
หลังจากที่เมื่อ17 พฤศจิกายน 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้แถลงข่าวความคืบหน้ามาตรการบรรเทาผลกระทบให้แก่กลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน
โดยกำหนดเป็น 5 มาตรการสำคัญในการช่วยเหลือไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 - 28 กุมภาพันธ์ 2569 ดังนี้
1. ลงทะเบียนผู้ขับขี่สำหรับจดทะเบียนรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปฯ โดย ETDA
- เปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://driververify.mdes.go.th (ล็อกอินผ่าน Thai ID) ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งเมื่อข้อมูลได้รับการยืนยันจากแพลตฟอร์ม จะได้รับ “ใบรับแจ้งลงทะเบียน” (QR Code) เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที และผู้ขับขี่จะต้องดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะและทำใบขับขี่สาธารณะกับกรมการขนส่งทางบกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569
2.แก้ปัญหาไฟแนนซ์-ลีสซิ่ง-ประกันภัย
- กรมการขนส่งทางบก อนุญาตให้รถที่ติดไฟแนนซ์สามารถใช้สำเนาใบคู่มือจดทะเบียน ยื่นจดทะเบียนแทนเล่มจริงได้ ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569
- ขอความร่วมมือบริษัทลีสซิ่งทุกราย ลดค่าธรรมเนียมเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ โดยขณะนี้ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) จะนำร่องเป็นรายแรก จากเดิม 1% ของยอดเงินคงเหลือตลอดสัญญา เหลือ 0.25% ต่อปี
- ให้สามารถใช้ประกันภัยชั้น 3 (ภาคสมัครใจ) ได้ ไม่จำเป็นต้องทำประกันสาธารณะชั้น 1เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยได้ขอความร่วมมือกับบริษัทลีสซิ่งทุกราย ซึ่ง ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb)) ให้การตอบรับเป็นรายแรก
3. ปลดล็อกเอกสาร-ขนาดเครื่องยนต์
- แก้ปัญหาภูมิลำเนาของผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะ โดยใช้เอกสารเฉพาะส่วนบุคคล เช่น บัตรนักเรียน-นักศึกษา เอกสารการทำงานในพื้นที่ กทม. ลดปัญหาการหาผู้รับรอง
- พิจารณาขยายขนาดเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์สาธารณะ จากเดิม 125 ซีซี โดยจะร่วมหารือการปรับปรุงกฎหมาย ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สภาผู้บริโภค เพื่อกำหนดขนาดซีซีที่เหมาะสมต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 1 เดือน
4. พิจารณาแก้กฎหมายให้นำรถเช่ามาให้บริการสาธารณะผ่านแอปฯได้
กระทรวงดีอีได้หารือร่วมกับกระทรวงคมนาคม เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมเห็นชอบในหลักการแก้ไขกฎกระทรวง และอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมการขนส่งทางบก

5. มาตรการมอบเงินสนับสนุนพิเศษ
กระทรวงดีอีประสานแพลตฟอร์มผู้ให้บริการมอบเงินสนับสนุนช่วยเหลือผู้ขับขี่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยมี Grab และ LINE MAN ให้การตอบรับและพร้อมสนับสนุนเงินพิเศษ ซึ่งผู้ขับขี่จะได้รับเงินสนับสนุนตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาทต่อคน
นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ หากพบผู้ให้บริการรายใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปล่อยปละละเลยให้รถที่ผิดกฎหมายและไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถสาธารณะมาให้บริการ กระทรวงดีอีพร้อมดำเนินการทันที
โดยหลังจากที่ทางกระทรวงดีอีได้เปิด 5 มาตรการดังกล่าวแล้ว ก็ยังคงมีเสียงเรียกร้องจากไรเดอร์หรือไดรเวอร์เรื่องค่ารอบงานที่อาจจะไม่เพียงพอต่อต้นทุนการขับขี่หรือแม้แต่เรื่องขนาดเครื่องของจักรยานยนต์ที่ปัจจุบันยังจำกัดที่ 125 CC ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องหาทางแก้ไขในอนาคตต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ไชยชนก’ ถอดบทเรียนมหาอุทกภัยใต้ เดินเครื่องยกระดับระบบเตือนภัยไทยสู่ระดับโลก ใช้ดาวเทียม-AI เพิ่มความแม่นยำ เร่งบูรณาการข้อมูล พร้อมจัดงบฯ ฟื้นเครือข่ายวิทยุสื่อสาร ตามรอยในหลวง ร.9
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยภาคใต้ และการดำเนินโครงการความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ ระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยา กับ Tomorrow.io เพื่อยกระดับระบบการเตือนภัยของประเทศไทย
‘ไชยชนก’ นำทัพ ‘ดีอี’ ปลดล็อก รย.17–18 อัดเงินช่วยสูงสุด 2 หมื่น/คน ดันไรเดอร์กว่า 2 แสนรายเข้าสู่ระบบ ถูกต้อง เป็นธรรม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) แถลงความคืบหน้ามาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบให้แก่กลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน
ดีอี เตือนภัย 'มิจฉาชีพ' ลวงทำ 'ใบขับขี่ออนไลน์' ระวังสูญเงิน
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “กรมการขนส่งทางบก เปิดรับทำใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านเพจ DLT License ใบขับขี่เร่งด่วน” รองลงมาคือเรื่อง “ก.ล.ต. เปิดแพลตฟอร์มลงทุนใหม่ ให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร”
“ไชยชนก” นำทัพ ดีอี จับมือ Google Cloud เสิร์ฟ Google AI Pro ให้นักศึกษาใช้ฟรี! ตั้งเป้าเฟส 2 ศึกษาเพื่อขยาย AI ระดับพรีเมียมสู่คนไทยกว่า 5 ล้านคน
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ในฐานะผู้ผลักดันหลัก ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญกับ Google Cloud ประเทศไทย ในงานแถลง


