เหมาลำ491คน นักกีฬาพาราไทยบุกหางโจว ล่าเหรียญเอเชียนพาราเกมส์

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะนักกีฬาพาราทีมชาติไทย ได้ออกเดินทางโดยเครื่องเช่าเหมาลำการบินไทยจากสนามบินสุวรรณภูมิมุ่งสู่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมมหกรรมกีฬาของคนพิการ “เอเชียนพาราเกมส์” ครั้งที่ 4 ที่จะทำการชิงชัยกันระหว่างวันที่ 22-28 ตุลาคม นี้
 
พลตรีโอสถ ภาวิไล เลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย กล่าวว่า ช่วงนี้สภาพอากาศที่หางโจวจะเย็นกว่าที่เมืองไทย จึงขอให้นักกีฬาระมัดระวังเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกาย หากมีอาการผิดปกติก็ให้รีบแจ้งต่อผู้ฝึกสอนหรือแพทย์ประจำทีมทันที และจากที่ได้เยี่ยมชมการฝึกซ้อมของนักกีฬาทั้งที่นครราชสีมา, สุพรรณบุรี, สระบุรี, ลพบุรี ก็เชื่อว่านักกีฬาทุกคนจะสู้อย่างเต็มที่ สามารถทำผลงานได้ดีเพื่อเป็นของขวัญให้กับชาวไทยทุกคน
 
นายไมตรี คงเรือง เลขาธิการสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า นอกจากสภาพอากาศที่เย็นแล้ว เรื่องฝุ่นควันที่หางโจวก็เป็นอีกประเด็นที่ได้กำชับให้นักกีฬาต้องเตรียมตัวป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการเจ็บป่วยก่อนแข่งขัน ซึ่งก็เป็นห่วงอยู่เรื่องนี้เรื่องเดียวสำหรับเอเชียนพาราเกมส์ครั้งนี้
 
ด้าน “เจ้ากร” พงศกร แปยอ  เจ้าของ 4  เหรียญทองวีลแชร์เรซซิ่งในเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่อินโดนีเซีย กล่าวว่า เรื่องความพร้อมสภาพร่างกายไม่มีปัญหา เพราะได้เก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เสร็จสิ้นพาราลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียว จึงมั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดี ส่วนคู่แข่งนั้นก็ยังไม่เห็นนักกีฬาเจ้าภาพ ก็หวั่นๆ อยู่บ้าง แต่ก็ยังตั้งเป้าจะป้องกันทุกเหรียญทองเอาไว้ได้
 
ขณะที่ “เจมส์”วรวุฒิ แสงอำภา นักกีฬาบอคเซียทีมชาติไทย กล่าวว่า ในเอเชียนพาราเกมส์ครั้งนี้ถือว่าค่อนข้างพร้อมเลยทีเดียวเนื่องจากซ้อมมาอย่างเต็มที่ ส่วนคู่แข่งสำคัญต้องบอกว่าทุกชาติเก่งเหมือนกันหมดที่จะลงมาแข่งขันในครั้งนี้ สำหรับถ้าหากชนะตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นความกดดันของตัวเอง ความกลัวของตัวเอง ก็น่าจะผ่านคู่แข่งหลายชาติได้สบาย โดยตั้งเป้าจะทำผลงานให้ดีที่สุด ตั้งเป้าติด 1 ใน 3 ให้ได้ แต่ก็ไม่อยากกดดันมากนัก แต่ก็ชื่อว่าทั้งประเภททีมและบุคคลน่าจะมีเหรียญอย่างแน่นอน
 
ทั้งนี้ พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 อย่างเป็นทางการ จะจัดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม 2566 และพิธีปิดการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2566 ที่สนามหางโจว โอลิมปิก สปอร์ต เซ็นเตอร์ หรือสนามดอกบัวยักษ์ ที่จุผู้ชมได้กว่า 80,000 ที่นั่ง
 
สำหรับทัพนักกีฬาพาราไทย ประกอบด้วยนักกีฬาหญิง 121 คน นักกีฬาชาย 186 คน ผู้ฝึกสอน,แพทย์ประจำทีมและเจ้าหน้าที่ 184 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 491 คน จะลงชิงชัยใน "เอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4" ทั้งสิ้น 22 ชนิดกีฬา ดังนี้
 
ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บอคเซีย, เรือแคนู, หมากรุก, จักรยาน, ฟุตบอล 5 คน, หมากล้อม, โกลบอล, ยูโด, ลอนโบวล์ส, ยกน้ำหนัก, เรือพาย, ยิงปืน, วอลเลย์บอลนั่ง, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์ฟันดาบ และวีลแชร์เทนนิส

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทัพพาราฯเยาวชนไทย ตั้งเป้าคว้า32เหรียญทอง ศึกเอเชียนยูธพาราเกมส์2025ที่ยูเออี

ประเทศไทย เตรียมส่งนักกีฬาพาราเยาวชนทีมชาติไทย ไปเข้าร่วมมหกรรมกีฬาเอเชียนยูธพาราเกมส์ ครั้งที่ 5 วันที่ 7-14 ธันวาคม 2568 ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ชูเยาวชนไทยทำผลงานได้ดีมาตลอด เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ครั้งนี้ประเมินร่วมกับ สมาคมกีฬาที่ดูแลกีฬาคนพิการ ตั้งเป้าคว้า 32 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 14 เหรียญทองแดง

ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ

"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง

ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ

ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา