
'จาตุรนต์' ร่ายยาวชี้กฎหมายเมื่อบังคับใช้ต้องยุติธรรมและมีมนุษยธรรม บอกคดีทานตะวันต้องปล่อยตัวเพราะเด็กเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าทำเพื่อประโยชน์บ้านเมือง
26 พ.ค.2565 – นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “การเลือกปฏิบัติทางคดีอาญากรณี "ตะวัน" : กฎหมายเมื่อบังคับใช้ ต้องยุติธรรมและมีมนุษยธรรม” ระบุว่า ผมเคยแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินคดีความมั่นคงโดยเฉพาะคดีที่เกิดจากการมีความคิดเห็นแตกต่างจากรัฐมาหลายครั้งว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐในขั้นตอนต่างๆในหลายคดี ไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและไม่เป็นไปตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ผมเคยเสนอว่าจะต้องมีการแก้กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บังคับใช้กฎหมายทำผิดกฎหมายเสียเองและเพื่อคุ้มครองผู้ที่ถูกดำเนินคดีให้ได้รับความยุติธรรมกว่าที่เป็นอยู่ ก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและเห็นต่างอยู่บ้าง ที่เห็นต่างคือเขาเห็นว่ากฎหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ผู้ใช้กฎหมายไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต่างหาก ผมก็ยังเห็นว่าในเมื่อยังมีกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอยู่เนืองๆเช่นนี้ ก็ควรจะสังคายนาทั้งกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและการบังคับใช้กฎหมายนี้กันเสียที แต่จะแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบคงไม่เกิดขึ้นง่ายๆในเร็วๆนี้
ผมติดตามข่าวคราวเรื่องของน้องตะวัน นักศึกษาวัย 20 ปี ที่ถูกคุมขังมา 35 วันโดยไม่ได้รับการประกันตัว ทราบว่าน้องตะวันอดอาหารประท้วง ไม่ใช่เพื่อให้ได้รับการประกันตัว แต่เพื่อเรียกร้องให้เกิดความยุติธรรมในบ้านเมือง มีเพื่อนผมหลายคนไปร่วมกิจกรรมเรียกร้องให้น้องตะวันได้รับการประกันตัวเล่าให้ฟังว่าน้องตะวันจะต้องไปสอบ ถ้าไม่ไปสอบก็อาจขาดจากการเป็นนักศึกษาไปเลย และขณะนี้สุขภาพก็แย่ลงมาก ทุกคนก็เป็นห่วงกันมาก
ผมฟังเพื่อนๆ ประมวลเรื่องราวแล้วก็รู้สึกว่าผมควรจะได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ ถึงแม้อาจจะไม่ต่างอะไรจากที่เคยแสดงความเห็นมาก่อนหน้านี้ แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้าง
การไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาต้องมีเหตุคือเชื่อว่าจะหลบหนีหรือปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้วจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
การไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วยเหตุผลว่าสอบสวนยังไม่เสร็จนั้น ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นการเลือกปฏิบัติเพราะก็เห็นมีคดีอีกมากมายให้ประกันตัวไปทั้งที่ยังไม่เริ่มสอบสวนใครเลย
ส่วนการอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ตองหาไปกระทำความผิดซ้ำก็ไม่อยู่ในหลักกฎหมาย โดยเฉพาะการตั้งข้อหาที่เกิดจากการแสดงความคิดเห็น ยังไม่มีการพิสูจน์ว่าการแสดงความคิดเห็นอย่างนั้นผิดกฎหมายจริงหรือไม่ จะปฏิบัติกับเขาเหมือนผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดแล้วไม่ได้
บุคคลจะได้รับโทษทางอาญาต่อเมื่อต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิดกฎหมาย หากยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด จะปฏิบัติต่อเขาอย่างผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดกฎหมายแล้วไม่ได้ เรื่องนี้เป็นหลักสากลอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันด้วย
แต่จะว่าไปแล้วความเห็นแบบนี้ก็เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นความรู้ทั่วไปเสียแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีวิธีที่จะทำให้เกิดการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
มาถึงขั้นนี้ก็คงต้องยกเรื่องที่เป็นพื้นฐานที่สุดมาพูดกัน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้จะนึกบ้างหรือไม่ว่าการที่เด็กที่มีความเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าสิ่งที่เขาพูดเขาทำเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ กำลังแสดงให้เห็นว่าระบบการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นอยู่ไร้มนุษยธรรมและไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง ช่วยกันทำให้เกิดความถูกต้องเถอะครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ


