ใช้กระสุนจริง! 'ไตรรงค์' เล่า 'การรักษาความปลอดภัยระดับการประชุมนานาชาติ'

27 ต.ค.2565 - ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์โพสต์ว่า #การรักษาความปลอดภัยระดับการประชุมนานาชาติ

เมื่อ พ.ศ. 2553 ผมได้รับเชิญจากท่านประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา (Barack Obama) ให้เข้าประชุมร่วมกับผู้นำของประเทศต่างๆ รวมทั้งหมด 47 ประเทศ (ที่ต้องเชิญผมไปก็เพราะท่านนายกอภิสิทธิ์ติดภาระกิจที่ต้องแก้ปัญหาพวกเสื้อแดงที่ยึดสี่แยกราชประสงค์และสวนลุมพินีเอาไว้) วัตถุประสงค์ของการประชุมนานาชาติในครั้งนี้ก็เพื่อหามาตรการควบคุมการขยายการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศต่างๆในโลก หรือเรียกกันเป็นภาษาอังกฤษว่า Nuclear Security Summit (12-13 เมษายน 2553)

สถานที่ที่เขาเตรียมไว้ใช้ในการประชุมจะเป็นห้องประชุมในอาคารใหญ่คล้ายๆ ศูนย์สิริกิตติ์แต่ใหญ่กว่าและมีพื้นที่ห่างระหว่างรั้วกับตัวอาคารก็มีมากกว่าด้วย นอกจากจะมีรั้วสูงแข็งแรงรอบด้านแล้วก็ยังมีกำแพงก้อนลวดหนาม (หีบเพลงลวดหนาม) อีกชั้นหนึ่งเพื่อกันคนกระโดดข้ามกำแพงเข้ามา ถัดจากกำแพงลวดหนามก็จะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (ไม่ทราบว่าเป็นตำรวจหรือทหาร) ซึ่งมีอาวุธครบมืออีกชั้นหนึ่ง และจะมีมากพร้อมเครื่องมือยานพาหนะเพื่อสลายการชุมนุมอย่างครบครันในบริเวณทางเข้า-ออกของบริเวณที่มีอาคารอยู่ภายในเพื่อใช้ในการประชุมในครั้งนั้น

เขาจัดให้ผมและภรรยาได้พักที่ห้อง 4 ตอน คือมีทั้งห้องนอน ห้องสมุด ห้องทานอาหาร และห้องรับแขกที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน เขาจะจัดให้มีฝ่ายรักษาความปลอดภัยอารักขาอยู่หน้าห้องที่เราอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ภรรยาจะขออนุญาตออกจากห้องเพื่อไปซื้อของบางอย่าง ก็ต้องไปกับพวกรักษาความปลอดภัยอารักขาอย่างเข้มงวดทั้งขาไปและขากลับ

ตอนเช้าจะมีรถกันกระสุนมารับผมมีฝ่ายรักษาความปลอดภัยอาวุธครบมือนั่งขนาบซ้ายขวา และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศเป็นผู้หญิงนั่งข้างหน้าคู่กับคนขับจะมีรถนำและรถตามให้ความคุ้มครองตลอดทาง เมื่อขบวนไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยกันฝูงชนให้เปิดทางให้ขบวนวิ่งเข้าประตูที่คอยเปิดรับและปิดทันทีเมื่อขบวนผ่านประตูแล้ว ผมถามเจ้าหน้าที่ที่อารักขาผมว่าถ้าพวกที่ชุมนุมอยู่นอกกำแพงเกิดพังประตูแล้วกรูเข้ามาทำลายการประชุม (เหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่พัทยาในการประชุม ASEAN SUMMIT ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ) พวกเขาจะป้องกันหรือแก้ไขอย่างไร ผมได้รับคำตอบว่ากฎหมายของสหรัฐฯ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถยิงทุกคนด้วยกระสุนจริง (Shoot at sight) ถ้าใครบังอาจแหกด่านเข้ามา คนยิงจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายว่าไม่มีความผิด คนที่ถูกยิงก็จะตายฟรีอย่างแน่นอนในฐานะคนที่ทำผิดเพราะทำลายเกียรติภูมิของชาติ

ก็ไม่มีอะไรหรอกครับแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ จะได้เห็นว่าแม้ประเทศที่ประกาศตั้งตัวเองเป็นผู้พิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยของโลกและประกาศเชิดชูเสรีภาพในการแสดงความเห็นว่าเป็นสิทธิมนุษยชนที่ต้องปกป้อง แต่เขาก็มีกรอบให้ใช้เสรีภาพเท่าๆ ที่เหมาะที่ควรเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาทั้งเกียรติยศและเกียรติศักดิ์ของรัฐบาลที่เป็นเจ้าภาพและเป็นการรักษาเกียรติภูมิของประเทศของตนเอาไว้ด้วย ก็เพื่อให้ประเทศได้รับความเชื่อถือและนับถือจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกสืบไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แห่ฝากบ้านกับตำรวจ 3 พันหลัง 'บิ๊กต่าย' สั่งตรวจตราเข้ม

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2569 นี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

‘อนุทิน’เป็นปลื้ม! ไทยกลับเวทีโลก

นายกฯ ดีใจไทยได้กลับมาในเวทีโลกแม้เปลี่ยนรัฐบาล ผู้นำหลายประเทศตอบรับดี ชู 3 แนวทางเวทีเอเปก “ส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค-เป็นผู้นำพัฒนา AI-เน้นเสริมพลังสังคมรับสูงวัย”

นายกฯ ชู 3 แนวทางบนเวทีเอเปก 'ร่วมมือภูมิภาค-พัฒนาAI-เสริมพลังสังคมสูงวัย'

นายกฯอนุทิน ร่วมเวทีผู้นำเอเปกที่เกาหลีใต้ เสนอแนวทางขับเคลื่อนภูมิภาคให้พร้อมรับอนาคต เน้นความร่วมมือ การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบ และการสร้างสังคมที่แข็งแรงในยุคสูงวัย

'แม่ทัพภาค 4' สั่งคุมเข้มยะลา หลังโจรใต้ป่วนหนัก วันก่อตั้ง 'เบอร์ซาตู'

ยะลาคุมเข้ม ครบรอบก่อตั้งขบวนการเบอร์ซาตู ตรวจเข้มบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัยคุมเข้มพื้นที่เศรษฐกิจตามแนวชายแดนไทย -มาเลเซีย

รวมไทยสร้างชาติเลือดไหลแล้ว! 'เนเน่ รัดเกล้า' ลาออก ไม่ทนอยู่ร่วมรัฐบาลแพทองธาร

เนเน่ รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี ลูกสาวอดีตรองนายกฯ ไตรรงค์ ประกาศลาออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังพรรคไม่ถอนตัวจากรัฐบาล แม้เกิดคลิปเสียงแพทองธาร–ฮุนเซน ระบุขอก้าวออกไปยืนในจุดของประชาชนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และอธิปไตย

‘อิ๊งค์’ โชว์30บ. เวทีผู้นำเอเปก

นายกฯ อิ๊งค์โชว์ผลงาน 30 บาทรักษาทุกที่ บนเวทีผู้นำภาคเอกชนเอเปก พร้อมชวนลงทุนด้านธุรกิจดูแลสุขภาพในไทย มั่นใจหลังให้นโยบาย “บีโอไอ”