
วันที่ 2 ธันวาคม 2568 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม “พม. ใกล้คุณ” พร้อมเคียงข้างคุณ สู้ มหาอุทกภัยภาคใต้ พร้อมปล่อยขบวนรถสิ่งของบริจาค “พม. ใกล้คุณ” พร้อมเคียงข้างคุณ สู้ มหาอุทกภัยภาคใต้ เพื่อนำไปส่งมอบความช่วยเหลือแก่กลุ่มเปราะบางและประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ อีกทั้ง มีการรับมอบสิ่งของบริจาค รวมมูลค่ากว่า 4.9 ล้านบาท จากภาคีเครือข่าย ได้แก่ บริษัท ซีดริ้ง จำกัด , บริษัท เค เบฟเวอเรจ จำกัด , คณะกรรมการเคหะชุมชนห้วยขวาง , บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) (ปุ้มปุ้ย) , มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม , สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , บริษัท Plan B โดยมี นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. , ศิลปินดารานักแสดง ได้แก่ น้ำ - จุฑามาศ หวังสวัสดิ์ , อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) กรุงเทพมหานคร และทีม “พม.ใกล้คุณ” เข้าร่วม ณ บริเวณหน้าอาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ
นายอัครา กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชนจำนวนมาก ทำให้ต้องประสบปัญหาความเดือดร้อนและความยากลำบากอย่างยิ่ง ขณะนี้หลายพื้นที่ ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว แต่กลุ่มเปราะบางและประชาชนที่ประสบอุทกภัยยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่อง และที่ยังไม่เข้าถึงความช่วยเหลือต่างๆ เมื่อวานนี้ (1 ธ.ค. 68) ตนได้ลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับผลกระทบดังกล่าว มีประชาชนได้เข้ามากอดเหมือนเราเป็นความหวังที่รอคอยว่าจะมีคนมาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยเป็นภารกิจของกระทรวง พม. ดังนั้น ภายหลังที่ตนกลับจากการลงพื้นที่ จึงได้ประสานผู้บริหารกระทรวง พม. เพื่อปล่อยคาราวานรถมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในวันนี้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยเฉพาะน้ำดื่ม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้งภาคเอกชน และภาคประชาชนที่พร้อมเป็นธารน้ำใจร่วมกัน อีกทั้งเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค. 68) ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้โรงครัวมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า นำอุปกรณ์ทั้งหมด สำหรับเป็นโรงครัวจากจังหวัดพะเยา พร้อมบุคลากรของมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ไปตั้งโรงครัวที่ภาคใต้

นายอัครา กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมเป็นเครือข่ายหุ้นส่วนทางสังคมในการช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย ซึ่งกระทรวง พม. มีภารกิจในเรื่องของการช่วยเหลือดูแลกลุ่มเปราะบาง ซึ่งตนขอเชิญทุกท่านที่บริจาคสิ่งของในวันนี้ ร่วมลงพื้นที่ภาคใต้ด้วยกัน จะได้เห็นถึงความลำบากว่าเป็นอย่างไรบ้าง และเกิดความตั้งใจอยากช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเพิ่มเติม เมื่อกลับมากรุงเทพมหานคร ดังนั้น กระทรวง พม. ขออาสาเป็นตัวกลางในการเชื่อมธารน้ำใจทั้งหมดเพื่อช่วยกันเป็นคาราวานธารน้ำใจไปช่วยพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย และวันพรุ่งนี้ (3 ธ.ค. 68) ตนจะเดินทางลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยผู้บริหารของกระทรวง พม. เพื่อเยียวยาฟื้นฟูทั้งด้านสภาพจิตใจ และสภาพความเป็นอยู่ในด้านที่อยู่อาศัยโดยการเคหะแห่งชาติ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ซึ่งปักหมุดดำเนินการที่จังหวัดสงขลาแล้ว รวมถึงการส่งทีมนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาตั้งแต่เกิดวิกฤตวันแรกที่มีการตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว
นายอัครา กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานของกระทรวง พม. นั้น จะไม่อยู่แค่หน้างานในพื้นที่น้ำท่วม แต่เราจะดูแลฟื้นฟูเยียวยา ซึ่งหลังจากนี้ภารกิจกระทรวง พม. จะมากขึ้น เพราะว่าเราต้องส่งคนกลับบ้านส่วนหนึ่ง และการซ่อมแซมบ้าน โดยเฉพาะชุมชนริมรางรถไฟ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไร้บ้าน ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณทุกหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้ง ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมแรงร่วมใจกันบริจาคสิ่งของต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้การช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ส่งถึงมือพี่น้องผู้ประสบภัยโดยปลอดภัย และตนขอให้คาราวานแห่งน้ำใจของเราในวันนี้ เดินทางโดยสวัสดิภาพ และขอให้กำลังใจทั้งหมดนี้ ช่วยเติมพลังให้พี่น้องชาวใต้ ก้าวผ่านความยากลำบาก และกลับมายืนหยัดได้อย่างเข้มแข็งอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อัครา’ รมว.พม. kick off ซ่อมบ้านกลุ่มเปราะบางหลังแรก - มอบเงินซ่อมบ้านชุมชนแรก หลังน้ำลด หาดใหญ่ พร้อมดึงทุกภาคส่วน ร่วมฟื้นฟูเยียวยาโดยด่วน
นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ณ สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงหาดใหญ่ จำกัด (ชุมชนบ้านมั่นคงในฝัน) ซึ่งได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วมทั้งชุมชนทุกหลังคาเรือน เพื่อ Kick off ซ่อมบ้านหลังแรก สำหรับกลุ่มเปราะบางที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา
“อัครา” รมว.พม. kick off ซ่อมบ้านกลุ่มเปราะบางหลังแรก - มอบเงินซ่อมบ้านชุมชนแรก หลังน้ำลด หาดใหญ่ พร้อมดึงทุกภาคส่วน ร่วมฟื้นฟูเยียวยาโดยด่วน
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ณ สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงหาดใหญ่ จำกัด
‘อัครา’ เตรียมลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ สงขลา เย็นนี้ ร่วม Big Cleaning หลังน้ำลด พร้อมส่งทีมนักสังคมสงเคราะห์-นักจิตวิทยา จากส่วนกลาง เร่งฟื้นฟูเยียวยากลุ่มเปราะบาง
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยทุกคน โดยได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่อุทกภัยภาคใต้ (วอร์รูม - War Room) ที่กระทรวง พม. เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมให้ความช่วยเหลือพี่น้องกลุ่มเปราะบางและประชาชนผู้ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิด
"อัครา" หนุน พม. จับมือ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ - คณะแพทยศาสตร์ มธ. ขยายโอกาสเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ สังคม-สาธารณสุข ช่วยกลุ่มเปราะบางผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง" ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
"อัครา" เผย พม. ตั้งวอร์รูม เร่งช่วยกลุ่มเปราะบางประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมระดม ทีม พม.ใกล้คุณ - อพม. คอยช่วยเหลือเต็มที่
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในขณะนี้ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งถูกน้ำท่วมครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ ทำให้พี่น้องประชาชนจำนวนมาก
"อัครา" ขับเคลื่อน "พม.ใกล้คุณ" จ.ภูเก็ต พร้อมผนึกพลังเครือข่ายท้องถิ่น มุ่งคุ้มครอง-ส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นประธานเปิดงานรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล ครั้งที่ 15 : “ชาวเลมั่นยืน ด้วยกฎหมายคุ้มครองชาติพันธุ์”


