“วราวุธ” กำชับ พม.เชียงราย ประสานงาน จังหวัด-มหาดไทย-กลาโหม เข้าช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ประสบภัยน้ำท่วมแม่สายรอบ 3 ด้าน ปลัด พม. จี้ พม.ทุก จว. เฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง หลังอุตุพยากรณ์ พื้นที่เสี่ยง ฝนตก น้ำหลาก

วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในเขตพื้นที่อําเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้นจนล้นพนังป้องกันเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนบ้านถ้ำผาจม ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนไม้ลุงขน  ชุมชนเกาะทราย ตลาดสายลมจอย และตลาดน้อยเหมืองแดง กระทั่งน้ำได้ลดระดับลงสู่ภาวะปกติส่งผลให้กลุ่มเปราะบางทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และพี่น้องประชาชน ได้รับความเดือดร้อน ว่า ตนได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ ทีม พม. หนึ่งเดียว จังหวัดเชียงราย เพื่อให้ประสานงานกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม แม่ทัพในพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ฝ่ายปกครองและทีมกู้ภัย ว่าในพื้นที่อำเภอแม่สายที่น้ำท่วมล่าสุดนี้ เรามีกลุ่มคนเปราะบางที่เป็น เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการอยู่ตรงบริเวณไหนบ้าง และต้องการให้เข้าช่วยเหลือในมิติไหนบ้าง

ตามข้อมูลในแผนที่ที่คาดการณ์พื้นที่น้ำท่วมของกระทรวง พม. ในขณะนี้ ได้เก็บข้อมูลมาได้ประมาณ 70% แล้ว และยังรอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งในทุกครั้งที่มีภัยพิบัติ เราจะอัพเดทสถานการณ์อยู่เป็นประจำ ทำให้แผนที่ดังกล่าวนั้น เวลาผ่านไปก็จะมีความแม่นยำมากขึ้น ขณะเดียวกันได้ขอให้เจ้าหน้าที่กระทรวงพม. เตรียมดูในเรื่องสถานที่ของหน่วยงานตัวเองด้วยว่า หน่วยงานของเรา มีความพร้อมเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อรองรับพี่น้องกลุ่มเปราะบางเข้ามาอยู่ในความดูแลของเราได้หรือไม่ ในกรณีที่พักอาศัยของกลุ่มเปราะบางได้รับความเสียหาย อีกทั้งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่กระทรวงพม. จะต้องดูแลตัวเองเพื่อความปลอดภัยด้วย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระให้กับหน่วยงานอื่น

สำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาว มีความจำเป็นที่จะต้องหารือกับต้นตอของน้ำ ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนคงทราบดีว่าไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย วันนี้ประเด็นที่สำคัญคือเราเห็นแล้วว่าเมื่อป่าต้นน้ำหายไป จะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเห็นใจรัฐบาลเพราะต้นเหตุไม่ได้เกิดขึ้นที่ตัวเรา ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือคอยป้องกัน แต่ถ้าเป็นมวลน้ำมหาศาลนั้น ก็ไม่สามารถป้องกันได้ ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือ ทำให้ต้นน้ำมีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหลากลงมา ซึ่งประเด็นนี้เชื่อว่าไม่เฉพาะแม่สาย แต่ขอฝากไปยังทุกๆ พื้นที่ในประเทศไทยที่เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งอย่างนี้ไปเรื่อยๆ สถานการณ์น้ำท่วม จะทวีความรุนแรงขึ้นทุกปีๆ เพราะไม่มีอะไรมาหยุดยั้งน้ำเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวง พม. เราจะเป็นจุดศูนย์กลางคอยประสานเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มผู้เปราะบางให้ ผู้สูงอายุ เด็ก คนพิการ หากท่านใดประสบภัยสามารถติดต่อ สายด่วน พม. โทร. 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเราจะได้รีบประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าไปถึงที่พักของท่านภายใน 60 นาที โดยเร็วที่สุด

ด้านนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. กล่าวว่า หลังจากได้ทราบสถานการณ์อุทกภัยในเขตพื้นที่อําเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพราะเกิดน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว สร้างความเดือดร้อนให้กับกลุ่มเปราะบาง และพี่น้องประชาชนในวงกว้าง นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ ในช่วงค่ำของวันที่ 24 พ.ค. 68 จึงได้เรียกประชุมด่วนผ่านระบบออนไลน์ (Zoom) ร่วมกับ ผู้บริหารกระทรวง พม. , ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 และ 9 , พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ และหัวหน้าหน่วยงาน พม. ที่เกี่ยวข้องของศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) ภาคเหนือ เพื่อวางแผนการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ได้รับกระทบ สำหรับข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่อำเภอแม่สาย ได้แก่ 1) เทศบาลตำบลแม่สาย มีกลุ่มเปราะบาง 1,160 คน แบ่งเป็น คนพิการ 405 คน ผู้สูงอายุ 111 คน เด็ก (0-7 ปี) 522 คน และผู้มีรายได้น้อย 122 คน และ 2) เทศบาลตำบลเวียงพางคำ มีกลุ่มเปราะบาง 1,135 คน แบ่งเป็น คนพิการ 308 คน ผู้สูงอายุ 178 คน เด็ก (0-7 ปี) 554 คน และผู้มีรายได้น้อย 95 คน

นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวง พม. โดย หน่วยงานทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้เตรียมข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ สำหรับการให้ความช่วยเหลือต่างๆ โดยเฉพาะกรณีเร่งด่วน และประสานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ตำบลแม่สาย และเครือข่ายกระทรวง พม. ในการเฝ้าระวัง และชี้เป้ากลุ่มเปราะบาง ให้ทีมอพยพในพื้นที่กรณีต้องเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ อีกทั้งเตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวกระทรวง พม. ณ โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงราย (แม่สาย 1) เพื่อรองรับผู้ประสบภัยได้ประมาณ 150 คน และวางแผนการเยี่ยมบ้านกลุ่มเปราะบางที่ประสบภัย เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิสวัสดิการสังคมตามการกิจกระทรวง พม. พร้อมประสานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และได้กำชับหน่วยงานทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดเชียงราย และอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ คอยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตก น้ำหลาก อย่างต่อเนื่อง เพราะช่วงนี้กรมอุตุนิยมวิทยายังมีการพยากรณ์อากาศฝนตกในพื้นที่ พร้อมทั้งทำความเข้าใจ แจ้งเตือนกลุ่มเปราะบาง ในเรื่องการปฏิบัติตนทั้ง ก่อน-ระหว่าง-หลังเกิดภัยพิบัติ เพิ่มเติมด้วย