‘ยศชนัน’ ลั่นพกหัวใจมาจับได้เบอร์ไหนไม่สำคัญ ‘จุลพันธ์’ เปิดทางจับมือได้ทุกพรรค

“ยศชนัน” ลั่น พกหัวใจมา จับได้เบอร์ไหนไม่สำคัญ “จุลพันธ์” บอก จับมือได้ทุกพรรคมั่นใจ นโยบายพท.ทำได้ ไม่มีครึ่ง ๆ กลาง ๆ “สุริยะ” โว รอบนี้กวาดได้เยอะกว่าเดิม

28 ธ.ค. 2568 – เมื่อเวลา 06.30 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เดินทางมาถึงโรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ แจ้งวัฒนะ 

ผู้สื่อข่าวสอบว่า เล็งตัวเลขไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายยศชนัน กล่าวว่า เรื่องตัวเลขไม่เป็นไร วันนี้ได้เลขไหนก็พร้อมที่จะทำงานให้กับประชาชนทุกคน 

เมื่อถามว่า ได้พกของขลังเพื่อเป็นขวัญกำลังใจหรือไม่ นายยศชนัน กำมือวางที่หน้าอกก่อนจะบอกว่า ใจอย่างเดียว มีใจกับทีมงาน เมื่อวานได้กำลังใจจากว่าที่ สส. เขต ทุกคนมีขวัญกำลังใจพร้อม และวันนี้ทีมปาร์ตี้ลิสต์พร้อม ซึ่งวันนี้มากันกว่า 30 คน โดยกิจกรรมหลังจากได้เบอร์แล้ว ก็น่าจะเป็นการพบปะประชาชนในบริเวณใกล้เคียง สิ่งสำคัญที่สุด คืออยากให้วันนี้เป็นวันเริ่มต้นแห่งความหวังอีกครั้งหนึ่ง ประเทศไทยตอนนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า เป็นปีที่พวกเราจำเป็นต้องสามัคคีกัน ครั้งนี้นโยบายของพรรคเป็นไปในแนวทางที่ดูแลทั้งประชาชนรากหญ้า ซึ่งจำเป็นต้องทำ และอีกแนวทางหนึ่งคือการสร้างเศรษฐกิจใหม่สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้พี่น้องประชาชน วันนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมเต็มที่ เราเคยทำสิ่งนี้มาเหลืออีกนิดเดียว เราจะสามารถทำให้สำเร็จ ขอโอกาสพี่น้องประชาชน ครั้งนี้พวกเราพร้อมที่มองปัญหาในสายตาพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า หลายคนมองว่า หลายนโยบายของพรรคเป็นนโยบายเดิม ที่นำมาสานต่อ จะมีนโยบายใดใหม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มีนโยบายที่จะเปิดอีก 2 รอบ ซึ่งจะเป็นตัวตัดสิน เป็นคำตอบ และเป็นความหวัง ให้พี่น้องประชาชนว่าประเทศไทยจะสามารถเดินหน้าได้อย่างแข็งแรง ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย 

เมื่อถามว่า จะเป็นนโยบายประชานิยมแบบเดิมหรือไม นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ถ้าประชาไม่นิยมมันก็ไม่เกิดประโยชน์ นโยบายที่พรรคเพื่อไทยทำ เป็นนโยบายที่ประชาชน จับต้องได้ และได้ประโยชน์กับประชาชน เชื่อว่าประชาชนต้องนิยมชมชอบแน่นอน

เมื่อถามว่า จะไม่มีปัญหาเหมือนรอบนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่มี เราผ่านประสบการณ์ที่เราเป็นรัฐบาล เรารัฐราชการที่แข็งแกร่ง วันนี้กลไกหนึ่งที่เราต้องทำคือการเปลี่ยนรัฐอุปสรรค ให้เป็นรัฐสนับสนุน ซึ่งไม่ใช่แค่การสนับสนุนใครก็ตามที่มาเป็นรัฐบาล แต่ต้องสนับสนุนให้บริการประชาชน ให้ดียิ่งขึ้นต้องมีการปรับปรุง ปฏิรูปโครงสร้างรัฐเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า นโยบายที่ออกมาจะไม่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ และนายยศชนัน หันมองหน้ากัน ก่อนจะตอบว่า ครับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทย ได้วางแผนการหาเสียงเลือกตั้งอย่างไร นายยศชนัน กล่าวว่า ตอนนี้แคนดิเดตนายกฯ ทั้งสามคน รวมถึงผู้สมัคร สส. ของพรรคเพื่อไทย มีความเชี่ยวชาญต่างกัน และสามารถทำงานแทนกันได้ ซึ่งได้มีการวางแผนหาเสียงไว้ในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า ประเมินตัวเลข สส. บัญชีรายชื่อของพรรคไว้เท่าเดิมหรือไม่ ลดลงแค่ไหน นายสุริยะ กล่าวว่า มากกว่าเดิมแน่นอน เพราะนโยบายต่าง ๆ ของพรรคเพื่อไทย เมื่อเปิดไปแล้วประชาชนต้องชอบ เพราะเราทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน

เมื่อถามว่า ประเมินกระแสส่วนตัวของนายยศชนันอย่างไร นายยศชนัน กล่าวว่า เรามองตั้งแต่เกิด ซึ่งยังไม่สามารถเลือกตั้งได้ สิ่งสำคัญที่สุด เริ่มตั้งแต่พื้นฐานของเยาวชน เราพยายามสื่อสารตลอดว่าอยากให้เป็นความหวัง มีความจำเป็นต้องทำนโยบายในส่วนนี้ เพื่อให้เยาวชนสามารถเติบโตมาได้อย่างดีที่สุด 

นายยศชนัน กล่าวว่า ในเรื่องการทำงานก็ได้มีการสื่อสารในเรื่องการสร้างโอกาส สร้างรายได้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ โดยทำให้โอกาสใหม่ ๆ เข้ามา และอีกนโยบายคือการดูแลผู้สูงอายุ การดูแลคนเกษียณ ด้านการศึกษา สาธารณสุข ก็เป็นส่วนหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยทำนโยบายมาตั้งแต่ไทยรักไทย  

เมื่อถามว่า ประเมินว่ารอบนี้ จะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า หลังจากที่เปิดชื่อนายยศชนัน เป็นแคนดิเดตเบอร์หนึ่ง และเดินสายออกรายการต่าง ๆ ก็ทำให้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยต่างแย่งตัวกัน เพื่อชวนไปพบชาวบ้าน ตนจึงคิดว่าช่วงนี้นายยศชนัน ต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรง เพื่อเตรียมตัวลงพื้นที่ และหาเสียง และหากได้รับเลือกจากประชาชนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องทำงานหนักกว่านี้

เมื่อถามถึงความพร้อมในการจับมือจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างส้มกับน้ำเงิน พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคไหน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มาโฟกัสว่าใครจะจับกับใคร เพราะวันนี้อย่าดูถูกประชาชนให้ประชาชนได้ตัดสินการเลือกตั้งจากนโยบาย จากตัวบุคลากรที่เขารักและชอบ และพรรคการเมืองที่เชื่อมั่น ไปตัดสินคนอื่นในนาทีนี้คงยังไม่ได้ เหมือนที่นายยศนันบอกว่าประชาชนไม่มีเทา ถ้าประชาชนเลือกมา เราต้องเคารพ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเราไม่มีข้อจำกัดว่าจะจับ หรือไม่จับกับใคร แต่มีความเชื่อมั่น จะเดินหน้าสู่การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ใครที่จะมาร่วมกับเราต้องศึกษาทำความเข้าใจนโยบายของพรรคเพื่อไทย และพร้อมสนับสนุนการทำงานนโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ครั้งที่แล้วเราก็เจอบทเรียนที่มีพรรคร่วมที่อาจไม่สอดประสานในบางจุด ฝากทุกพรรคการเมืองถ้ามีเวลา ก็ศึกษานโยบายพรรคเพื่อไทย เพราะในอนาคต พอจัดตั้งรัฐบาลจะได้มาคุยกัน ว่าพร้อมที่จะทำงานร่วมกันหรือไม่ ก่อนย้ำว่า จุดยืนเพื่อไทยขณะนี้ไม่ได้ติดขัด ในการจับมือกับพรรคใด พรรคเพื่อไทยให้เกียรติประชาชน ในการเลือกตั้งต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินก่อน 

ส่วนคำถามที่บอกว่กเป็นพรรคอันหนึ่ง จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากทุกคนหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนขอตอบเลยว่ามันอยู่ที่กระบวนการประชาธิปไตย เสียงอันดับหนึ่งได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน เรายึดมั่นมาโดยตลอด ครั้งที่แล้วตอนปี 2562 พรรคเพื่อไทยก็ยึดมั่นเช่นเดียวกัน ได้ให้พรรคอันดับหนึ่งดำเนินการในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อจับไม่ได้ จึงเป็นลำดับที่สองดำเนินการ แต่ไม่มีที่พรรคอันดับหนึ่งแล้วทุกคนต้องยกมือให้ เป็นการเข้าใจหลักการประชาธิปไตยคลาดเคลื่อน ต้องมาคุยกันว่านโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน

“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่

‘สมศักดิ์’ นำผู้สมัครเพื่อไทย 3 จังหวัด สักการะมหาราชก่อนจับเบอร์

“สมศักดิ์” นำผู้สมัคร สส. เพื่อไทย “ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก” สักการะมหาราชทั้ง 3 พระองค์ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช-พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช-ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนลุยจับเบอร์สู้ศึกเลือกตั้ง