
11 เม.ย.2566 – น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น ผู้สมัคร ส.ส. เขต 12 กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าได้ปราศรัยโจมตีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เป็นการบิดเบือน ใส่ร้าย เพราะนโยบายที่พรรค พท.นำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สนับสนุนการเกณฑ์ทหาร เป็นระบบสมัครใจนั้น ขอยืนยันว่าประเด็นการเกณฑ์ทหารเป็นการปราศรัยในภาพรวม ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นนโยบายของพรรคใด โดยสะท้อนให้เห็นว่ากำลังพลของทหาร มีบทบาทและหน้าที่สำคัญนอกเหนือจากปกป้องอธิปไตยแล้ว ยังต้องทำหน้าที่ปกป้องอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มาในรูปแบบค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ เนื่องจากพื้นที่ชายแดนมีอาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ยังพบการลักลอบ ยาเสพติด และแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายเข้ามาจำนวนมาก เนื่องจากไทย เป็นประเทศมีเศรษฐกิจที่เติบโต มีความสงบ จำเป็นต้องอาศัยกำลังพลทหารปกป้องประชาชนคนไทย ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากภัยร้ายแรงจากอาชญากรรม
“การพูดถึงนโยบายนี้ของนายชัยวุฒิ ไม่ได้วิจารณ์เจาะจงเฉพาะพรรคเพื่อไทย เเต่พูดในภาพรวมเพื่อเเสดงจุดยืนว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่สนับสนุนการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เเต่อยากให้คงไว้เพื่อการฝึกความรักชาติเเละความเสียสละให้กับคนรุ่นใหม่ หากออกมาจะออกมาตอบโต้ ประเด็นนี้ อยากให้ ย้อนกลับไปดูการขึ้นเวทีดีเบตของคนพรรคเพื่อไทยเอง ที่เคยระบุว่า อาจจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งได้ปรากฏข้อความดังกล่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ที่ได้นำเสนอข่าวออกไปแล้ว แบบนี้ จะบอกว่าทางพรรคพลังประชารัฐ ตั้งใจบิดเบือนข้อเท็จจริงนั้น ไม่เป็นความจริง”
ส่วนกรณีที่นายอนุสรณ์ บอกว่า นายชัยวุฒิ พาดพิงการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของ พท. ซึ่งระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นตัวจริง ส่วนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นเพียงตัวหลอก เพื่อเรียกคะแนนนั้นนิยมนั้น ต่อกรณีดังกล่าว น.ส.นพวรรณ ยืนยันว่า การที่นายชัยวุฒิ กล่าวถึงแคนดิเดตนายกฯ พท. ตัวจริง หรือ ตัวหลอกนั้น ไม่ใช่เป็นการกล่าวพาดพิงเรื่องภายในพรรคอื่น แต่เป็นการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ จากบทบาทของแต่ละคน ที่ได้แสดงให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง เพราะอย่าลืมว่า คนที่ห่วงใยและสนใจปัญหาบ้านเมือง ย่อมเลือกผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ โดยไม่สนใจว่า “คุณจะลูกหรือญาติ ใครอีกต่อไป” สุดท้ายจึงมีชื่อนายเศรษฐา มาประกบเป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งคนส่วนใหญ่เชื่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ “ตัวจริง”
“ในฐานะที่เราเป็นนักการเมือง และอยู่ระหว่างการเลือกตั้ง การวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของพรรคการเมืองที่เป็นคู่แข่ง จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่พรรคการเมืองทั่วไปกระทำกัน และขอยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการหาเสียงใส่ร้าย หรือบิดเบือนใด ๆ ทั้งสิ้น” น.ส.นพวรรณ กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล
"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ
'สุชาติ' นัดเคลียร์ 'สนธยา' แบ่งโซนส่ง 10 ผู้สมัคร สส.ชลบุรี ลั่นเขต 1 ขอลงเอง
"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ ภท. เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา
‘เฉลิม’ ยืนยันลาออกพ้นเพื่อไทย เตรียมย้ายซบพลังประชารัฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เผยเซ็นลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว เตรียมยื่น กกต. วันที่ 3 ธ.ค. ย้ำเป็นเหตุผลทางการเมือง ไม่มีการแจ้งแพทองธาร และยังไม่ได้คุยกับวัน อยู่บำรุง ก่อนประกาศชัด
‘สุรเดช’ รับคำสั่ง ‘ลุงป้อม’ คุมภาคเหนือ ลั่นสู้ศึกเลือกตั้งด้วยผู้สมัครเกรด A
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือว่า ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ดูแล


