'ไทยแลนด์ พีจีเอ'จับมือ'ออลไทยแลนด์ฯ' จัด2นัดใหญ่ชิง6ล้าน เก็บแต้มWorld Rank

สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย และ ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 2 องค์กรใหญ่ที่ทำหน้าที่พัฒนาวงการกอล์ฟอาชีพของไทยให้เติบโตในเวทีโลก ประกาศความร่วมมือสร้างนักกอล์ฟอาชีพไทยให้แข็งแกร่งเติบโต ในการแข่งขันระดับเอเชียนทัวร์เพื่อเป็นบันไดสู่การเข้าเล่นในการแข่งขันระดับโลกต่อไป

ซึ่งในปีนี้จะเป็นการร่วมกันจัดแมตซ์การแข่งขัน 2 รายการใหญ่ ชิงเงินรางวัล 6 ล้านบาท ที่สำคัญทั้ง 2 แมตซ์ยังมีคะแนนสะสมอันดับโลก ออฟฟิเชียล เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิง (OWGR) เพื่อให้โปรกอล์ฟคลื่นลูกใหม่ของไทยสามารถเก็บคะแนนสะสมใช้เป็นใบผ่านในการเล่นระดับเอเชียนทัวร์ นับเป็นมิติใหม่ของการทำงานร่วมกันของทั้ง 2 องค์กร

แมตช์โคแซงชั่นระหว่าง ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ และ ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ประเดิมแมตช์แรกในรายการ “สิงห์ บางกอก โอเพ่น 2024” ณ สนามบางกอก กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 5-8 กันยายน 2567 และรายการ “สิงห์-เอสเอที เอ็มบีเค แชมเปียนชิพ”ระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน 2567 ณ สนามลำลูกกา คันทรี คลับ ชิงเงินรางวัลรวม 6 ล้านบาท พร้อมคะแนนสะสมออฟฟิเชียล เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิง

นายพงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศ เผยว่า “ความร่วมมือระหว่าง ไทยพีจีเอ กับ ออลไทยแลนด์ ในครั้งนี้ ส่งผลดีกับนักกอล์ฟอาชีพไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโปรกอล์ฟรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมาสร้างผลงาน สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ แต่ยังขาดแมทช์การแข่งขันที่สามารถเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก เพื่อเป็นบันไดสู่ระดับเอเชียนทัวร์  การร่วมมือกับ ออลไทยแลนด์ สร้างแมตช์โคแซงชั่น ขึ้นมา 2 รายการในครั้งนี้ จึงเป็นประโยชน์อย่างมากกับนักกอล์ฟอาชีพไทยและวงการกอล์ฟอาชีพไทน โดยเฉพาะโอกาสที่ได้ลงเล่นในแมตช์ใหญ่ร่วมกับนักกอล์ฟระดับท็อปของไทย”

นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพฯ ยังกล่าวต่ออีกว่า “การจัดรายการโคแซงชั่น 2 แมตซ์ใหญ่ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแผนการทำงานของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพฯ ที่ต้องการต่อยอดการพัฒนาการเล่นกอล์ฟอาชีพของไทย ให้สามารถเติบโตในต่างประเทศได้ มีคะแนนสะสม อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาแมตซ์การแข่งขันในประเทศ ให้มีเงินรางวัลสูงขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักกอล์ฟทั้งสิ้น”

ทางด้าน นายจักรพงศ์ ทองใหญ่ ประธานกรรมการบริหารออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ เผยว่า “ในโอกาสที่ออลไทยแลนด์ฯ ก่อตั้งมาครบ 25 ปีผมมองว่าเป้าหมายสำคัญของ ออลไทยแลนด์ฯ มีอยู่ข้อเดียว และเป็นข้อสำคัญที่เรายึดมั่นเป็นแนวทางการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คือ “กอล์ฟไทยต้องไประดับโลก” ในการพัฒนาวงการกอล์ฟอาชีพของไทยทั้งระบบ มีหลายอย่างที่เราต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน การมีพันธมิตรร่วมเดินทางสู่เป้าหมาย จะทำให้ภารกิจของเราสำเร็จได้ง่ายขึ้น และผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุด คือ “ประเทศไทย วงการกอล์ฟไทย”

“การร่วมมือกับสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ นอกจากจะมีเงินรางวัลที่สูงขึ้นสำหรับนักกอล์ฟแล้ว ยังเป็นการช่วยให้นักกอล์ฟพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือการเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกซึ่งจะเป็นอีกช่องทางในการกรุยทางสู่เอเชียนทัวร์และเวทีระดับโลกอื่น ๆ ต้องขอบคุณทางนายกสมาคมกอล์ฟอาชีพฯ สำหรับแนวคิดดี ๆ ที่นำไปสู่ความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการทำงานร่วมกันในอนาคต เพื่อเสริมสร้างวงการกอล์ฟอาชีพไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

