อนุทิน ลั่น ‘แหลงแล้วทำ’ ชูภูเก็ตศูนย์กลางดูแลสุขภาพของโลก

‘อนุทิน’ ปราศรัยเสนอนโยบายเด่นพรรคภูมิใจไทย   ขอชาวภูเก็ตเลือกภูมิใจไทยพัฒนาประเทศไทย สร้างรายได้เข้าประเทศ

24 เม.ย.2566-ที่จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ดร.นที รัชกิจประการ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม  นายศุภชัย ใจสมุทร  นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์  เปิดเวทีปราศรัยแนะนำผู้สมัครส.ส. จังหวัดภูเก็ตทั้ง 3 เขตของพรรคภูมิใจไทยและผู้สมัครสสบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย โดยมีชาวภูเก็ตเข้าร่วมฯ จำนวนกว่า 1,000 คน ณ โรงยิมเนเซียมอาคาร 4,000 ที่นั่งสะพานหิน  อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต

นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทย ได้รับการขนานนามจากพ่อแม่พี่น้องแล้วว่าเราเป็นพรรคที่พูดแล้วทำ ไม่ใช่เป็นพรรคที่เราคิดขึ้นมา คำว่าพูดแล้วทำ  มาจากพ่อแม่พี่น้อง ที่ไปไหนมาไหน ได้ยินชาวบ้านพูดว่า ดีมากอนุทินภูมิใจไทยพูดแล้วทำตั้งแต่วันนั้นจึงใช้คำว่าพูดแล้วทำมาแปะหน้าผากมาแปะหลัง เป็นการเตือนใจตัวเองเตือนสติตัวเองว่านี่คือความรู้สึกของชาวบ้านประชาชนต่อพรรคภูมิใจไทย คนที่เข้ามาอยู่ร่วมกับพรรคภูมิใจไทยต้องพูดแล้วทำหรือภาษาใต้ว่า “แหลงแล้วทำ”

” ขอยืนยันว่า ผู้สมัครส.สจังหวัดภูเก็ตพรรคภูมิใจไทยทั้ง 3 เขต ตราบใดที่พ่อแม่พี่น้องจำเบอร์หวยแทงหวยได้เบอร์ผู้แทนต้องจำได้ เขต 1 นิพนธ์ เอกวานิชเบอร์ 3 เขต 2 วงศกร ชนะกิจ เบอร์ 5 เขต 3  วิวัฒน์จินดาพล เบอร์ 9 และเบอร์ 4 ปาร์ตี้ลิสต์พรรคภูมิใจไทย  ชลัฐ รัฐกิจประการ ผู้สมัครส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย”

นายอนุทินกล่าวว่า นโยบายเด่นของภูมิใจไทย ได้แก่ นโยบายพักหนี้ 3 ปีหยุดต้นปลอดดอกเบี้ย และประเทศไทยมีผู้สูงอายุจำนวนเยอะมาก   นโยบายสำหรับผู้สูงอายุฟรีกองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป เสียชีวิตได้ 100,000 บาทกู้ได้ 20,000 บาท นโยบายเพิ่มรายได้ลดรายจ่าย นโยบายฟรีโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า บ้านละ 450 บาทต่อเดือน  นโยบายฟรีดื่มน้ำสะอาด ติดตั้งเครื่องกรองน้ำทุกหมู่บ้าน นโยบายรักษาฟรีเครื่องใช้รังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ

พวกเราตั้งใจให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางเป็นศูนย์พยาบาลศูนย์ดูแลสุขภาพของโลก จะมีชาวต่างประเทศเข้ามาพักฟื้นดูแลสุขภาพท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามในภูเก็ต เมื่อเขามาซ่อมมาสร้างสุขภาพจะเกิดการลงทุนเข้ามามากมายในจังหวัดภูเก็ตพวกเราก็จะกระเป๋าตุงประเทศจะได้ภาษีจากรายได้ของการค้าขายประเทศจะมีเงินจากต่างประเทศเข้ามา ในบ้านเมืองของเรา และต่อไปภูเก็ตจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวศูนย์กลางการจัดนิทรรศการ อีกมากมาย โอกาสที่ ประชาชนจะทำมาหากินมีมากกว่าจังหวัดอื่นๆ เราไม่ได้พึ่งพาท่องเที่ยวอย่างเดียวพรรคภูมิใจไทยจะทำโครงการสะพานเชื่อมเพื่อขนส่งสินค้า ระหว่างทะเลอันดามันและอ่าวไทย กับโครงการแลนด์บริดจ์ ระหว่างชุมพรและระนอง พัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าของโลก

ที่ผ่านมาเคย บอกว่าด้ามขวานของพวกเรา เป็นด้ามขวานปิดทอง  แต่ ต่อไปนี้จะไม่ใช่ ด้ามขวานปิดทองแล้วจะเป็นด้ามขวานที่เป็นทองแท่งทุกอย่างอยู่ที่ด้ามขวาน ของประเทศไทยด้วยความจำเป็นของสถานการณ์โลก และ ประเทศไทย ไม่มีปัญหาสงครามไม่มีปัญหาความแตกแยกชนกลุ่มน้อยชนกลุ่มใหญ่และทั้งโลกนี้เขาบอกว่า 10 ปีจากนี้ไป ศูนย์กลางเศรษฐกิจศูนย์กลางความเจริญจะอยู่ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย ดังนั้นเราต้องเตรียมตัว ถ้าไม่เตรียมอีกหน่อยคนต่างชาติเข้ามารวยกว่าพวกเราเรายอมไม่ได้ คนที่จะทำมาหากินในประเทศไทย ที่มีโอกาสมากขนาดนี้ประโยชน์ทั้งหมดต้องอยู่กับคนไทย ไม่ใช่คนต่างชาติ คนที่เข้าใจเรื่องนี้ดีมากที่สุดคือพรรคภูมิใจไทย

รับรองว่า ถ้าให้พรรคภูมิใจไทยกลับเข้ามาทำงานเป็นรัฐบาล เราจะตอกเสาเข็มร่วมกัน ทำให้ประเทศไทยยิ่งใหญ่เจริญ ไม่มีวันสิ้นสุด นี่คือ สิ่งที่อยากจะขอโอกาสกับพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจังหวัดภูเก็ต ไม่น่าห่วงเท่าจังหวัดอื่นๆ แต่จังหวัดอื่นๆเราทำไว้หมดแล้ว แล้วจะเป็นจังหวัดที่ประกอบกัน จะไม่มีการแย่งกันทำมาหากิน จะมีสะพานเชื่อม 2 ชายฝั่งทะเลและโครงการที่สำคัญอีกมาก การพัฒนาถนน พัฒนาให้เกิดทางรถไฟซุปเปอร์ไฮเวย์ ไม่ทำลายการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม