เทควันโดไทยกวาดรวม 10 ทองซีเกมส์ มากที่สุดใประวัติศาสตร์

ทัพเทควันโดไทยเก็บเพิ่ม 3 เหรียญทอง ในการแข่งขันวันสุดท้ายของเทควันโด ปิดฉากรวม 10 เหรียญทอง ครองเจ้าเทควันโด กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม

ก่อนหน้านี้ไทยได้มาแล้ว 7 เหรียญทอง จากประเภทต่อสู้ 6 เหรียญ และพุมเซ่ 1 เหรียญ มาวันสุดท้ายของเทควันโดได้มาอีก 3 เหรียญทอง

รุ่น 53 ก.ก.หญิง รอบชิงชนะเลิศ “แนท”ชุติกาญจน์ จงกลรัตนวัฒนา รอบชิงชนะเลิศ ชนะ เหวียน ธิ ลวน จากเวียดนาม 2-0 ยก 7-6, 8-6

รุ่น 62 ก.ก.หญิง “ใบเตย” ศศิกานต์ ทองจันทร์ แชมป์เก่า สามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ โดยในรอบชิงชนะเลิศ ชนะ เมริก้า ลิลลิน ชาน จากฟิลิปปินส์ 2-0 ยก 12-0, 13-2

รุ่น 63 กก.ชาย “บิว” ธนภูมิ เฟื่องน้อย นักเทควันโดดาวรุ่งไทยวัย 17 ปี ที่ลงแข่งซีเกมส์ครั้งแรก แต่อาศัยรูปร่างที่สูงใหญ่ เอาชนะ เคนเนธ ไรลีย์ บูเอนาบิเดส จาฟิลิปปินส์ ในรอบชิงชนะเลิศ 2-0 ยก 16-4, 13-11 คว้าเหรียญทองที่ 10 ปิดท้ายให้เทควันโดไทยได้อย่างสุดยอด

ส่วนรุ่น 57 กก.หญิง “นก”พรรณนภา หาญสุจิน แพ้ให้ ตรัน ธิ อานห์ ตูเวต จากเวียดนาม 1-2 ยก 2-7, 13-13, 3-8 ให้พรรณนภาได้เหรียญเงิน

สรุปผลงานเทควันโดประเภทต่อสู้ไทยในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ได้ 9 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 ทองแดง เมื่อรวมกับประเภทท่ารำเป็น 10 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 ทองแดง ครองเจ้าเหรียญทองกีฬาเทควันโดซีเกมส์ ได้อีกสมัยตามเป้าที่วางไว้

“บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ซีเกมส์ครั้งนี้ เทควันโดไทยได้มา 10 เหรียญทอง เป็นการคว้าเหรียญรางวัลมากที่สุด เพราะก่อนหน้านี้ไทยเป็นชาติที่ได้เหรียญทองมากที่สุดในเทควันโด 7 เหรียญทอง ในซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2550 แต่ครั้งนี้มีนักกีฬาไทยทั้งหมด 14 คนปรากฏว่าได้เหรียญมาครองได้ 13 คน พลาดเหรียญเพียงคนเดียวเท่านั้น

ผศ.พิมลกล่าวอีกว่า การที่เราเป็นเจ้าภาพไม่ได้มีผลทำให้ได้เหรียญเยอะ เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีของเทควันโดไปได้ไกลมาก การให้คะแนนเป็นเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด อุปกรณ์ที่ใช้ได้มาตรฐานระดับสากล พุมเซ่ที่ใช้สายตาตัดสินเราได้แค่ 1 เหรียญทองเท่านั้น เห็นได้ชัดการตัดสินมีความเป็นธรรมแน่นอน