
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามุ่งมั่นทำงานภายใต้วิสัยทัศน์ "Better Regulation for Better Life" หรือ พัฒนากฎหมายที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน โดยสนับสนุนการบริหารงานของภาครัฐ ยึดถือความถูกต้องตามหลักวิชาการ และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักเสมอมา
ภารกิจหลักของสำนักงานฯ ซึ่งประกอบด้วย การตรวจพิจารณาและจัดทำร่างกฎหมาย การพิจารณาเสนอความเห็นให้มีการแก้ไข ปรับปรุง หรือยกเลิกกฎหมาย การให้ความเห็นทางกฎหมาย การประสานงานด้านนิติบัญญัติแก้ไขข้อขัดข้องในการเสนอกฎหมายและการช่วยเหลืองานด้านกฎหมายในชั้นรัฐสภา การจัดทำคำแปลกฎหมาย การวิจัย และพัฒนากฎหมาย การพัฒนาหลักกฎหมายปกครอง การทำหน้าที่ศูนย์ข้อมูลกฎหมายกลางผ่านเว็บไซต์สำนักงานฯ และการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายผ่านระบบกลางทางกฎหมาย และการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ นอกจากนี้ มีการพัฒนาการปฏิบัติงานให้มีความสะดวกทันสมัย ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ตอบสนองความต้องการของประชาชนและบริบทของสังคมที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ซึ่งบทบาทภารกิจดังที่กล่าวมานี้ได้ดำเนินการและตอบสนองความต้องการของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านการต่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการศึกษา ด้านสวัสดิการและสาธารณสุข ฯลฯ อันจะส่งผลให้ประชาชนเกิดความผาสุก ประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้า มีกฎหมายที่ดี และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ภารกิจหลักและผลงานเด่นในปี 2568 :
1.ภารกิจด้านกฎหมาย: การตรวจพิจารณาร่างกฎหมายและให้ความเห็นทางกฎหมาย ได้ดำเนินการตรวจพิจารณาร่างกฎหมายแล้วเสร็จ จำนวน 336 ฉบับ โดยมีร่างกฎหมายที่ส่งเสริมการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย การประกอบธุรกิจ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน อาทิ ร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ร่างพระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในส่วนของการให้ความเห็นทางกฎหมายแบ่งเป็น ความเห็นทั่วไปดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 500 เรื่อง และความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 839 เรื่อง โดยในการจัดทำและตรวจพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญเพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ได้ตรวจพิจารณาร่างกฎหมายที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อนำสู่การพิจารณาของรัฐสภาโดยเร็ว (Fast-track) ตรวจพิจารณาเสร็จ และส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว จำนวน 14 ฉบับ การตรวจพิจารณาร่างกฎหมายจากการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย ตรวจพิจารณาเสร็จ และส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว จำนวน 13 ฉบับ และเร่งรัดผลักดันการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายหน่วยงานของรัฐ เพื่อทบทวน แก้ไข/ปรับปรุง หรือยกเลิกกฎหมาย ให้มีกฎหมายที่ดีและเท่าที่จำเป็น (แผนแม่บทที่ 22 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม) โดยได้รายงานผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายแล้วเสร็จ 72 ฉบับ
2.การส่งเสริมและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี: การใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานจากภายนอกสำนักงานฯ (Work from Anywhere) ได้มีการพัฒนาเพื่อรองรับการติดต่อประสานงานทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ OCS Cloud Office การสื่อสารและการประชุมผ่าน Microsoft Teams เว็บไซต์สำนักงานฯ (ocs.go.th) และในส่วนของการให้บริการประชาชน ตลอดจนส่วนราชการต่าง ๆ ผ่านระบบกลางทางกฎหมาย (law.go.th) รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มีความรวดเร็ว เข้าใจได้ง่ายและใช้ประโยชน์ได้จริง ตลอดจนการเปิดรับฟังข้อมูลและความคิดเห็นของประชาชน เพื่อการปรับปรุงการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และการสื่อสารกับประชาชนผ่านทางเพจสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
3.การขับเคลื่อนสู่สากล: สนับสนุนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจให้สามารถแข่งขันได้ แข็งแรง และยั่งยืน ด้วยแนวคิดการมีกฎหมายที่ดี
การประชุมวิชาการประจำปี 2025 ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2025 ภายใต้หัวข้อ "Better Regulation for Better Thailand: Towards A Sustainable and Digital Ready Economy" หรือการพัฒนากฎหมายเพื่อยกระดับคุณภาพกฎหมายเพื่อสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืนของประเทศไทย ในการประชุมวิชาการดังกล่าวได้ชูแนวคิดด้านกฎหมายและการพัฒนาที่ว่า การพัฒนากฎหมายเป็นพหุศาสตร์ โดยประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคมและเศรษฐกิจโลก ทำให้กฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน (law as an engine for growth) โดยเฉพาะในโลกที่มีการติดต่อสื่อสารอย่างไร้พรมแดน การพัฒนาแนวคิดด้านกฎหมายร่วมกันโดยยึดคำแนะนำและมาตรฐานด้านกฎหมายขององค์การระหว่างประเทศ เช่น องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) จึงเป็นเรื่องที่ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญเพื่อสร้างบทบาทร่วมกำหนดทิศทางการทำงานและการออกคำแนะนำ ในเวลาเดียวกัน กฎหมายยังมีบทบาทสำคัญที่จะส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะการออกแบบและกำหนดนโยบายและธรรมาภิบาลของการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยการประชุมวิชาการประจำปีของกฤษฎีกาในครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมเสริม (official side event) ของการประชุม UNESCO Global Forum on Ethics of AI ครั้งที่ 3 ซึ่งประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพด้วย
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนางานด้านกฎหมายของประเทศ ให้เท่าทันกับยุคสมัยที่มีความเปลี่ยนแปลงไปของสังคมโลกในปัจจุบันและความต้องการของประชาชน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างคุณภาพของกฎหมายและการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน เพื่อให้มีกฎหมายที่ดีที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยทุกท่านสามารถติดตามทุกเรื่องราวของสำนักงานฯ ได้ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงานฯ ocs.go.th ระบบกลางทางกฎหมาย law.go.th เพจสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และยูทูบ ช่อง Krisdika Connect รวมถึงการติดต่อสำนักงานฯ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 222 0206-9 และอีเมล [email protected]

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก ในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. ....
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. ....
ดร.ณัฏฐ์ ชำแหละปม ‘ทักษิณ’ ภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้าน
ดร.ณัฏฐ์-นักกฎหมายมหาชน ผ่าปม “ทักษิณ” ภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้าน โอนให้นอมินี ไม่พ้นจากความรับผิด โอกาสยึดทรัพย์ในต่างประเทศยาก
จาก 'คนขายหมู' ถึงมติวุฒิสภา บทเรียนประชาธิปไตยและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
มติของวุฒิสภา 130 ต่อ 26 เสียง ให้ส่งเรื่องของ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ไปยัง ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง
ชี้แจงการนำเสนอข่าวกรณีร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ....
ตามที่มีการเสนอข่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. .... นั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาขอเรียนชี้แจงว่า สำนักงานฯ และคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นด้วยในหลักการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนทุกชนิด โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์


