

ทั้งนี้ ภายในงานสัมมนายังได้เปิดเผยรายการสินค้าศักยภาพที่ไทยสามารถส่งออกไปทดแทนสินค้าจีนได้ในตลาดสหรัฐฯ โดยจะมีการเผยแพร่รายละเอียดให้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการนำไปใช้ในการวางแผนการผลิตและส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

สำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจสามารถรับชมกิจกรรมย้อนหลังและติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือสอบถามได้ที่สายด่วน 1169 กด 1 กด 1

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้านโยบาย Quick Big Win เต็มสูบ เสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs และเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย เตรียมจัดใหญ่…แฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมจัดงานแฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาค 4 จังหวัด ทั่วประเทศ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และอุดรธานี ยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสู่การเติบโตเชิงรุก พร้อมสร้างโอกาสให้ประชาชนในภูมิภาคเป็นเจ้าของธุรกิจอย่างเป็นระบบ ช่วยงสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้

อึ้ง! 11 เดือนจับสินค้าละเมิดสิขสิทธิ์กว่า 3 ล้านชิ้นมูลค่ากว่าพันล้าน

รัฐบาลเผยสถิติจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาช่วง 11 เดือน ปี 68 ยึดของกลาง กว่า 3 ล้านชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่าพันล้านบาท เดินหน้ายกระดับจัดการสินค้าละเมิดบนแพลตฟอร์มออนไลน์

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้านโยบาย Quick Big Win เต็มสูบ เสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs และเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย เตรียมจัดใหญ่…แฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมจัดงานแฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาค 4 จังหวัด ทั่วประเทศ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และอุดรธานี ยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสู่การเติบโตเชิงรุก

พาณิชย์เปิด ‘ชิม ช้อป เชียร์’ หนุนผู้ประกอบการชายแดน

กระทรวงพาณิชย์ จับมือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดตัว “ชิม ช้อป เชียร์” by MOC จัดจำหน่ายสินค้าในช่วงมหกรรมซีเกมส์-อาเซียนพาราเกมส์ ส่งเสริม SMEs กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ขยายโอกาสการค้าสู่สากล พร้อมบรรเทาผลกระทบผู้ประกอบการ 7 จังหวัดชายแดนกัมพูชา คาดยอดขายกว่า 20 ล้านบาท

'ก้องศักด'ยันทุกสนามซีเกมส์ มาตรฐานพร้อมใช้แข่ง จับมือก.พาณิชย์จัด'ชิม-ช็อป -เชียร์'

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ยืนยันทุกสนามซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มาตรฐาน พร้อมใช้แข่งขัน และต้อนรับแฟนกีฬา ขณะเดียวกัน กกท. ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ “ชิม ช็อป เชียร์” ในทุกสนาม นำอาหาร-ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้บริการประชาชนที่มาชมกีฬา พร้อมกับโชว์ให้ชาวอาเซียนได้เห็นของดีของไทย