แมตช์โคแซงชั่นระหว่าง ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ และ ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ทั้งสองรายการจะมีนักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขันรายการละ 144 คน แบ่งเป็นนักกอล์ฟจากแต่ละทัวร์จำนวน 55 คน รวมถึงนักกอล์ฟจากรอบควอลิฟาย ซึ่งการจัดรายการโคแซงชันนี้จะทำให้ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2024 มีรายการชิงชัยเพิ่มเป็น 9 รายการ ชิงเงินรางวัลรวมไม่น้อยกว่า 24 ล้านบาท

ติดตามการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ 2 แมตซ์โคแซงชั่น ได้แก่ รายการ “สิงห์ บางกอก โอเพ่น 2024” ระหว่างวันที่ 5-8 กันยายน 2567 ณ สนามบางกอก กอล์ฟ คลับ และ รายการ “สิงห์-เอสเอที เอ็มบีเค แชมเปียนชิพ” ระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน 2567 ณ สนามลำลูกกา คันทรี คลับ ได้ทาง Facebook - Thailand PGA และ All Thailand Golf Tour

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศึกกอล์ฟ'ไทยแลนด์ โอเพ่น' ครั้งที่52วันที่14-17พ.ย.นี้ ชิงเงินรวม5ล้าน

สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ และบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย "ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 52" ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท

'พีจีเอทัวร์'กับสถิติน่าใจ ในเดือนตุลาคม 'เอชาวาร์เรีย'แชมป์ที่ญี่ปุ่น

“เอชาวาร์เรีย” คว้าแชมป์ที่ญี่ปุ่น การเปลี่ยนกริพพัตเตอร์และการจับไม้พัตเตอร์ใหม่สร้างความแตกต่างให้กับ นิโก้ เอชาวาร์เรีย อย่างเห็นได้ชัด เมื่อโปรกอล์ฟหนุ่มวัย 30 ปีจากโคลัมเบีย ผงาดครองแชมป์โซโซ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศญี่ปุ่นในการลงเล่นครั้งแรก โดยทำเบอร์ดี้หลุมสุดท้าย ในหลุม 18 พาร์ 5 เฉือนชนะ จัสติน โธมัส ดีกรีสองแชมป์เมเจอร์ และแม็กซ์ เกรย์เซอร์แมน ที่จับคู่กับเขาคว้าอันดับ 4 ร่วมในการแข่งขันแบบทีมรายการซูริก คลาสสิค ออฟ นิวออร์ลีน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ศึก'อินเตอร์ฯ ซีรีส์ แรงกิ้ง' ดุเดือด เพื่อสิทธิลุย 'ลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์'

การชิงชัยอันดับในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อมีการประกาศยืนยันให้สิทธิ์นักกอล์ฟที่ทำผลงานใน 32 อันดับแรก เข้าร่วมแข่งขันในศึกลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ปีที่สอง ณ สนามริยาด กอล์ฟ คลับ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อลุ้นตั๋วเข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ฤดูกาลหน้า

'อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์' บริจาคเงินให้มูลนิธิอรุณเจิดจรัส เพื่อเด็กไทยที่ด้อยโอกาส

ฝ่ายจัดการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนให้กับมูลนิธิอรุณเจิดจรัส (Bright Dawn Foundation) จำนวน 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 827,000 บาท เป็นครั้งที่สาม เพื่อสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิในการการพัฒนาชีวิตเด็กไทยในครอบครัวที่มีรายได้น้อยในชนบทของอำเภอหัวหิน ด้วยการสนับสนุนบริการด้านการดูแลสุขภาพ และการสนับสนุนด้านการศึกษาแก่โรงเรียนประถมจำนวน 5 แห่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการบริจาคดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีส์ ไทยแลนด์ ณ สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

กลับมาอีกครั้ง 'สิงห์โอเพ่นจูเนียร์' ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เก่าแก่สุดของไทย

การแข่งขันกอล์ฟรายการ “สิงห์โอเพ่นจูเนียร์” เป็นการแข่งขันกอล์ฟประเภททีมที่ยาวนานที่สุดของประเทศไทย เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกตั้งแต่ปีพ.ศ. 2505 โดย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมมือกับ สโมสรกอล์ฟหลวงหัวหิน จัดการแข่งขันกอล์ฟประเพณีระบบ STABLEFORD  โอเพ่นจูเนียร์ ประเภททีมชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ต่อเนื่องติดต่อกันทุกปีจนถึงปัจจุบันเป็นครั้งที่ 61

'เชห์-โป'พลิกคว้าแชมป์ 'อินเตอร์ฯ ซีรีส์ ไทยแลนด์' โปรไทยดีสุดอันดับ12ร่วม

ลี เชห์-โป นักกอล์ฟจากไต้หวัน พัตต์เบอร์ดี้จากระยะ 15 ฟุตที่หลุมสุดท้าย จบเกมด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 63 รวม 21 อันเดอร์พาร์ 259 เฉือน ปีเตอร์ ยูไลน์ ดาวดังจากลิฟกอล์ฟชาวอเมริกัน เพียงสโตรคเดียว คว้าแชมป์อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้านกัญจน์ เจริญกุล, แดนไท บุญมา, อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ และ รฐนน วรรณศรีจันทร์ เป็นโปรไทยผลงานดีสุดจบอันดับ 12 ร่วมสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 265