
คณะผู้แทนจากมาเลเซียศึกษาโมเดล พัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในประเทศไทย
คณะผู้แทนจากมาเลเซียเดินทางเยือนไทย เจาะลึกนโยบายที่อยู่อาศัยและการพัฒนาสังคม หวังนำ ‘โมเดลพอช.’ ที่ยึดหลักชุมชนเป็นแกนกลางไปใช้เป็นพิมพ์เขียวสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ 3.0 ตอกย้ำความสำเร็จของไทยในการสร้างรากฐานที่มั่นคงและมีศักดิ์ศรีให้กับคนจนเมืองในระดับสากล

เข้าพบปลัด พม. เพื่อแลกเปลี่ยนนโยบายในระดับชาติ
กรุงเทพฯ /25 สิงหาคม 2568 - คณะผู้แทนจากมาเลเซีย ซึ่งประกอบด้วย บริษัท IIUM Consultancy & Innovation (ICISB) และ สถาบันวิจัยคาซานาห์ (Khazanah Research Institute – KRI) เดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อศึกษาดูงานเชิงเปรียบเทียบเกี่ยวกับนโยบายที่อยู่อาศัยและการพัฒนาสังคม โดยมี สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เป็นหน่วยงานหลักในการแลกเปลี่ยนและการศึกษาดูงานในครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 25-27 สิงหาคม 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำ “นโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ 3.0” (National Housing Policy 3.0) ของมาเลเซีย ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาที่เข้มแข็งและทันสมัย โดยให้ความสำคัญกับหลักสิทธิมนุษยชน การเสริมพลังชุมชน โครงสร้างสถาบัน และธรรมาภิบาล

นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า นโยบายพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยเน้นการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายและให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายหลักคือเพื่อให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นายอนุกูลกล่าวถึง นโยบายหลักที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในประเทศไทย คือ แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) นโยบายนี้มีวิสัยทัศน์ที่มุ่งให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายในปี พ.ศ. 2579 โดยตั้งเป้าหมายช่วยเหลือครัวเรือนที่มีรายได้น้อยประมาณ 1.3 ล้านครัวเรือน นโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร นโยบายนี้มุ่งรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร เช่น สังคมสูงวัย และประชากรเปราะบาง โดยเน้นการจัดหาที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้สำหรับทุกกลุ่มคน ไม่ใช่แค่โครงสร้างอาคาร แต่ยังรวมถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย โครงการบ้านมั่นคง โครงการนี้ดำเนินการโดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ พม. มุ่งแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยในชุมชนแออัดหรือที่ดินเช่าที่ไม่มีความมั่นคง โดยให้ ชุมชนเป็นแกนหลัก ในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ส่วน พอช. และภาคีเครือข่ายจะทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน โครงการบ้านพอเพียงชนบท โครงการนี้เน้นการปรับปรุงและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนในชนบท การปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มเปราะบาง พม. ยังมีโครงการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุ เพื่อให้บ้านมีความเหมาะสมกับการใช้ชีวิตและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวง พม. ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ และภาคีเครือข่าย เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยอย่างครบวงจร นายอนุกูลกล่าวทิ้งท้าย

นางสาวสมสุข บุญญะบัญชา ประธานคณะอนุกรรมการบ้านมั่นคงและการจัดการที่ดิน ได้กล่าวถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยเน้นหลักการสำคัญ 2 ประการที่ใช้ใน โครงการบ้านมั่นคง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโครงการนี้คือ กระบวนการพัฒนาโดยชุมชนเป็นแกนกลาง (Community-Led Development) หลักการนี้มุ่งเน้นการให้อำนาจและบทบาทสำคัญแก่ ชุมชน ในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของตนเอง โดยมีกระบวนการให้ชุมชนร่วมคิดและร่วมตัดสินใจ สมาชิกในชุมชนมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่การสำรวจปัญหาในชุมชน การวางแผน ไปจนถึงการตัดสินใจเลือกแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง การรวมกลุ่มและสร้างองค์กรชุมชน ชุมชนจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มออมทรัพย์ หรือสหกรณ์เคหะสถาน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการร่วมกัน สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน การมีส่วนร่วมในกระบวนการต่าง ๆ ช่วยให้ชุมชนเกิดความเข้าใจในปัญหาของตนเอง และพัฒนาศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสังคมอื่น ๆ ได้ในอนาคต

นางสาวสมสุข กล่าวต่อ การพัฒนาแบบครอบคลุมทั้งเมือง (City-Wide Approach) หลักการนี้มองว่าปัญหาที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นเพียงปัญหาเฉพาะชุมชนใดชุมชนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของทั้งเมืองที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายคือ บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน การแก้ไขปัญหาไม่ได้ทำเพียงลำพังโดยชุมชน แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เช่น เทศบาล, การเคหะแห่งชาติ, และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.), องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) รวมถึงภาคเอกชน การวางแผนและจัดการภาพรวมของเมือง การพัฒนาที่อยู่อาศัยต้องสอดคล้องกับการวางแผนเมืองในภาพรวม ทั้งด้านสาธารณูปโภค การคมนาคม และสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนในระยะยาว การพัฒนาแบบครอบคลุมทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ไม่ใช่แค่การสร้างบ้านใหม่ แต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทั้งเมือง

Sr.Dr. Suraya Ismail Director of Research at Khazanah Research Institute (KRI) กล่าวว่า คณะผู้แทนจากมาเลเซียเดินทางมาประเทศไทยเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านนโยบายที่อยู่อาศัย โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับนำไปใช้จัดทำ “นโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ 3.0” (National Housing Policy 3.0) ของมาเลเซีย สำหรับเป้าหมายหลักของการแลกเปลี่ยนคือ 1.ศึกษาเชิงเปรียบเทียบนโยบายที่อยู่อาศัยของไทย คณะฯ มุ่งทำความเข้าใจแนวทางและกระบวนการทำงานของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งอาจมีจุดเด่นหรือแนวคิดที่แตกต่างจากมาเลเซีย 2.รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำ "นโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ 3.0" ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาดูงานจะถูกนำไปวิเคราะห์และปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของมาเลเซีย เพื่อให้แน่ใจว่านโยบายใหม่จะมีความทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างครอบคลุม 3.มุ่งเน้นหลักการสำคัญในการพัฒนานโยบายใหม่

Sr.Dr. Suraya Ismail กล่าวต่อ คณะฯ ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับประเด็น หลักสิทธิมนุษยชน การให้ความสำคัญกับสิทธิในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยของประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม การเสริมพลังชุมชน การเรียนรู้บทบาทของชุมชนในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาของตนเอง ซึ่งเป็นแนวทางที่เน้นความยั่งยืน โครงสร้างสถาบัน การทำความเข้าใจโครงสร้างการทำงานระหว่างภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย ธรรมาภิบาล การศึกษาแนวทางการบริหารจัดการที่มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ซึ่งการมาเยือนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิจัยเชิงนโยบายของมาเลเซีย เพื่อสร้าง นโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ 3.0 ที่ทันสมัยและยั่งยืน โดยเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของประเทศไทย

ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่
คณะผู้แทนมาเลเซียยังได้ลงพื้นที่ชุมชนต้นแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย “โครงการบ้านมั่นคง” ซึ่งดำเนินการโดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. ในหลากหลายรูปแบบ อาทิ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบนำร่องในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย โครงการนี้ช่วยให้สมาชิกในชุมชนประมาณ 120 ครัวเรือน มีบ้านเป็นของตนเองอย่างถูกกฎหมาย ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการพัฒนาสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในชุมชน ชุมชนในเขตวังทองหลาง ต้นแบบความสำเร็จของโครงการพัฒนาแบบครอบคลุมทั้งเมืองและการออมของชุมชน
การมาศึกษาดูงานครั้งนี้นับเป็นเครื่องสะท้อนถึงความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของโมเดลการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนเป็นแกนกลางของประเทศไทยในระดับสากล และอาจนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือที่ยั่งยืนระหว่างสองประเทศในอนาคต

ชุมชนในเขตวังทองหลาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขี่ม้าโปโลทีมชาติไทยฟอร์มดี เฉือนเอาชนะมาเลเซีย กีฬาซีเกมส์ครั้งที่33
สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย รายงานผลการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล ประเภท Handicap 4-6 Goals ในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 การแข่งขันเป็นการพบกันระหว่างทีมชาติไทยพบทีมชาติมาเลเซีย โดยทีมชาติไทยยังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เอาชนะทีมชาติมาเลซีย ไปด้วยสกอร์ 9.5:7 ประตู และแมตซ์ถัดไปทีมชาติไทยจะลงสนามพบกับทีมชาติอินโดนีเซีย ในวันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 18:00 น. ณ สนามวีเอส สปอร์ตคลับ แอนด์ สยามโปโลปาร์ค (VSSC) รับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง YouTube Official : Thailand Polo Association
ปตท.สผ. ผนึก TTEลงทุนแปลงเอสเค408 ขยายฐานในมาเลเซีย
ปตท.สผ. เดินหน้าขยายการดำเนินงานในมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง จับมือพันธมิตร TotalEnergiesลงทุน ในแปลงเอสเค408 ขยายฐานการเติบโตให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
'โค้ชวัง'คุยนักเตะพร้อมเต็มที่ ไม่ประมาทมาเลเซีย ขอโฟกัสทีละนัด
วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 13.45 น. ณ ห้องแถลงข่าว สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ฝ่ายจัดซีเกมส์ จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอลชาย ซีเกมส์ รอบรองชนะเลิศ คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติมาเลเซีย
มาเลย์เปิดรับสมัครหมอนวดแผนไทยหญิง 25 อัตรา!
โอกาสมาถึงแล้ว รีบสมัครด่วน ภายใน 12 ธ.ค. นี้ กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครหญิงไทย 25 อัตรา ทำงานนวดแผนไทยในมาเลเซีย
สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต
นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน
“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”
รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง

