30 มี.ค.2565 - ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงผลงานด้านการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินในช่วงเดือน ต.ค.64 – ก.พ.65 ว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไว้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริง ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของรายการทรัพย์สินและหนี้สินจำนวน 2,971 บัญชี โดยแยกเป็นสำนักงาน ป.ป.ช.ส่วนกลาง 3,536 บัญชี สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด 22,435 บัญชี และได้ดำเนินการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินโดยติดประกาศที่สำนักงานป.ป.ช.ส่วนกลางและสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัด พร้อมกับเปิดเผยทางเว็บไซต์
นายนิวัติไชย กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 65 ได้มีการชี้มูลความผิดกรณีจงใจยื่นบัญชีบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน 1 เรื่อง คือ กรณีนายมโน ชูนุตร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา จังหวัดพังงา โดยได้มีมติส่งให้ศาลที่มีเขตอำนาจวินิจฉัยในปี 65 นอกจากนี้ คณะกรรมการป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นหรือคำวินิจฉัยว่าผู้ใดร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 3 เรื่อง มีมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 151,067,518 บาท ได้แก่ 1. ชี้มูลดาบตำรวจสายัณ อบเชย ผู้บังคับการหมู่กลุ่มงานวิชาชีพและเชียวชาญกองโยธาธิการ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 97,616,150 บาท โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากการไต่สวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ (แฟลต) ขนาด 30 ครอบครัว สูง 5 ชั้น จำนวน 163 หลัง ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยดาบตำรวจสายัณตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในฐานะผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับเงินจากผู้รับจ้างก่อสร้างจำนวน 91,618,000 บาท แต่ดาบตำรวจสายัณได้มีการโอนหรือยักย้ายถ่ายเทไปยังบัญชีเงินฝากของตนเอง หรือบัญชีเงินฝากของคู่สมรสจำนวนหลายครั้ง จนกระทั่งมีการถอนเงินไปซื้อที่ดินจำนวน 10 แปลง เมื่อพิจารณาจากรายได้และการแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประกอบกับประวัติการรับราชการแล้วมีรายได้และฐานะทางการเงินไม่สัมพันธ์กับทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น
2.ชี้มูลนายปัญญา เขียวธง นายกเทศมนตรีตำบลต้นธง จังหวัดลำพูน จากการไต่สวนพบว่า นายปัญญามีทรัพย์สินมากผิดปกติ มีทรัพย์เพิ่มขึ้นมากผิดปกติ และมีหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้รับทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูล อันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ มูลค่ารวม 960,000 บาท และ 3.ชี้มูลนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ จากการตรวจสอบพบว่า นายฉัตรณรงค์มีทรัพย์สินที่ไม่พึงวิสัยจะมีได้เมื่อเทียบกับรายได้ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง จำนวน 52,491,368 บาท อาทิ บัตรเครดิตมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 34 ล้านบาท ผ่อนรถยนต์เบนซ์หลายคัน เงินฝากคู่สมรสมี 9.4 ล้านบาท และมีเงินเพิ่มขึ้นในบัญชี 7 ล้านบาท โดยไม่สามารถชี้แจงและให้เหตุผลกับ ป.ป.ช.ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
ป.ป.ช. สอบคุกวีไอพี ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ
ป.ป.ช.ลุยตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกสอบสิทธิพิเศษ “ผู้ต้องขังจีนเทา” ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ จ่อรายงานบอร์ดป.ป.ช.พิจารณาต่อ
มาแล้ว 'ศรีสุวรรณ' ยื่น ป.ป.ช. สอบอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพกับพวก เอื้อนักโทษจีนเทา
นายศรีสุวรรณ จรรยา องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิด อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯกับพวก หลังถูกย้ายให้ไปเป็นผู้ตรวจฯ หลังตรวจพบมีการนำหญิงสาวมาบริการนักโทษจี
'สอบสวนกลาง' แถลงผลปฏิบัติการ ทวงทรัพย์สินหมื่นล้าน คืนวัดพระบาทน้ำพุ
สอบสวนกลางปฏิบัติการ “คืนศรัทธา บอกลางมงาย สไตล์ CIB” ทวงคืนทรัพย์สินสู่วัดพระบาทน้ำพุ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
ซ้อนแผนจับ หัวหน้าช่าง-คนสนิทนายก อบต. รีดเงิน 6.5 ล้าน แลกใบอนุญาตก่อสร้างโกดัง
บุกจับถึงห้องทำงานหัวหน้าช่าง อบต.หัวหว้า-เลขาฯนายกอบต. รีดเงินผู้ประกอบการ 6.5 ล้าน แลกใบอนุญาตสร้างโกดัง
ดาบปราบโกงที่บิดเบือน เมื่อ ‘ป.ป.ช.’ ตีตก ม.144 เปิดช่องนักการเมืองลอยนวล?
การเมืองไทยกำลังยืนอยู่บนเส้นแบ่งบางระหว่าง “ความยุติธรรม” กับ “การตีความกฎหมาย” และผู้ถือดาบปราบโกงกลับอาจเป็นคนหันปลายดาบเข้าหาประชาชนเอง


