
ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เพื่อให้บ้านเมืองและประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนมาโดยตลอด ยังผลพึงประจักษ์ในปัจจุบันที่ได้รับการต่อยอดภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่กับการฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงความสมบูรณ์

นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยว่าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงริเริ่มไว้ซึ่งประกอบไปด้วย โครงการด้านแหล่งน้ำ ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านส่งเสริมอาชี ด้านสาธารณสุข ด้านสวัสดิการสังคม ด้านคมนาคม และโครงการอื่น ๆ ซึ่งแต่ละโครงการล้วนสะท้อนถึงพระราชปณิธานในการช่วยเหลือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น บนพื้นฐานของความพอเพียงและยั่งยืน
หนึ่งในพระราชดำริสำคัญคือการจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่ง ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยทรงคัดเลือกพื้นที่จัดตั้งศูนย์ศึกษาฯ ด้วยพระองค์เอง และยังได้พระราชทานแนวทางการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาดินประเภทต่าง ๆ ของแต่ละภูมิภาค เพื่อให้ศูนย์ศึกษาฯ ได้นำไปศึกษา ทดลอง วิจัย ในการแก้ไขปัญหาทั้งด้านดิน น้ำ ป่าไม้ การประกอบอาชีพเกษตรกรรม ให้มีความเหมาะสมตามบริบทของแต่ละพื้นที่ ดำเนินงานในลักษณะ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ที่เกษตรกรและประชาชนสามารถเข้ามาศึกษาดูงาน ตลอดจนขอรับบริการได้อย่างครบวงจร ดังเช่น ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นศูนย์แรกในปี 2522 จากพื้นดินที่เป็นดินทราย มีป่าไม้ประมาณร้อยละ 5 ได้ถูกพัฒนามีป่าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 38 มีหลักสูตรฝึกอบรมที่ได้จากการศึกษา ทดลอง จำนวน 15 หลักสูตร อาทิ การเพาะเห็ดเศรษฐกิจครบวงจร การจักสานเส้นใยพืช การแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จำนวน 8 ชนิด เช่น สบู่ว่านสาวหลง แชมพูอัญชัน เป็นต้น และยังได้ขยายผลองค์ความรู้ออกสู่หมู่บ้าน เกิดเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 13 แห่ง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีผู้เข้ามาศึกษารวมทั้งสิ้น 96,971 คน ผลสำเร็จไม่เพียงสร้างคุณภาพชีวิตของเกษตรกรที่ดีขึ้น ยังมีรางวัลประเภทต่าง ๆ เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จจากการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ อาทิ รางวัลดีเด่น การประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี 2545 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
การประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี 2547 รางวัลยอดเยี่ยม ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร รางวัลโล่เกียรติยศ Saint Francis of Assisi Award ประจำปี 2567 โดย Archbishop Peter Bryan Wells เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย
ซึ่งศูนย์ฯ เป็นองค์กรที่เป็นแบบอย่างที่งดงาม ได้ดำเนินการเรื่องรักษ์โลก มีส่วนอนุรักษ์รักษาสิ่งแวดล้อมทำให้โลกซึ่งเป็นบ้านเมืองของเราน่าอยู่ และรางวัล Sustainable Tourism Acceleration Rating : STAR ประจำปี 2568 โครงการยกระดับผู้ประกอบการสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน และนี่เป็นเพียงตัวอย่างความสำเร็จที่ทรงวางรากฐานแนวทางการพัฒนาที่ก่อเกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน
“ในวันที่ 13 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่พระองค์ยังคงสถิตอยู่ในใจของคนไทยตราบนิจนิรันดร์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ สำนักงาน กปร. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขอสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดี เพื่อร่วมสร้างสังคมไทยให้มั่นคงและยั่งยืนสืบไป” นางสุพร ตรีนรินทร์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สานต่อความรู้ตามแนวพระราชดำริ พร้อมส่งมอบรถโมบาย สื่อการสอนสมัยใหม่ มุ่งขยายผลองค์ความรู้สู่เยาวชน และการประยุกต์ใช้ให้เห็นผลอย่างยั่งยืน
สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดพิธีมอบทุนการศึกษา โครงการสานต่อความรู้ตามแนวพระราชดำริ ภายใต้โครงการความร่วมมือเพื่อขยายผลองค์ความรู้ตามแนบพระราชดำริสู่เยาวชน ประจำปี 2568
ต่อยอด “อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” สืบสาน พระราชปณิธาน 198 โครงการ พระมหากรุณาธิคุณ เพื่อปวงชนชาวไทย
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว นับแต่ทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2559 พระองค์ทรงสืบสานพระราชปณิธานบาทพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขอาณาราษฎรมาอย่างต่อเนื่อง
53 หน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน ส่งบุคลากรเข้าโครงการฯ นบร. รุ่นที่ 13 ปี 68 “เสริมสร้างเอกลักษณ์ คน กปร. ตัวคูณ”
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( สำนักงาน กปร. ) จัดพิธีเปิดโครงการนักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (นบร.) รุ่นที่ 13 ประจำปี พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมหนุมาน 1 โดยนางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการ กปร. เป็นประธานเปิดงาน ดร. ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดี
รักษาความสมดุลของน้ำใต้ดิน ด้วยระบบกักเก็บน้ำในถ้ำ เพิ่มน้ำต้นทุนพื้นที่ต้นน้ำ
“นับเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ที่ทำให้พื้นที่สูงในพื้นที่ภาคเหนือมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ทั้งน้ำบนดินและน้ำใต้ดิน มีหนึ่งเดียวในประเทศไทย ทำให้ทุกคนมีน้ำใช้ตลอดทั้งปีอย่างเพียงพอทั้งอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร สร้างความชุ่มชื้นและความสมบูรณ์ให้พื้นที่เพาะปลูกได้เป็นอย่างดี” นางสาวนภัสสร เมืองเมา หนึ่งในเกษตรกรผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการระบบกักเก็บน้ำในถ้ำตามพระราชดำริ
บ้านเล็กในป่าใหญ่ ดอยดำ จ.เชียงใหม่ อารยธรรมต่างชนเผ่า ทำกินอยู่อาศัยในถิ่นเดียวกัน
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ดอยดำ ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เกิดขึ้นจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ โครงการฯ เขาชะงุ้ม จ.ราชบุรี เกษตร GAP และนวัตกรรมไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( สำนักงาน กปร.) เป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติพร้อมประกาศนียบัตร ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 2567


