เลขาฯ ปชน. สุดมั่นใจกวาดครบทุกเขต 33 พื้นที่กรุงเทพฯ ใกล้เลือกตั้ง 'เท้ง' คะแนนพุ่ง

เลขาฯพรรคประชาชน มั่นใจ กวาดครบ 33 พื้นที่ กทม. แม้ผลโพลความนิยมพรรคประชาชนลดลง เหตุ หนุน "อนุทิน-ปัญหาชายแดน" เชื่อ เวลาที่เหลือสมามรถชี้แจงได้ โว ใกล้เลือกตั้ง "เท้ง" เจิดจรัสคะแนนนิยมพุ่งแน่ ปัดตอบจุดยืน 112 ห่วงขัดศาล รธน. ชี้ "ณัฐพงษ์" ยังไม่ปิดโอกาสจับมือ 100% แต่ต้องการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้าน"กาย" ยัน คว้าชัยกทม.ได้แน่นอน

20 ธันวาคม 2568 - นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวถึงความมั่นใจในกระแสของพรรคประชาชนจะได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ในพื้นที่กทม. หรือไม่ ว่า ตนมั่นใจว่าจะสามารถรักษาพื้นที่กทม.ได้เป็นอันดับ 1 จากการดูข้อมูลต่าง ๆ ความนิยมของพรรคประชาชนในกทม. ก็ยังเป็นอันดับ 1 อยู่ รวมถึงกระบวนการคัดสรรผู้สมัครที่ผ่านมา ทั้งคนใหม่และคนเดิมก็ยังทำงานอย่างมุ่งมั่นได้รับการยอมรับจากประชาชน ซึ่งยังมั่นใจในทั้ง 33 เขตที่น่าจะได้ทั้งหมดในรอบนี้

ส่วนผลโพลที่ความนิยมของพรรคประชาชนลดลงจากการยกมือให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงไม่มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาช่วยดึงดูดคะแนน พรรคประชาชนจะทำอย่างไรนั้น นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า จากผลโพลที่ลดลงหลายคนกังวลว่าจะทำให้เราพ่ายแพ้หรือไม่ แต่ถ้าสังเกตให้ดีคะแนนที่ลดลงไม่ได้ไปอยู่ฝั่งไหน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ หมายความว่าในช่วงระยะเวลาที่เหลือประมาณ 50 วัน เราสามารถรณรงค์ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนได้ และเชื่อว่าประชาชนจะกลับมาให้การยอมรับและความเชื่อมั่นตัดสินใจเลือกพรรคประชาชนของเรา

ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่มีการปะทะกันอยู่ ในขณะที่พรรคประชาชนในอดีตเคยรณรงค์ว่าทหารมีไว้ทำไม แล้วถูกนำมาโจมตีในการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำอย่างไร นายศรายุทธิ์ ยอมรับว่าที่ผ่านมาเราถูกโจมตีเรื่องนี้จากหลายทาง ซึ่งเรายังไม่สามารถชี้แจงให้กับประชาชนเข้าใจได้ทั้งหมด แต่ช่วงเวลาอีกประมาณ 50 วันนี้ประชาชนจะตื่นตัว จะรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย เป็นโอกาสดีที่จะทำความเข้าใจกับประชาชนได้ และยังเชื่อคะแนนของพรรคแม้ผลโพจะลดลงเพราะคะแนนไปกองอยู่ที่คนยังไม่ตัดสินใจ

"หมายความว่าเขายังไม่ไปที่ไหนยังคงรอเราอยู่ ว่าเราสามารถชี้แจงเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้เพียงใด" นายศรายุทธิ์กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่เหมือนในอดีตที่มีกระแสเบื่อลุง แต่ครั้งนี้มีกระแสรักชาติจากสถานการณ์ชายแดนถือว่าพรรคเสียเปรียบหรือไม่ นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า คิดว่ากระแสการเลือกตั้งและสถานการณ์แต่ละครั้งต่างกัน แม้ครั้งนี้ไม่มีกระแสเบื่อลุง แต่ยังมีกระแสความไม่พอใจกับการแก้ปัญหาจองรัฐบาล พรรคประชาชนชนะเลือกตั้งแต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ มีรัฐบาลมา 2 ปีกว่ามีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพเปลี่ยนนายก 3 ครั้ง

ขณะที่สถานการณ์ชายแดนก่อให้เกิดปัญหาต่อประเทศรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจสังคมสแกมเมอร์ คิดว่าบรรยากาศปัจจุบัน ประชาชนรู้สึกหมดหวังกับสภาพที่กำลังเผชิญอยู่ ถ้าพรรคประชาชนมีนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชน มีทีมบริหารที่ประชาชนเชื่อมือ เชื่อว่ายังมีโอกาสอยู่ และการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกจริง ๆ

เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมายังมี สว.อยู่ และเมื่อย้อนหลังไป 15 ปีการเลือกตั้งไม่นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลตามเสียงของประชาชน ครั้งสุดท้ายคือปี 2554 ที่ประชาชนเลือกนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีและได้เป็นรัฐบาล แต่หลังจากนั้นผลการเลือกตั้ง 2 ครั้งสุดท้าย ผลของการเลือกตั้งไม่ได้นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล นี่คือโอกาสที่ประชาชนจะรู้สึกว่าครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ ที่เขาจะมีส่วนเลือกอนาคตจริง ๆ มั่นใจทีมงานพรรคประชาชนที่ทำงานมาต่อเนื่อง มั่นใจว่านโยบายของเราตอบโจทย์ประชาชนได้

เมื่อถามถึงจุดยืนเรื่อง 112 ยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า คงพูดไม่ได้ หลังมีคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญ " ผมคิดว่าจะดีกว่าถ้าเราไม่พูดและไม่พูดเรื่องนี้ในการเลือกตั้ง "

ส่วนปัญหาผู้สมัครคนเก่าไม่ได้ไปต่อกับพรรค นายศรายุทธิ์ ระบุว่า ผู้สมัครมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง เช่น เขตบางขุนเทียน อย่างนายนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีตสส.กทม. ก็ไม่ได้ลงสมัคร สส.เขต พร้อมบอกว่าพรรคมีความเป็นมวลชน ประชาชนสมาชิกพรรคมีส่วนร่วมมีความเป็นเจ้าของ

" ดังนั้นในการตัดสินใจเลือกแต่ละครั้ง บางเขตอาจมีผู้สมัครเยอะ แต่เราเลือกได้แค่คนเดียว สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยก็แสดงออกถึงความไม่พอใจ แต่คิดว่าสมาชิกส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นในการตัดสินใจของพรรคอยู่ " นายศรายุทธิ์กล่าว

ขณะเดียวกันนายศรายุทธิ์ ก็ยอมรับว่าพรรคมีความสำคัญกว่าตัวบุคคลตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ แนวทางในการสร้างพรรคของเราคือพรรคเป็นสถาบันการเมืองอย่างแท้จริง ทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าของ ดังนั้นจะเห็นว่าความนิยมของพรรคจะสูงกว่าความนิยมของตัวบุคคล และคะแนนความเลือกตั้งในแต่ละเขตก็เป็นแบบนั้นในการเลือกตั้งปี 2566 มั่นใจว่าความแข็งแกร่งของพรรคมีมากกว่าตัวบุคคล

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีกระแสความนิยมของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เหมือนกับกระแสของนายพิธาที่มีออร่ามากกว่า นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า ความนิยมของนายพิธาเกิดขึ้น 1 เดือนก่อนการเลือกตั้ง นายณัฐพงษ์ยังมีเวลาเหลืออีก 7 สัปดาห์ที่จะทำให้มีกระแสความนิยมได้ ซึ่งเชื่อว่าความนิยมของตัวบุคคลของก่อนการเลือกตั้ง เกิดจากประชาชนมีความหวังที่มีต่อพรรคและนโยบายของพรรค อยากให้พรรคนี้เป็นรัฐบาล ทำให้คะแนนความนิยมบุคคลเพิ่มตาม เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมนายณัฐพงษ์จะเจิดจรัสไม่น้อยกว่านายพิธา

เมื่อถามว่านายณัฐพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่าหากพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลพรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านเป็นการปิดทางจับมือในอนาคตหรือไม่ นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ แต่นายณัฐพงษ์มองความเป็นไปได้คงไม่ได้หมายความว่าปิดทาง 100% เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นสิ่งที่ชี้ว่าเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลดังนั้นถ้าอยากเห็นพรรคประชาชนเป็นรัฐบาลจะต้องเลือกให้ พรรคอันดับ 2 และ 3 ไม่สามารถจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลได้ เชื่อว่าเนื้อหาที่นายณัฐพงษ์พูดน่าจะหมายถึงแบบนี้มากกว่า
เพราะถ้าพรรคประชาชนไม่ชนะเด็ดขาดโอกาสที่จะได้เป็นรัฐบาล พรรคอันดับ 2 และ 3 อาจจะจับขั้วกันเหมือนครั้งที่ผ่านมา

ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีตสส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เราได้สส. 32 เขต และรอบนี้เราจะได้เพิ่มอีก 1 เขต เป็น 33 เขต คาดว่าพื้นที่ กทม.ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ที่ระบุว่าเราจะกวาดที่นั่งทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ หลายสื่อก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายเราก็ทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นจริงในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าชาวกทม.จะยังสนับสนุน ผู้สมัครสส.และนโยบายของพรรค เพราะเรามีทีมบริหารและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน และรองนายกรัฐมนตรีที่ได้เปิดตัวไปแล้ว ที่จะเพิ่ม การตัดสินใจให้กับประชาชนได้มากพอสมควร

ทั้งนี้นายณัฐชายังยืนยันและมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถชนะได้ทั้ง 33 เขต จอง กทม. ในฐานะที่ดูพื้นที่ของกทม. เห็นตัวผู้สมัครครบทั้ง 33 คนแล้ว เรามั่นใจว่าผู้สมัครของเรามีคุณสมบัติครบ เพียบพร้อมที่จะทำให้คนกรุงเทพตัดสินใจ และวางใจได้ในการทำหน้าที่ตัวแทนของพวกเรา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพื่อไทยเปิดตัว 'รุ่งเพชร ศรีกาญจนา' เสริมทัพหนองบัวลำภู เผย 'ไชยา' ลาออกจบกันด้วยดี

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้เปิดตัว และสวมเสื้อต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร สส. จังหวัดหนองบัวลำภู เขต 2 คือ นายรุ่งเพชร ศรีกาญจนา แทนนายไชยา พรหมา ซึ่งได้แจ้งความประสงค์ลาออกจากพรรคไปก่อนหน้านี้ 

กล้าธรรมเปิดตัว 7 ผู้สมัคร เด็กเก่าเพื่อไทยเพียบ ซัดพรรคเก่าเป็นรัฐบาล 2 ปี รับปากแล้วไม่ทำ

"กล้าธรรม" เปิด​ตัว​ 7 ว่าที่ผู้สมัครสส.​ ย้ายซบ​ "ธรรมนัส​" ชี้สนามเลือกตั้งคือสนามรบ​ จบศึกทำงานร่วมกันได้ ป้อง "ไชยา​" อย่าเรียกงูเห่า​ ขณะเจ้าตัวขอทำพื้นที่อีสาน​ มั่นใจตอบโจทย์เกษตรกร ซัดพรรคเก่า​ 2 ปีเป็นรัฐบาลสัญญาประชาชนไว้ทำไม่ได้​สักอย่าง​ ขณะที่​ 2 สส.เพื่อไทยศรีสะเกษ​ โดดร่วมงานหลังถูกภูมิใจไทยหักอกไม่ส่งลงเขต

กกต. เริ่มเปิดลงทะเบียน 'เลือกตั้งล่วงหน้า' 1 ก.พ. ไม่รวมออกเสียง 'ประชามติแก้ รธน.'

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ณ หน่วยเลือกตั้งที่ท่านมีชื่อตามทะเบียนบ้านได้

'ชูวิทย์' ฟันธงเลือกตั้ง พรรคประชาชนต่ำ 100 ชี้เดินเกมผิดพลาดครั้งใหญ่

"ชูวิทย์" วิจารณ์ "ธนาธร" เลือกเดินเกมแก้รัฐธรรมนูญผ่านพรรคภูมิใจไทยคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่ใช่การประนีประนอม พร้อมคาดผลเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนอาจได้ สส. ต่ำกว่า 100 จากกระแสที่เปลี่ยนและความเชื่อมั่นที่ลดลง

'ธรรมนัส' ลั่นกล้าธรรม พร้อมปักธงภาคเหนือ ส่งผู้สมัครครบทุกเขต

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) เปิดเผยถึงความพร้อมของพรรคกล้าธรรมในการส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)