ในหลวง-พระราชินี ทรงรับทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก มจธ.

13 มิถุนายน 2568 - เวลา 18.54 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีเสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ดังนี้

ศาสตราจารย์เกียรติคุณยงยุทธ ยุทธวงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นำ คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล พร้อมครุยวิทยฐานะ และหุ่นจำลองเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูง “เอฟ ห้าอี” (F-5E) บรรจุในกล่องอะคริลิกใสแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาศาสตร์ประยุกต์ พร้อมครุยวิทยฐานะ และผ้าซิ่นไทยวน บรรจุในกล่องผ้าไหมสีม่วง แด่ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระปรีชาสามารถในด้านวิศวกรรมการบินและอากาศยาน ทรงมีชั่วโมงการบินหลายพันชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความชำนาญ ความเชี่ยวชาญอันเป็นเลิศในวิทยาการการบิน ทั้งอากาศยานทหารและอากาศยานพาณิชย์ ทรงปฏิบัติหน้าที่ครูการบินพระราชทาน ทรงถ่ายทอดวิทยาการฝึกสอน ทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติ โดยพระปรีชาสามารถเป็นที่ประจักษ์ชัด เมื่อครั้งทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ 1 ทรงขับเครื่องบินพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง ทั้งเที่ยวไปและกลับ ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร ราชอาณาจักรภูฎาน ซึ่งท่าอากาศยานพาโร นับเป็นท่าอากาศยานที่มีความยากในการนำเครื่องขึ้นและลงจอดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังทรงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการเรียนการสอนทางวิศวกรรมศาสตร์ โดยทรงรับกองทุนเพื่อการศึกษา และวิจัยทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ และโครงการเหรียญรางวัลเรียนดี ของนิสิต นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์

นอกจากนี้ ยังทรงพระปรีชาสามารถในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมมาประยุกต์ใช้ในพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราษฎรและประเทศชาติเป็นอเนกอนันต์

สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพระวิริยอุตสาหะทั้งด้านการทหาร การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการต่างประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงพระปรีชาสามารถด้านภาษาและการสื่อสาร ทรงใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสอย่างแตกฉาน ทั้งยังทรงใช้ประกอบในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจสำคัญต่าง ๆ ที่โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงเยือนต่างประเทศ ทรงรับประมุข และผู้นำประเทศต่าง ๆ และพระราชทานพระราชวโรกาสให้บุคคลสำคัญและทูตานุทูตต่างประเทศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

อีกทั้งยังทรงดำรงพระองค์เป็นทูตทางภาษาและวัฒนธรรมไทยในเวทีโลก โดยทรงมีพระราชดำรัส ทรงกล่าวสุนทรพจน์ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในเวทีการประชุมต่าง ๆ เป็นที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถทางด้านภาษาและการสื่อสาร ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในการอนุรักษ์และจรรโลงภาษาไทย สร้างความภาคภูมิใจแก่ประชาชนชาวไทยทั้งปวง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ในหลวง พระราชทานยศ ‘พลเอก’ ให้ ‘แม่ทัพกุ้ง’ เป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ

 มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ร.อ.วีระศักดิ์ อ๊อกกังวาล ผู้บัญชาการสำนักราชองครักษ์ประจำพระองค์ พระที่นั่งอัมพรสถาน ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงกลา

'ในหลวง'พระราชทานเหรียญรางวัลกีฬาเรือใบ 'พระราชินี'ทรงรับเหรียญทองประวัติศาสตร์ ซีเกมส์ครั้งที่33

วันที่ 18 ธ.ค. เวลา  12.45     น.  สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และทีมเรือใบ (SSL 47) ทีมชาติไทย เริ่มการแข่งขันเรือใบในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 รอบชิงชนะเลิศ ร่วมกับร่วมกับนักกีฬาจาก 4 ชาติ ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ได้แก่  เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเมียนมา 

ในหลวง เสด็จฯ ส่ง 'พระราชินี' ทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเหรียญรางวัลการแข่งขันกีฬาเรือใบ ประเภทเรือคีลโบ๊ท “เอส เอส แอล 47 (SSL 47) ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. ๒๕๖๘