"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการแถลงข่าว เปิดตัวการแข่งขันฟุตบอลไทย วีเมนส์ลีก ฤดูกาล 2025 ( Thai Women's League 2025) ภายใต้สโลแกน "บัลลังก์ดอกไม้เหล็ก" ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคารเมืองไทยภัทร เมื่อวันอังคารที่ 28 มกราคม 2568 พร้อมเพิ่มเงินรางวัลมากขึ้น รวมถึงเงินสนับสนุนทั้ง 2 ดิวิชั่น
ฟุตบอลไทย วีเมนส์ลีก จัดขึ้นเป็นฤดูกาลที่ 11 พร้อมแสดงให้เห็นถึงการที่ นายกสมาคมฯ ให้ความสำคัญกับ ฟุตบอลหญิงมากขึ้น เมื่อมีการเพิ่มเงินรางวัล โดยทีมแชมป์ดิวิชั่น 1 จากเดิม 500,000 บาท เป็น 600,000 บาท , เงินสนับสนุนจากเดิมสโมสรละ 150,000 บาท เป็น 500,000 บาทรวมค่าเดินทาง รวมถึงทีมในดิวิชั่น 1 จะมีเงินรางวัลให้ ตั้งแต่อันดับ 1-6 จากเดิมแค่ 3 อันดับแรก เช่นเดียวกับ ทีมในดิวิชั่น 2 เพิ่มเงินสนับสนุนจากเดิม 100,000 บาท เป็น 300,000 บาทรวมค่าเดินทาง
ขณะที่ภายในงาน "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า “วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 จะครบ 1 ปี ที่ แป้ง เข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ สิ่งหนึ่งที่ แป้ง ตั้งใจมาตลอด คือ อยากเห็น ฟุตบอลหญิงไทย กลับสู่เวทีระดับโลก และ เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมา ในช่วงที่ แป้ง ทำหน้าที่ผู้จัดการทีม เราเคยไปฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 2015 ที่ประเทศแคนาดา และ ปี 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะกลับไปยืนบนจุดสูงสุดได้ แต่ แป้ง เชื่อมั่นในพลังของผู้หญิง และ ถ้าทุกภาคส่วนช่วยกัน เรามีโอกาสทำได้อีกครั้ง”
“ที่ผ่านมา สมาคมฯ เริ่มทำงานหนักในเรื่องนี้มาโดยตลอด ประกาศปักหมุดแคมเปญ “Road to Brazil 2027” ตั้งแต่การเฟ้นหานักเตะลูกครึ่งหญิงจากทั่วโลกเข้ามาเสริม และ แต่งตั้ง ฟูโตชิ อิเคดะ อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น เข้ามาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมทีมงานผู้ช่วยโค้ชจากญี่ปุ่นอีก 2 ราย เพื่อแสดงให้เห็นว่า ในฐานะนายกสมาคมฯ แป้ง มีความตั้งใจจริง ที่จะพา ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย กลับสู่ฟุตบอลโลกอีกครั้ง เป็นสมัยที่ 3”
“โดยปีนี้ เป็นอีกหนึ่งปีที่สำคัญมากที่สุด เพราะในช่วงเดือน มิถุนายน 2568 เราจะเข้าสู่การคัดเลือกฟุตบอลโลก และ เพื่อให้การเตรียมทีมของ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชพร้อมมากที่สุด เราจึงได้ผลักดัน การแข่งขัน ฟุตบอลไทย วีเมนส์ลีก ในฤดูกาลนี้เต็มที่ เพื่อให้การแข่งขันมีคุณภาพ และ ความเข้มข้นมากที่สุด ทั้งการเพิ่มเงินสนับสนุน ทั้ง 2 ดิวิชั่น โดยดิวิชั่น 1 จากเดิม 150,000 บาท เป็น 500,000 บาท รวมค่าเดินทาง และ เพิ่มเงินรางวัลทีมแชมป์จากเดิม 500,000 บาท เป็น 600,000 บาท เช่นเดียวกับ ทีมในดิวิชั่น 2 เพิ่มเงินสนับสนุนจากเดิม 100,000 บาท เป็น 300,000 บาท รวมถึง แป้ง ยังได้ทำการ MOU กับทางซาอุดีอาระเบีย ภายใต้ความร่วมมือ พัฒนาฟุตบอลหญิง ร่วมกัน ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะเราเชื่อว่า เมื่อไหร่ก็ตาม ที่การแข่งขันลีก หรือ รากฐานแข็งแรง ทีมชาติไทย ก็จะได้ประโยชน์ และ แข็งแกร่งตามไปด้วย”
