สานต่อความรู้ตามแนวพระราชดำริ พร้อมส่งมอบรถโมบาย สื่อการสอนสมัยใหม่ มุ่งขยายผลองค์ความรู้สู่เยาวชน และการประยุกต์ใช้ให้เห็นผลอย่างยั่งยืน

สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดพิธีมอบทุนการศึกษา โครงการสานต่อความรู้ตามแนวพระราชดำริ ภายใต้โครงการความร่วมมือเพื่อขยายผลองค์ความรู้ตามแนบพระราชดำริสู่เยาวชน ประจำปี 2568 จากความร่วมมือของ 4 หน่วยงาน ที่ได้ลงนามความร่วมมือร่วมกันดำเนินงานจัดทำโครงการฯ เพื่อนำองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริมาจัดทำสื่อการเรียนการสอนเผยแพร่ และขยายผลไปยังเยาวชนที่กำลังศึกษา อยู่ในโรงเรียนบริเวณพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพื้นที่ห่างไกลให้ได้รับความรู้อันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพ และการดำเนินชีวิตให้กับเยาวชนที่จะสามารถนำองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ มาปรับเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินชีวิตให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยมี นายลลิต ถนอมสิงห์ กรรมการ และรองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา พร้อมด้วย นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร

คุณสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า “โครงการฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักในการดำเนินงานเพื่อให้คณะครู และนักเรียน ได้เรียนรู้การดำเนินงานของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ พร้อมเรียนรู้การใช้สื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็กและเยาวชน เกี่ยวกับแนวพระราชดำริ ที่เป็นองค์ความรู้ที่จะสามารถนำไปสู่การพัฒนา ดิน น้ำ ป่า พลังงานทดแทน และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงผ่านรถโมบายเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นสื่อการเรียนการสอนสมัยใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) อันจะเป็นการเสริมสร้างการรับรู้ที่ทันสมัย และน่าสนใจให้กับเด็กนักเรียน และเยาวชนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงประวัติความเป็นมา และการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ในรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย อาทิ เรื่องแกล้งดิน ประเภท ของดินต่าง ๆ 8 - 9 ชนิด ที่มีอยู่ในประเทศไทยมีคุณสมบัติอย่างไร การบริหารจัดการที่ดินและน้ำ ตามแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ 30 30 30 10 เป็นอย่างไร และยังมีสื่อภาพยนต์เป็นคลิปวิดีโอการ์ตูน ควบคู่กับกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น บันไดงู ทอยลูกเต๋า เมื่อชนะก็จะเจอกับคำตอบว่าป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง มีประโยชน์อย่างไร หรือแก้มลิงช่วยแก้ไขน้ำท่วมน้ำแล้งได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นขบวนการเรียนรู้ที่สนุกสนาน สอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ของ สพฐ  และช่วงวัยของเยาวชนในโรงเรียนให้สามารถนําไปปรับใช้
ในชีวิตประจําวัน ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมา สามารถผลักดันให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างสนุกสนานพร้อมกับเสริมทักษะวิชาการ ขณะเดียวกันสามารถใช้เวลาหลังเลิกเรียน และวันหยุดหารายได้ช่วยครอบครัวด้วยการเป็นลูกจ้างภายในสวน และพื้นที่ของครอบครัว 

นับได้ว่า  การได้เรียนรู้จากโครงการฯ นี้จะเป็นประเด็นสําคัญต่อการนำกลับไปปรับใช้ในการสอนให้แก่นักเรียน โดยเฉพาะในรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์ความรู้ตามแนวพระราชดําริ ความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การทําเกษตรทฤษฎีใหม่ การน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนตลอดไป”  

“ความร่วมมือของ 4 หน่วยงานครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เยาวชน และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักได้แก่ โรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้ง 6 แห่ง และศูนย์สาขา โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงเยาวชน และประชาชนทั่วไปที่อยู่ในเขตพื้นที่โรงเรียนที่มีการจัดทำโครงการความร่วมมือเพื่อการขยายผลองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริได้เข้ามาเรียนรู้ร่วมกันเพิ่มมากขึ้น ภายใต้กรอบความร่วมมือระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี ทั้ง 4 หน่วยงานจะร่วมกันพัฒนาสื่อองค์ความรู้ ผลิตสื่อ อุปกรณ์ ในการเผยแพร่ขยายผลองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริไปสู่โรงเรียน ในกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ของโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 5,000 โครงการ ก่อกำเนิดขึ้นตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจากศูนย์ศึกษาการพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน  ๖ แห่ง ที่ได้จัดตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริเพื่อเป็นแหล่งทำการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง  วิจัย วิธีการพัฒนาด้านต่างๆ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับภูมิสังคมที่แตกต่างกัน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงเปรียบเสมือนเป็น "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต" และ "ต้นแบบ" ของความสำเร็จที่จะเป็นแนวทางและตัวอย่างให้แก่พื้นที่อื่นๆ ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ในพื้นที่จริงได้

ทั้งหมดนี้ คือความมุ่งมั่นที่จะร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานในทุกมิติเพื่อขยายผลองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งมีความสำคัญยิ่งในการที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริตามพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หายหนาว รับไออุ่น "ผ้าห่มผืนเขียว" จาก โครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว” ปี 26

นับเป็นเวลา 26 ปี ที่คาราวาน "ผ้าห่มผืนเขียว" ใน “โครงการไทยเบฟ..รวมใจต้านภัยหนาว" ได้ออกเดินทางส่งมอบรอยยิ้ม และความอบอุ่นไปยังพี่น้องผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ห่างไกล

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) น้อมถวายความอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (“ไทยเบฟ”) นำโดยนายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานกลุ่มทีซีซี

ธ สถิตในใจไทย ตราบนิจ นิรันดร์

ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เพื่อให้บ้านเมืองและประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่

ไทยเบฟ นำทัพเอกชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากกว่า 10 ปี สร้างรายได้สะสม กว่า 3,020 ล้านบาท

คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก นำโดย คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน จัดสัมมนาประจำปี 2568