
ขุนพล “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2026 อย่างเป็นทางการ หลังเปิดบ้านไล่ถล่ม ยูเครน ขาดลอย 4-0 เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ “ฝอยทอง” ทีมชาติโปรตุเกส ยังต้องรอลุ้นถึงนัดหน้า หลัง คริสเตียโน โรนัลโด หัวหอกกัปตันทีมถูกไล่ออก ก่อนจะบุกแพ้ ไอร์แลนด์ 0-2
ชัยชนะของทีม “ตราไก่” เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเศร้า ที่สนามปาร์ค เดส์ แปรงค์ส เริ่มเกมด้วยพิธียืนไว้อาลัย 1 นาที ครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์วางระเบิดที่กรุงปารีส วันที่ 13 พ.ย.2015 ผู้เสียชีวิตส่วนมากจาก 130 คน อยู่ที่บาลาคล็อง ฮอลล์ ขณะชมคอนเสิร์ต
แต่ 1 คน เสียชีวิตใกล้ สตาด เดอ ฟรองซ์ ตั้งอยู่ตอนเหนือของชานเมืองปารีส แซงต์-เดนิส ซึ่งเกิดเหตุระเบิดต่อเนื่อง ขณะที่มือระเบิดพลีชีพพยายามเข้าสนาม ระหว่างเกมอุ่นเครื่องของ ฝรั่งเศส พบ เยอรมนี โดย ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส ยังคงเป็นโค้ชทีมชาติจนถึงปัจจุบัน
ประตูครึ่งหลังของ คีเลียน เอ็มบัปเป นาที 55 (จุดโทษ) กับ นาที 83 และไมเคิล โอลิเซ นาที 76 บวกกับ ฮูโก เอกิติเก นาที 88 ทำให้ ฝรั่งเศส การันตีจบจ่าฝูงกลุ่มดี เก็บเพิ่มเป็น 13 แต้ม จาก 5 นัด ทิ้งห่าง ไอซ์แลนด์ กับ ยูเครน 6 แต้ม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปูตินพบกับวิตคอฟฟ์และคุชเนอร์ในมอสโก ผู้นำเครมลินขู่ยุโรป
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้การต้อนรับ สตีฟ วิตคอฟฟ์-ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ที่กรุงมอสโกเมื่อเย็นวันอังคาร ภาพที่ออกอากาศทางทีวีของรัสเซียแสดงให้เห็นว่า จาเร็ด คุชเนอร์-ลูกเขยและที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าร่วมการประชุมที่เครมลินด้วย
เซเลนสกีและแอร์โดอัน พยายามจะรื้อฟื้นการเจรจา
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรเกีย ประชุมหารือกันเมื่อวันพุธ เพื่อพยายามรื้อฟื้นการเจรจาหยุดยิงในสงครามยูเครน


