'อิชิอิ'ชมอิรักเกมรุกหลากหลาย ไทยอันดับโลกเป็นรอง แต่เป้าหมายแชมป์'คิงส์คัพ'

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ) กับ ทีมชาติอิรัก ในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน นี้ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (สนามกลีบบัว) ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 11.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ได้จัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอล คิงส์ คัพนัดชิงชนะเลิศ 
 
การแถลงข่าวครั้งนี้นำโดย “มาซาทาดะ อิชิอิ” หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมด้วย “ณัฐพงษ์ สายริยา” กองหลังทีมชาติไทย ส่วนอิรัก นำมาโดย “เกรแฮม อาร์โนลด์” หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ “เรบิน ซูลาก้า” ดาวเตะทีมชาติอิรัก
 
โดยทาง “มาซาทาดะ อิชิอิ” หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า "ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณทางทีมชาติอิรัก ที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ทั้งสตาฟโค้ชรวมถึงทีมงานทุกท่าน อีกอย่างก็คือทาง เกรแฮม อาร์โนลด์ เฮดโค้ชของอิรัก ก็เคยเล่นและคุมทีมในเจลีก ซึ่งก็ได้ทราบเรื่องเราของเขามาเป็นอย่างดี ขณะที่ตัวของ เรบิน ซูลาก้า ก็เคยทำงานร่วมกันมาในประเทศไทย ผมก็รู้สึกดีใจที่ได้เจอกับทั้งสองอีกครั้ง"
 
"ความดีใจที่เราได้เจอกับอิรักในทัวร์นาเมนต์นี้ ด้วยอิรัก มีแรงค์กิ้งที่ดีกว่าเรา จากที่คุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่าเป้าหมายของเราคือการชนะทั้งสองเกม ในทัวร์นาเมนต์นี้แล้วเป็นแชมป์ให้ได้ ก็จะพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นแชมป์ในทัวร์นาเมนต์นี้ให้ได้ พูดถึงเรื่องสถิติไม่ว่าเราจะเจอทีมไหนก็แล้วแต่ ที่ผ่านมา ผมก็ไม่ได้ให้ความสนใจสักเท่าไหร่ เพราะปัจจุบันคือปัจจุบัน ส่วนเรื่องการเตรียมทีม เราก็เตรียมเต็มที่แม้จะมีเวลาน้อย อย่างอิรัก มีเกมรุกที่ค่อนข้างหลากหลาย ส่วนเกมรับ ก็มีจำนวนคนมาช่วยเหลือ ด้วยระยะเวลาอันสั้น ในการซ้อม ก็พยายามแก้ไข ด้วยการเปิดอนิเมชั่น หรือวีดีโอ เพื่อให้นักฟุตบอลเข้าใจก่อนลงสนามไปเจอกับ อิรัก"
 
"ณ ตอนนี้ อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น บอกไม่ได้ว่านักฟุตบอลทำได้ไม่ดี ผมก็ต้องประเมินว่าจะส่งนักเตะเป็น 11 ตัวจริงหรือส่งลงไปเป็นตัวสำรองในบางสถานการณ์เพื่อจะใช้นักเตะในสถานการณ์นั้น เราเองก็พยายามเตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมด ในสถานการณ์ที่หากจบเกมแล้วเสมอกัน แล้วต้องยิงจุดโทษ"
 
ด้าน “ณัฐพงษ์ สายริยา” กองหลังทีมชาติไทย กล่าวว่า "อิรักเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่พรุ่งนี้พวกเราเต็มที่แน่นอน และก็จะเก็บชัยชนะไว้ในประเทศไทยแน่นอน พวกผมก็ได้เตรียมพร้อม เช่นเดียวกับสตาฟโค้ช เพื่อรับมือกับอิรักให้ได้ ฝากแฟนบอลชาวไทยทุกคน และชาวกาญจนบุรี ด้วยนะครับ มาช่วยส่งเสียงเชียร์ให้ทีมชาติไทย พวกผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตลอด 90 นาที ขอบคุณครับ"
 
ขณะที่ “เกรแฮม อาร์โนลด์” หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติอิรัก กล่าวว่า "ขอบคุณสำหรับโอกาสในการมาที่นี่อีกครั้ง เป้าหมายของเราตั้งแต่แรกคือการได้เล่นสองเกมคุณภาพในทัวร์นาเมนต์นี้ การได้เจอกับทีมชาติไทย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเรา ในการเตรียมความพร้อมเพื่อจะเจอกับ อินโดนีเซีย ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ในช่วงเดือนตุลาคม ทีมชาติไทย ก็เป็นทีมที่ดี และโซนเดียวกับ อินโดนีเซีย และมีแรงกิ้งที่สูงกว่า เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่สนุก และเราก็พร้อมสำหรับเกมวันพรุ่งนี้"
 
