
ขุนพล “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ มาโน โพลกิ้ง เจองานหินไม่ใช่น้อยในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง เมื่อต้องอยู่ร่วมสายกับ “โสมขาว” เกาหลีใต้ และ “มังกรแดง” จีน ในการจับสลากแบ่งกลุ่มเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา
วันที่ 27 กรกฏาคม 2566 เวลา 15.20 น. ณ เอเอฟซี เฮาส์ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี จัดพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2
โดยผลการจับสลากมีดังนี้
กลุ่ม A : กาตาร์, อินเดีย, คูเวต, (อัฟกานิสถาน-มองโกเลีย)
กลุ่ม B : ญี่ปุ่น, ซีเรีย, เกาหลีเหนือ, (เมียนมา-มาเก๊า)
กลุ่ม C : เกาหลีใต้, จีน,ทีมชาติไทย, (สิงคโปร์-กวม)
กลุ่ม D : โอมาน, คีร์กิซสถาน,มาเลเซีย, (ไต้หวัน-ติมอร์ เลสเต)
กลุ่ม E : อิหร่าน,อุซเบกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน, (ฮ่องกง-ภูฎาน)
กลุ่ม F : อิรัก, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, (อินโดนีเซีย-บรูไน)
กลุ่ม G : ซาอุดิอาระเบีย, จอร์แดน, ทาจิกิสถาน, (กัมพูชา-ปากีสถาน)
กลุ่ม H : สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน, (เยเมน-ศรีลังกา), (เนปาล-สปป.ลาว)
กลุ่ม I : ออสเตรเลีย, ปาเลสไตน์, เลบานอน, (มัลดีฟส์-บังคลาเทศ),
การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 จะแข่งแบบพบกันหมดเหย้า-เยือน รวมทั้งหมด 6 นัด โดยโปรแกรมการแข่งขันมีดังนี้
แมตช์เดย์ที่ 1 – วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ทีมชาติไทย พบกับ จีน
แมตช์เดย์ที่ 2 – วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 (สิงคโปร์-กวม) พบกับ ทีมชาติไทย
แมตช์เดย์ที่ 3 – วันที่ 21 มีนาคม 2567 เกาหลีใต้ พบกับ ทีมชาติไทย
แมตช์เดย์ที่ 4 – วันที่ 26 มีนาคม 2567 ทีมชาติไทย พบกับ เกาหลีใต้
แมตช์เดย์ที่ 5 – วันที่ 6 มิถุนายน 2567 จีน พบกับ ทีมชาติไทย
แมตช์เดย์ที่ 6 – วันที่ 11 มิถุนายน 2567 ทีมชาติไทย พบกับ (สิงคโปร์-กวม)
การแข่งขันรอบคัดเลือกรอบ 2 จะนำทีมแชมป์กลุ่ม และรองแชมป์กลุ่ม รวมจำนวน 18 ทีม จาก 9 กลุ่ม ผ่านเข้ารอบคัดเลือก รอบ 3 และได้สิทธิ์ไปลุยฟุตบอลเอเชียน คัพ 2027 รอบสุดท้าย
โดยการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 จะมีการแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แข่งขัน แบบพบกันหมด (เหย้า-เยือน) อีกครั้ง และนำทีมแชมป์กับรองแชมป์กลุ่ม รวมจำนวน 6 ทีม คว้าสิทธิ์ไปเล่น ฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย ที่แคนาดา, สหรัฐอเมริกา และ เม็กซิโก
ส่วน ทีมอันดับ 3 และ 4 ของแต่ละกลุ่ม รวมจำนวน 6 ทีม จะถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม และแข่งแบบพบกันหมด (นัดเดียวจบหาเจ้าภาพ) และนำแชมป์แต่ละกลุ่ม ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย อีกสองชาติ
ขณะที่ อันดับ 2 ของแต่ละกลุ่มจะต้องมาพบกัน แบบเหย้า-เยือน ซึ่งผู้ชนะจะได้สิทธิ์ไปเพลย์ออฟกับ ทีมจากทวีปอื่น เพื่อชิงตั๋วไปบอลโลก ตามโควต้า 8.5 ชาติของ ทวีปเอเชีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไทยเบฟ'หนุนช้างศึกชิงเจ้าอาเซียน เปิด'อะคาเดมี่'เป็นสนามซ้อม ตั้งเป้าคว้าทองซีเกมส์2025
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ “ไทยเบฟ” ผู้สนับสนุนหลักวงการฟุตบอลไทยมากว่า 25 ปี มุ่งมั่นสร้างรากฐานความยั่งยืนของกีฬาในทุกมิติ ตั้งแต่ระดับเยาวชน ผ่านโครงการต่างๆ พร้อมถ่ายทอดแนวคิด Sportsmanship เพราะ มากกว่ากีฬา คือ น้ำใจนักกีฬา พร้อมส่งทัพช้างศึกฟุตบอลทีมชาติไทยชุด U-23 และสนับสนุนสนามซ้อม “ไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่” ตั้งเป้าทวงบัลลังก์แชมป์ในการแข่งขันมหกรรมกีฬา “ซีเกมส์” ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดย “ไทยเบฟ” ร่วมผลักดันและพัฒนาวงการกีฬาของไทยบนเวทีนานาชาติ ในฐานะ Official Bronze Sponsor