“สุดท้ายนี้ ในฐานะนายกสมาคมฯ แป้ง หวังว่าการแข่งขัน ฟุตบอลไทย วีเมนส์ลีก ในฤดูกาล 2025 จะเป็นอีกหนึ่งปี ที่ทุกสโมสร ทั้งดิวิชั่น 1 จำนวน 8 ทีม และ ดิวิชั่น 2 จำนวน 8 ทีม ช่วยกันผลิต และ สร้างนักเตะขึ้นสู่ ทีมชาติไทย ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นตัวเลือกของทีมงานสตาฟฟ์โค้ช และ เพื่อเป้าหมายเดียวกัน กับ แคมเปญ “Road to Brazil 2027” ขอให้ทุกสโมสรโชคดี และ ที่ขาดไม่ได้ แป้ง ฝากแฟนบอลชาวไทย ให้การสนับสนุน วงการฟุตบอลหญิงด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
สำหรับ การแข่งขันฟุตบอล ไทยวีเมนส์ลีก ฤดูกาล 2025 แบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ ดิวิชั่น 1 และ ดิวิชั่น 2 โดยรูปแบบการแข่งขัน จะแข่งขันแบบเหย้า-เยือน พบกันหมด โดยจะเริ่มการแข่งขันแมตช์เดย์แรก ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ทุกนัดจะมีการถ่ายทอดสด ผ่านทาง Facebook และ YouTube: Thai Women's League
โดย 8 สโมสรในระดับดิวิชั่น 1 ประกอบด้วย บีจีซี-บัณฑิตเอเซีย (แชมป์เก่า), สโมสรกรุงเทพมหานคร, สโมสรฟุตบอลหญิงจังหวัดชลบุรี, สโมสรมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เอฟซี, สโมสรโรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี, สโมสรสุรินทร์ หินโคน ยูไนเต็ด, สโมสรโรงเรียนกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช, สโมสรแอลพีจีเอสเอส เขลางค์ยูไนเต็ด ทุกทีมจะได้รับเงินสนับสนุนสโมสรละ 500,000 บาท, ทีมแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 600,000 บาท และสิทธิในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล AFC Women's Champions League ฤดูกาล 2025/26 รอบคัดเลือก ส่วนรองแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 450,000 บาท, อันดับ 3 เงินรางวัล 300,000 บาท ,อันดับ 4 เงินรางวัล 150,000 บาท,อันดับ 5 เงินรางวัล 75,000 บาท และ อันดับ 6 เงินรางวัล 50,000 บาท ส่วน 2 ทีมอันดับสุดท้าย จะต้องลงไปเล่น ในดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2026
ขณะที่ 8 สโมสรในระดับดิวิชั่น 2 ประกอบด้วย สโมสรโรงเรียนกีฬาจังหวัดขอนแก่น, สโมสรโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร, สโมสรนครสวรรค์ เอฟซี, สโมสรฟุตบอลหญิงพระนคร, สโมสรฟุตบอลหญิงศรีสะเกษ, สโมสรพีทียู ท่าโขลง, สโมสรบีอาร์ยู บุรีราษฎร์ อะคาเดมี, สโมสรอาม่าแอนด์มาสุข ทวีวัฒนา เอฟซี ทุกทีมจะได้รับเงินสนับสนุนสโมสรละ 300,000 บาท ขณะเดียวกันทีมแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 150,000 บาท และสิทธิในการเลื่อนชั้นไปเล่นในระดับ ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2026 ต่อไป เช่นเดียวกับทีมรองแชมป์ จะได้รับเงินรางวัล 75,000 บาท และ อันดับ 3 เงินรางวัล 50,000 บาท ส่วน 2 ทีมอันดับสุดท้าย จะต้องไปเล่นในรอบคัดเลือกของฤดูกาล 2026 ต่อไป
