
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงบรรยายพิเศษผ่านออนไลน์เรื่อง”ภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง”พระราชทานแก่คณาจารย์ และนิสิต สังกัดคณะสัตว์แพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และบัณฑิตวิทยาลัย มก.
19 ม.ค.2565 – ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เสด็จออก ณ ท้องพระโรง ตำหนักทิพย์พิมาน ทรงบรรยายพิเศษผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) เรื่อง “ภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง – Immuno-oncology” พระราชทานแก่ คณาจารย์ และนิสิต สังกัดคณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2564 จำนวน 50 คน

โดยในวันนี้เป็นการบรรยายต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “การรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง (Cancer Immunotherapy: Immune Checkpoint Inhibitors)” ซึ่งร่างกายสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มต้นได้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ ยังทรงอธิบายอย่างต่อเนื่องถึงกระบวนการปรับภูมิคุ้มกัน (Immunoediting) ซึ่งเริ่มจากการที่เซลล์มะเร็งถูกตรวจพบและทำลายโดยระบบภูมิคุ้มกัน แต่ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมของเซลล์มะเร็งที่ยังไม่ถูกทำลาย ทำให้สามารถคงอยู่ต่อไปและพยายามปรับตัวอยู่ร่วมกับเซลล์ปกติ และต่อมามีการปรับตัวเพื่อหลบหนีจากระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์มะเร็งสามารถเจริญและแพร่กระจายออกไป เนื่องจากไม่มีการควบคุม หรือการกำจัดโดยระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งกลไกสำคัญที่ทำให้เซลล์มะเร็งสามารถหลบหนีจากการกำจัดของระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่ การกดระบบภูมิคุ้มกันโดยเซลล์มะเร็งเอง โดยเกิดที่โมเลกุลของจุดตรวจภูมิคุ้มกัน (immune checkpoint molecules) บนผิวของเซลล์มะเร็ง ไปทำปฏิกิริยากับตัวรับบนเม็ดเลือดขาวชนิด ที-เซลล์ (T cells) ที่มีบทบาทในการควบคุมการทำงานของระบบเม็ดเลือดขาวนี้ ทำให้สามารถยับยั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดที-เซลล์ที่จุดตรวจภูมิคุ้มกัน (immune checkpoints) และหลบหลีก (evade) จากการทำลายของระบบภูมิคุ้มกันได้

ดังนั้น การยับยั้งการกด (suppression)ระบบภูมิคุ้มกันโดยเซลล์มะเร็ง โดยการใช้ยาซึ่งเป็นโมโนโคลนอล แอนตี้บอดี้ (monoclonal antibody) ไปยับยั้งการทำปฏิกิริยาที่จุดตรวจภูมิคุ้มกันนี้ จะทำให้เพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่มีต่อเซลล์มะเร็งมากขึ้น ถือเป็นแนวทางใหม่ของการรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง (cancer immunotherapy) ดังนั้น การพัฒนายา ตลอดจนกลไกในการทำงานของยากลุ่มนี้ จึงเป็นความหวังแนวทางการรักษาของผู้ป่วยโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยการใช้แนวทางการรักษาโดยใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน และทรงยกตัวอย่างการใช้ยาในกลุ่มยับยั้งจุดตรวจภูมิคุ้มกัน 2 ชนิดร่วมกัน ซึ่งให้ผลการรักษามะเร็งที่ดีขึ้น แต่ในบางรายอาจจะมีอาการข้างเคียง(side effects) และ ความเป็นพิษ(toxicities) ในร่างกายขึ้นได้ ซึ่งในขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลผลการรักษาในระยะยาวด้วยการใช้ยากลุ่มนี้ ร่วมกับการรักษาแบบเคมีบำบัด (chemotherapy) ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะเพิ่มการตอบสนองในการต้านมะเร็งมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังในการวางแผนการรักษา ซึ่งขึ้นอยู่ระยะ (phase) ของการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่เป็นเป้าหมาย ตลอดจนขนาด (dose) ของยาที่ใช้ และระยะเวลา (schedule) ของการใช้ยาเป็นองค์ประกอบด้วย

พระกรุณาธิคุณของ “ทูลกระหม่อมอาจารย์” ที่ทรงบรรยายมาอย่างต่อเนื่องทั้ง 2 ครั้งนี้ ทรงมุ่งมั่นและตั้งพระทัยที่จะถ่ายทอดพระประสบการณ์และองค์ความรู้ต่างๆ อย่างเต็มพระกำลังความสามารถ เพื่อปูพื้นฐานภาพรวมของระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านมะเร็ง ตลอดจนการนำมาประยุกต์ใช้เพื่อแสวงหาแนวทางในการรักษาบำบัดโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ และด้านสัตวแพทย์ในอนาคตกับการรักษามะเร็งทั้งในคนและสัตว์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อันเป็นการสร้างคุณูปการต่อวงการสาธารณสุขไทยต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
จุฬาราชมนตรี สำนึกพระเมตตา สร้างอาชีพ3จว.
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย "สมเด็จพระพันปีหลวง”
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง'
2 พ.ย.2568 - เวลา 10.40 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ ทรงคม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์พระพิธีธรรมสวดอภิธรรม แล้วทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา จากนั้น เสด็จไปทรงคมที่หน้าเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารหน้าพระแท่นพระนพปฎมหาเศวตฉัตร แล้วทรงคมที่หน้าพระโกศพระบรมศพ แล้วเสด็จกลับ.
แม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่สร้างหลุมหลบภัย รั้วชายแดน ภายใต้กองทุนหทัยทิพย์
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่แนวชายแดน ตรวจการก่อสร้างหลุมหลบภัย พร้อมติดตามแผนการสร้างกำแพงรั้วชายแดน 6 จุด ภายใต้กองทุนหทัยทิพย์
รับสั่งสร้างรั้วชายแดนทันที
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ รับสั่งให้กองทัพไทยสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชาทันที “มทภ.1”


