ไทยเตรียมเจรจาศรีลังกา 28 ต.ค.นี้ ขอนำช้างไทย “พลายศรีณรงค์-พลายประตูผา” กลับมารักษาสุขภาพ คาดใช้โมเดลกับ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ที่เคยกลับมาตุภูมิปี 2566

เป็นอีกครั้งที่กระแสทวงคืนช้างไทยในต่างแดนกลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง หลังไทยเคยประสบความสำเร็จในการทวงคืน “พลายศักดิ์สุรินทร์” ช้างไทยที่มอบไปเป็นทูตสันถวไมตรีกว่า 22 ปีกลับสู่บ้านเกิดสำเร็จ
.
ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มคนไทยในศรีลังกาและเครือข่ายคนรักษ์ช้าง ติดตามและพบว่าช้างไทยอีก 2 เชือกที่มอบไปศรีลังกา คือพลายศรีณรงค์ ช้างไทยที่ส่งมาเป็นทูตสันถวไมตรีพร้อมกับพลายศักดิ์สุรินทร์เมื่อปี 2544 และพลายประตูผา ที่ส่งออกไปก่อนหน้านี้ โดยพบมีการนำไปใช้งาน และมีปัญหาสุขภาพ จึงต้องการนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับไทย
.
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ผมจะบินด่วนไปศรีลังกาด้วยตัวเอง“ นายอนุทิน นายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐบาลไทยไม่เคยนิ่งนอนใจเรื่องความเป็นอยู่ของ“พลายประตูผา” และ “พลายศรีณรงค์”
.
โดยในวันนี้ได้นำเรื่องหารือกับ นายกรัฐมนตรี ท่านไฟเขียวให้ดำเนินการทางการฑูต ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้นำ “พลายประตูผา” และ “พลายศรีณรงค์” กลับมาอยู่บ้านเรา ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการเจรจา
.
แต่ในเบื้องต้น ตัวเอง นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัด ทส. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะบินด่วนไปศรีลังกา เพื่อดูอาการและความเป็นอยู่ช้าง 2 เชือก รวมถึงกำชับเรื่องการดูแลช้างกับทีมเจ้าหน้าที่ในศรีลังกัง ในระหว่างที่ทีมกำลังดำเนินการประสานการทูต เพื่อนำช้าง 2 เชือกกลับประเทศไทย
.
นายอรรถพล ให้สัมภาษณ์ “วาฬกู้โลก” ระบุว่า วันที่ 28 ต.ค.นี้ นัดหารือกับทางสถานทูตศรีลังกา ประจำประเทศไทย และกลุ่มอนุรักษ์ช้าง เพื่อหารือตามข้อเรียกร้องด้านสุขภาพของช้างทั้ง 2 เชือกในศรีลังกา โดยกระบวนการต่างๆ ต้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศของไทย และศรีลังกาที่ต้องเกิดการยอมรับร่วมกันทั้งรัฐบาลศรีลังกา และวัดที่เป็นเจ้าของช้างทั้ง 2 เชือก
.
เบื้องต้นจากการติดตาม พบว่าช้าง 2 เชือกมีการนำไปใช้งาน และเรื่มมีปัญหาสุขภาพ แต่อาจจะแสดงอาการน้อยกว่าพลายศักดิ์สุรินทร์ ซึ่งการเดินทางของทีมสัตวแพทย์รอบนี้จะทำให้ประเมินสุขภาพได้มากขึ้น เพราะถ้าช้างไม่ได้รับการดูแลที่ดีจะมีช่องทางกลับมารักษาตัวในไทย
.
หากการเจรจาได้ผลดี จะใช้โมเดลเดียวกับการนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทยในปี 2566 ที่ต้องมีการเตรียมทั้งควานคนไทย สัตวแพทย์จากสถาบันคชบาลแห่งชาติ และกระบวนการต่างๆ ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องคุยกัน
.
สำหรับพลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กม.
.
ข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติ พบว่าตั้งแต่ก่อนปี 2544-2559 มีช้างไทย 20 เชือกที่ถูกส่งไปอยู่ต่างแดนใน 5 ประเทศคือ ศรีลังกา เดนมาร์ก ญี่ปุ่น สวีเดน ออสเตรเลีย โดยแบ่งออกเป็นดังนี้
.
ก่อนปี 2544 กรมป่าไม้ส่งออกช้าง 1 เชือกไปประเทศศรีลังกา (พลายประตูผา) ปี 2544 กรมป่าไม้ส่งออกช้าง 2 เชือกไปประเทศศรีลังกา (พลายศักดิ์สุรินทร์ และ พลายศรีณรงค์)
.
ปี 2544 กรมป่าไม้ส่งออกช้าง 3 เชือกไปประ เทศเดนมาร์ก ส่วนปี 2545 กรมป่าไม้ ส่งออกช้าง 2 เชือกไปยังประเทศญี่ปุ่น ปี 2547 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่งช้าง 2 เชือกไปประเทศสวีเดน
.
ส่วนปี 2548 จังหวัดสุรินทร์ ส่งออกช้าง 2 เชือกไปประเทศญี่ปุ่น (พลายอาทิตย์ และ พังอุทัย)
และในปี 2559 องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งออกช้าง 8 เชือกไปประเทศออส เตรเลีย (พลายกุ้ง, พังทองดี, พังน้ำอ้อย, พังดอกคูณ, พังพรทิพย์, พังผักบุ้ง, พังแตงโม ส่วนอีกเชือก ไม่ระบุชื่อ)
.
ปัจจุบันรัฐบาลไทย ไม่มีนโยบายการนำช้างส่งออกไปนอกราชอาณาจักร แบบในอดีตแล้ว แต่หากมีประเทศต้องการแลกเปลี่ยนสัตว์ระหว่างกัน ก็จะต้องมาพิจารณากันอย่างละเอียด เพื่อตั้งเงื่อนไขให้แน่ใจว่าสัตว์ที่ถูกส่งออกไปจะต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสมและไม่เข้าข่ายการทรมานสัตว์หรือไม่
.
#ทวงคืนช้างไทยในศรีลังกา #พลายศรีณรงค์ #พลายประตูผา #วาฬกู้โลก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เซ็นทาราเปิดตัวแอปพลิเคชันมือถือใหม่ ตอบโจทย์ทุกการเดินทางในมือคุณ

ยกระดับประสบการณ์การบริการที่ผสานทั้งการจองห้องพัก สะสมและใช้คะแนน รวมทั้งหลากหลายสิทธิพิเศษเพื่อสมาชิก ไว้ในดิจิทัลแพลตฟอร์มเดียวอย่างไร้รอยต่อ

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกระบุไทยพร้อมขึ้นแท่นศูนย์กลาง Elephant-Friendly Tourismรองรับกระแสนักท่องเที่ยวจีนที่ใส่ใจสวัสดิภาพสัตว์และการท่องเที่ยวเชิงจริยธรรมเพิ่มขึ้น

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เมื่อ “การท่องเที่ยวช้างเชิงจริยธรรม (Elephant-Friendly Tourism)” กำลังกลายเป็นหนึ่งในรูปแบบการท่องเที่ยวที่เติบโตเร็วที่สุดใน

ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนร่วมโครงการ “ช้อปสุขใจ ห่วงใยน้อง” มอบหน้ากากอนามัยสำหรับเด็ก ให้มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก

เข้าสู่ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง นำมาสู่การแพร่ระบาดของไข้หวัดและเชื้อไวรัส โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังต่ำ ดั๊บเบิ้ล เอ จึงขอเชิญชวนร่วมมอบหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก

“รองนายกฯ สุชาติ” เป็นประธาน กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ EIA โครงการสำคัญ แก้ปัญหาอุทกภัย–เสริมบริหารจัดการน้ำ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล