เมื่อธนาคารกลางประกาศ “คงอัตราดอกเบี้ย” แต่ตลาดหุ้นกลับร่วงแรง หรือรัฐบาลยืนยันเศรษฐกิจแข็งแกร่งแต่นักลงทุนเทขายหนัก สถานการณ์เหล่านี้สะท้อนความซับซ้อนของการสื่อสารนโยบายการเงินที่นักลงทุนทั่วไปมักเข้าใจผิด งานวิจัยจากภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดระบุว่า แม้นักลงทุนที่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจก็ยังประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยได้อย่างจำกัด เพราะความหมายแฝงในถ้อยแถลงนโยบายมักส่งผลต่อตลาดมากกว่าข้อความที่สื่อสารตรงๆ
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา EBC Financial Group ร่วมกับ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด จัดสัมมนาครั้งที่ 3 ในซีรีส์ "หน้าที่หลักของนักเศรษฐศาสตร์" ภายใต้หัวข้อ "คิดแบบนักเศรษฐศาสตร์: เข้าใจนโยบายการเงินและเศรษฐกิจในโลกที่ซับซ้อน" เพื่อถ่ายทอดมุมมองเชิงลึกให้นักลงทุนเข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องหลังนโยบายสำคัญได้ชัดเจนขึ้น
ศาสตราจารย์ Michael McMahon จากภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เปิดเผยผลวิจัยที่น่าสนใจว่า กลุ่มนักวิเคราะห์มืออาชีพและประชาชนทั่วไปมีมุมมองต่อความสัมพันธ์ระหว่างเงินเฟ้อกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน สะท้อนว่าประเด็นนี้ไม่ใช่แค่ความต่างด้านความรู้ แต่เป็นความต่างของกรอบคิดในการตีความข้อมูลทางเศรษฐกิจ งานวิจัยยังชี้ว่าเอกสารนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความซับซ้อนในระดับที่ต้องอาศัยพื้นฐานการศึกษาประมาณ 18 ปี หรือเทียบเท่าระดับปริญญาเอกจึงจะเข้าใจได้ ขณะที่สุนทรพจน์ของนักการเมืองเข้าถึงได้ง่ายกว่ามาก ความแตกต่างดังกล่าวกลายเป็นอุปสรรคเชิงโครงสร้างที่ทำให้นักลงทุนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลต้นทางได้โดยตรง และต้องพึ่งพาการตีความจากแหล่งข้อมูลรอง
David Barrett ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EBC Financial Group นำประสบการณ์กว่า 40 ปีในตลาดการเงินมาย้ำถึงความสำคัญของประเด็นนี้ โดยระบุว่านักลงทุนรายย่อยจำนวนมากยังเผชิญความท้าทายในการตัดสินใจลงทุนจากการขาดความเข้าใจเชิงลึกและกรอบการวิเคราะห์ที่ชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลลัพธ์การลงทุนในระยะยาว
ภายในงานสัมมนา David ได้ถ่ายทอดมุมมองเชิงลึกต่อสถานการณ์ของอุตสาหกรรมการเงินในปัจจุบัน โดยชี้ให้เห็นสามประเด็นสำคัญ ประการแรก เป้าหมายทางธุรกิจของสถาบันการเงินอาจไม่สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนในทุกมิติ ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยได้รับข้อมูลและศัพท์เทคนิคจำนวนมาก แต่ยังขาดความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับลักษณะของการลงทุน ความเสี่ยง และที่มาของผลตอบแทน ประการที่สอง การเติบโตของการลงทุนเชิงรับในช่วงที่ผ่านมาเกิดขึ้นควบคู่กับสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนบางกลุ่มได้รับผลตอบแทนโดยยังไม่เข้าใจกลไกเบื้องหลังอย่างแท้จริง และเมื่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง ความเข้าใจด้านเศรษฐศาสตร์และนโยบายการเงินจะยิ่งมีบทบาทสำคัญ ประการสุดท้าย จากประสบการณ์ในการดูแลลูกค้าทั่วโลก David มองเห็นภาพของนักลงทุนในหลายกลุ่ม โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการความรู้และการสนับสนุนมากเป็นพิเศษ
ศาสตราจารย์ McMahon แบ่งปันผลการทดลองที่น่าสนใจว่า วิดีโอการสอนความยาวเพียง 5 นาทีสามารถช่วยให้นักลงทุนทั่วไปเข้าใจนโยบายการเงินได้ในระดับใกล้เคียงกับ งแนวคิดที่ตรงประเด็น เพื่ออธิบายประเด็นที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย เขาได้นำเสนอแบบจำลองเชิงภาพ เปรียบอุปสงค์และอุปทานเสมือนน้ำหนักที่อยู่คนละด้านของคานสมดุล เมื่อแรงทั้งสองฝั่งอยู่ในจุดที่เหมาะสม ระบบเศรษฐกิจก็จะอยู่ในภาวะที่สอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อ พร้อมเน้นย้ำว่าแก่นสำคัญไม่ใช่เพียงการใช้ภาษาที่ง่ายขึ้น แต่คือการทำให้แนวคิดหลักเข้าใจได้ชัดเจนขึ้น เช่น การอธิบายผ่านกรอบการจ้างงานและราคาแทนการใช้ตัวชี้วัดเชิงเทคนิคอย่าง GDP และอัตราเงินเฟ้อ
David กล่าวเสริมว่า การให้ความรู้ทางการเงินควรเป็นการสื่อสารเชิงรุกที่เข้าถึงนักลงทุนโดยตรง มากกว่าการคาดหวังให้นักลงทุนต้องเป็นฝ่ายแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เพื่อช่วยยกระดับความเข้าใจและการตัดสินใจลงทุนอย่างยั่งยืน
ในฐานะกลุ่มการเงินระดับโลกที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA สหราชอาณาจักร ASIC ออสเตรเลีย และ CIMA หมู่เกาะเคย์แมน EBC ตระหนักดีว่าการปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความรับผิดชอบ ขณะที่พันธกิจที่แท้จริงคือการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และศักยภาพในการตัดสินใจให้กับนักลงทุนในระยะยาว David เปิดเผยแนวทางใหม่ด้านการให้ความรู้แก่นักลงทุน โดยมุ่งออกแบบเนื้อหาให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินที่แตกต่างกันของแต่ละกลุ่มลูกค้า พร้อมพัฒนาโครงการการเรียนรู้แบบเฉพาะกลุ่มในหลายภูมิภาคทั่วโลก ผ่านการใช้สถานการณ์จริงควบคู่กับการสื่อสารที่เข้าใจง่าย
นอกจากนี้ EBC ยังร่วมมือกับภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดจัดเวทีเสวนาเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมประเด็นสำคัญตั้งแต่นโยบายเศรษฐกิจมหภาคไปจนถึงกลไกตลาด ขณะเดียวกันยังขยายการเข้าถึงองค์ความรู้ผ่านรายการพอดแคสต์ Pulse 360° บน Spotify ถ่ายทอดมุมมองตลาด ภาวะผู้นำ และความเชี่ยวชาญด้านการเงินสู่ผู้ฟังทั่วโลก โดย Michael McMahon ได้เข้าร่วมรายการหลายครั้งเพื่อนำเสนอแนวคิดเศรษฐศาสตร์ประยุกต์
การสัมมนาครั้งนี้อาจไม่ได้ชี้ชัดว่าพรุ่งนี้ควรลงทุนอะไร แต่ช่วยเปิดมุมมองว่าจะมองเห็นโอกาสในวันข้างหน้าได้อย่างไร ดังที่ศาสตราจารย์ McMahon เคยกล่าวไว้ว่า เศรษฐศาสตร์ไม่ควรเป็นภาษาที่จำกัดอยู่เฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น และสำหรับ EBC นี่คือก้าวแรกของพันธกิจในการทำให้องค์ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์เข้าถึงนักลงทุนได้อย่างแท้จริง EBC มุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือกับภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำองค์ความรู้เศรษฐศาสตร์ร่วมสมัยมาถ่ายทอดในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้ได้จริง พร้อมเดินหน้าขยายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลกอื่นๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
EBC มอบรอยยิ้มและความหวังให้เด็กกำพร้าวัดสระแก้ว จ.อ่างทอง
เมื่อเร็วๆนี้ ทีมงาน EBC Financial Group เดินทางไปเยี่ยมเยียนวัดสระแก้ว อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของเด็กกำพร้าและเด็กยากไร้กว่า 1,000 คน