"สภาพทีมจากเกมแรก เราได้ใช้อีกชุดลงสนาม แต่คนที่เหลือก็พร้อมเต็มที่ เราต้องมองไปถึงช่วงเวลาอีกประมาณ 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้พร้อมที่สุดในฟีฟ่า เดย์ เดือนตุลาคม ครั้งนี้เราก็ต้องส่งนักเตะบางคนลงไปบ้าง เพื่อเป็นการทดสอบนักเตะใหม่บางคนในทีมของเรา"
 
"สถิติไม่เคยโกหก เรามีโอกาสยิงมากถึง 24 ครั้งในเกมที่พบกับ ฮ่องกง ซึ่งเกมที่ผ่านมา ก็มีเรื่องของสภาพจิตใจที่เราแสดงให้เห็นว่า เราโดนนำก่อน 1-0 ก็จริงแต่นักเตะยังแสดงออกได้น่าประทับใจ เกมนี้จะเป็นเกมใหญ่ สภาพจิตใจก็อาจจะแตกต่างออกไป เราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เกมล่าสุด เราโดนนำก่อน แต่ตีเสมอได้ในเวลาแค่ 2 นาที และครองเกมจนจบเกม ในเกมกับไทย ในวันพรุ่งนี้จะเป็นโอกาสที่เราจะได้ ทดสอบเกมรุกของทีม ซึ่งพวกเรามีทักษะ เทคนิค ที่ดี การมีสิ่งนี้มันไม่เพียงพอ แต่ต้องใช้ให้ถูกต้อง แน่นอนว่าจิตใจของทีมคือทุกอย่าง"
 
ส่วน “เรบิน ซูลาก้า”  นักเตะทีมชาติอิรัก กล่าวว่า "ผมคาดหวังว่าวันพรุ่งนี้เราจะลงสนามไปเพื่อคว้าชัยชนะ และจะทำได้ดีทั้งสองครึ่งของเกมการแข่งขัน นี่คือการเตรียมความพร้อมสำหรับโปรแกรมในเดือนตุลาคม แน่นอนว่าเราพร้อมที่จะเอาชนะเกมนี้ และแสดงฟอร์มการเล่นที่ดีกว่าออกมา"
 
"ถือเป็นเรื่องดี ที่ได้มาเก็บตัวกับทีมชาติอิรัก พวกเรากำลังมองไปถึงฟีฟ่า เดย์ ในเดือนตุลาคม ที่ต้องเจอกับ อินโดนีเซีย ในเกมแรก และมีเวลาแค่ 72 ชั่วโมง ในการเจอกับ ซาอุดีอาระเบีย เราจะต้องเรียนรู้กับมีเวลาพักที่น้อย ก็จะได้เรียนรู้จากทัวร์นาเมนต์นี้ หวังว่าพวกเราจะมีความสุขจากเกมในวันพรุ่งนี้ และเป็นเกมที่ดีสำหรับทั้งสองฝ่าย ฝากแฟนบอลทั้งที่สนามและทางบ้าน พวกเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนมีความสุข"
 
สำหรับ ทีมชาติไทย จะทำการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 รอบชิงชนะเลิศ พบกับ อิรัก ทีมอันดับ 58 ของโลก ณ สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) ในวันที่ 7 กันยายน 2568 เวลา 20.00 น. ถ่ายทอดสดทาง Thairath TV ช่อง 32, YouTube : BG Sports และ True Visions NOW 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตา! ถกอาเซียนนัดพิเศษ มีอะไรในกอไผ่

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "มีอะไรในกอไผ่" โดยระบุว่า

เสธ ทบ. เผยพบร่างทหาร 2 นาย เหตุปะทะพื้นที่ปราสาทตาควาย 'เนิน 350' แล้ว

พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการปะทะในพื้นที่ปราสาทตาควาย และบริเวณเนิน 350 จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนั

โคราชเดือด! ถล่มยิงเป้าผู้นำเขมร

สโมสรกีฬายิงธนูโคราชเปลี่ยนเป้าซ้อมเป็นรูปผู้นำกัมพูชา ทั้งฮุน เซน–ฮุน มาเนต รวมถึงโฆษกกองทัพและอินฟลูเอนเซอร์เขมร ลูกค้าแห่ทดลองยิง ระบุเป็นกิจกรรมผ่อน

ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ

โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ

ทภ.2 สรุปชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเป็นระยะ โดรนฝ่ายตรงข้ามหนาแน่น

กองทัพภาคที่ 2 รายงานภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบการปะทะต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ฝ่ายตรงข้ามใช้งานโดรนและอาวุธหนักหนาแน่น ขณะฝ่ายไทยยิงตอบโต้ทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะได้หลายครั้ง สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุม

ทภ.2 มีหลักฐานเขมรละเมิดอนุสัญญาเจนีวา-กฎหมายมนุษยธรรม 3 ประการ

กองทัพภาคที่ 2 เปิดข้อมูลการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด 13 วัน ระบุพบพฤติกรรมทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ชี้ชัดการใช้โบราณสถานเป็นฐาน การดึงพลเรือนร่วมปฏิบัติการ และการนำพลเรือนเข้าสู่พื้นที่การรบ